4 ข้อคำถามจากนายกฯ ประชาชนเห็นว่ามีนัยให้ประชาชนตระหนักถึงสถานการณ์บ้านเมืองก่อนการเลือกตั้งว่ามั่นคงหรือยัง โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 69.6 เห็นว่าควรจัดเลือกตั้ง เมื่อสถานการณ์ประเทศอยู่ในภาวะเหมาะสม ทั้งนี้ร้อยละ 61.1 มั่นใจค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ว่ารัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง จะแก้ปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียงได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลในการ เลือกตั้งครั้งต่อไปได้อีกทั้งยังห่วงกังวลว่าช่วงเวลาจากนี้ไปจนถึงการเลือกตั้งตามโรดแมป จะมีการสร้างสถานการณ์ต่างๆเช่นวางระเบิดสร้างความไม่สงบฯลฯ
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “4 ข้อคำถามจากนายกฯ สู่ โรดแมปการเลือกตั้ง” โดยเก็บข้อมูลจาก ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,227 คน พบว่า
จาก 4 ข้อคำถามของนายกรัฐมนตรี ที่ฝากไว้กับประชาชนในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ประชาชนร้อยละ 30.2 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมีนัยเพื่อให้ ประชาชนตระหนักถึงสถานการณ์บ้านเมืองก่อนการเลือกตั้งว่ามั่นคงหรือยังรองลงมาร้อยละ 29.4 มีนัยว่าหากบ้านเมืองยังไม่สงบเรียบร้อยอาจจะไม่ได้จัดการเลือกตั้งตามโรดแมป และ ร้อยละ 26.6 มีนัยว่า หากไม่มีความสุจริตเที่ยงธรรมในการเมืองก็จะไม่มีการเลือกตั้ง ที่เหลือร้อยละ 13.8 มีนัยเพื่อส่งสัญญาณถึงนักการเมืองว่าได้จัดการปฏิรูปพรรคการเมืองและตนเอง แล้วหรือยัง
ทั้งนี้เมื่อถามถึงระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการจัดการเลือกตั้งในประเทศไทย พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 69.6เห็นว่าควรจัดเลือกตั้งเมื่อสถานการณ์ประเทศอยู่ใน ภาวะเหมาะสมขณะที่ร้อยละ 30.4 ระบุว่าควรจัดเลือกตั้งตามเวลาที่กำหนดไว้ในโรดแมป
ส่วนความมั่นใจที่มีต่อรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงว่าจะทำให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปปราศจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียงได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล นั้นประชาชนร้อยละ 61.1 มีความมั่นใจ ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะที่ร้อยละ 38.9 มีความมั่นใจค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
สำหรับเรื่องที่มีความกังวลมากที่สุด ในช่วงเวลาจากนี้ไปจนถึงการเลือกตั้งตามโรดแมป ประชาชนร้อยละ 40.8 กังวลเรื่องการสร้างสถานการณ์ต่างๆเพื่อสั่นคลอนบ้านเมือง เช่นวางระเบิดก่อกวนสร้างความไม่สงบฯลฯรองลงมาร้อยละ 38.7 กังวลเรื่องการระดมหัวคะแนนเพื่อเร่งหาฐานเสียงให้กับนักการเมืองด้วยวิธีที่ไม่ชอบธรรม และร้อยละ 20.5 กังวลว่า จะมีแต่นักการเมืองหน้าเดิมๆไม่มีหน้าใหม่ๆเข้ามาลงสนามในการเลือกตั้ง
โปรดพิจารณารายละเอียดดังต่อไปนี้
รายละเอียดการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับ 4 ข้อคำถามของนายกรัฐมนตรีช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดการเลือกตั้ง รวมถึงความมั่นใจที่มีต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไปภาย ใต้รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง และความกังวล ในช่วงเวลาจากนี้ไปจนถึงการเลือกตั้งตามโรดแมปเพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปโดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่าง แบบ Simple Random Sampling แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ?3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 31 พฤษภาคม– 1 มิถุนายน 2560
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 3 มิถุนายน 2560
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 653 53.2 หญิง 574 46.8 รวม 1,227 100 อายุ 18 ปี - 30 ปี 150 12.2 31 ปี – 40 ปี 234 19.1 41 ปี – 50 ปี 347 28.3 51 ปี - 60 ปี 315 25.7 61 ปี ขึ้นไป 181 14.7 รวม 1,227 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 799 65.1 ปริญญาตรี 335 27.3 สูงกว่าปริญญาตรี 93 7.6 รวม 1,227 100 อาชีพ ลูกจ้างรัฐบาล 162 13.2 ลูกจ้างเอกชน 292 23.8ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร 515 41.9
เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง 28 2.3 ทำงานให้ครอบครัว 1 0.1 พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/ เกษียณอายุ 186 15.2 นักเรียน/ นักศึกษา 27 2.2 ว่างงาน/ รอฤดูกาล/ รวมกลุ่ม 16 1.3 รวม 1,227 100--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--