ลอยกระทงปีนี้พ่อค้าแม่ค้าร้อยละ 43.4 ระบุว่าเตรียมสินค้าไว้ขายน้อยกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากตลาดดูเงียบๆ ส่วนใหญ่ร้อยละ 59.3 ระบุว่าปัจจัย ที่จะส่งผลกระทบต่อยอดขายในปีนี้ เกิดจาก ลูกค้ามีกำลังซื้อลดลง ทั้งนี้ร้อยละ 47.7 ระบุว่าต้นทุนวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำกระทงสูงกว่าปีที่แล้ว
โดยในปีนี้พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ร้อยละ 57.1 คิดว่าลูกค้าจะใช้กระทงที่ทำจากหยวกกล้วย ใบตอง และจะซื้อกระทงที่ทำสำเร็จแล้วมากกว่าการประดิษฐ์ กระทงเอง
เนื่องด้วยในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ตรงกับวันลอยกระทง กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงสำรวจความคิดเห็นของพ่อค้าแม่ค้า เรื่อง “หัวอกของพ่อค้าแม่ค้าในช่วงเทศกาลลอยกระทง” โดยเก็บข้อมูล เฉพาะพ่อค้า แม่ค้า ที่ขายวัสดุอุปกรณ์สำหรับประดิษฐ์กระทงและกระทงสำเร็จ ตามตลาด หลายๆแห่งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 436 ร้านค้า โดยผลสำรวจพบว่า
ลอยกระทงปีนี้ พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ร้อยละ 43.4 ระบุว่าจะเตรียมวัสดุ อุปกรณ์/กระทงไว้ขายน้อยกว่าปีที่แล้ว เพราะตลาดดูเงียบๆ เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ลูกค้าประหยัดขึ้น และไม่ตรงกับวันหยุด รองลงมาร้อยละ 42.4 ระบุว่าจะเตรียมของไว้พอๆ กับปีที่แล้ว เพราะยังไม่แน่ใจว่าลูกค้าจะเยอะไหม ถ้าลูกค้าเยอะค่อยมา เพิ่มทีหลัง และร้อยละ 14.2 คิดว่าจะเตรียมของไว้มากกว่าปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วของไม่พอขาย ปีนี้เปิดสถานที่ให้ลอยกระทงเพิ่มขึ้น คนน่าจะเยอะกว่าปีที่แล้ว
ทั้งนี้พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ร้อยละ 47.7 ระบุว่าปีนี้ต้นทุนสูงขึ้น รองลงมาร้อยละ 46.1 ระบุว่าต้นทุนเท่าเดิม มีเพียงร้อยละ 6.2 เท่านั้นที่ระบุว่าต้นทุนลดลง
สำหรับความเห็นต่อการจับจ่ายซื้อวัสดุอุปกรณ์/ กระทง ของลูกค้า ในปีนี้นั้น ร้อยละ 56.8 ระบุว่าส่วนใหญ่จะซื้อกระทงที่ทำสำเร็จแล้ว ขณะที่ร้อยละ 43.2 ระบุว่าลูกค้าซื้อวัสดุไปทำกระทงเอง
เมื่อให้คาดเดาว่ารูปแบบการลอยกระทงของลูกค้าในปีนี้จะเป็นอย่างไร พ่อค้าแม่ส่วนใหญ่ร้อยละ 57.1 คิดว่าลูกค้าจะใช้กระทงที่ทำจากหยวกกล้วย ใบตอง รองลงมาร้อยละ 26.4 คิดว่าจะใช้กระทงขนมปัง และร้อยละ 13.3 คิดว่าจะใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติอื่นๆ
ส่วนปัจจัยที่ทำให้กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าในช่วงเทศกาลลอยกระทง นั้น พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ร้อยละ 59.3 ระบุว่า ลูกค้ามีกำลังซื้อลดลง รองลงมาร้อยละ 50.7 ระบุว่าปีนี้วันลอยกระทงตรงกับวันธรรมดา คนอาจไม่คึกคักเหมือนปีที่แล้ว และร้อยละ 46.6 ระบุว่า ลูกค้าใช้วิธีลอยกระทงร่วมกัน เช่น ครอบครัวละ 1 กระทง หน่วยงานละ 1 กระทง ตามการรณรงค์ของรัฐบาล
โดยมีรายละเอียดดังนี้
เตรียมไว้น้อยกว่าปีที่แล้ว ร้อยละ 43.4
เพราะ ดูตลาดเงียบๆ ราคาของแพงขึ้น เศรษฐกิจไม่ค่อยดี
คนประหยัดขึ้นไม่ค่อยซื้อ วันลอยกระทงไม่ตรงกับวันหยุด มีร้าน
คู่แข่งเยอะขึ้น และเจ้าหน้าที่เทศกิจไม่ให้ขายริมฟุตบาท เป็นต้น
เตรียมไว้พอๆกับปีที่แล้ว ร้อยละ 42.4
เพราะ ขายได้พอๆกันมาทุกปี มีลูกค้าประจำ ยังไม่แน่ใจว่า
ลูกค้าจะเยอะไหม กลัวของขายไม่หมด ถ้าลูกค้าเยอะค่อยมา
เพิ่มทีหลัง เป็นต้น
เตรียมไว้มากกว่าปีที่แล้ว ร้อยละ 14.2
เพราะ ปีที่แล้วของไม่พอขาย ปีนี้เปิดสถานที่ให้ลอยกระทง
เพิ่มขึ้น คนน่าจะเยอะกว่าปีที่แล้ว และเริ่มมีลูกค้ามาสั่งจอง
กระทงกันแล้ว เป็นต้น
ต้นทุนสูงขึ้น ร้อยละ 47.7 ต้นทุนเท่าเดิม ร้อยละ 46.1 ต้นทุนลดลง ร้อยละ 6.2 3. ความเห็นต่อการจับจ่ายซื้อวัสดุอุปกรณ์/ กระทง ของลูกค้า ในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้ ซื้อกระทงที่ทำสำเร็จแล้ว ร้อยละ 56.8 ซื้อวัสดุไปทำกระทงเอง ร้อยละ 43.2 4. เมื่อให้คาดเดาว่ารูปแบบการลอยกระทงของลูกค้าในปีนี้จะเป็นอย่างไร ใช้กระทงที่ทำจากหยวกกล้วย ใบตอง ร้อยละ 57.1 กระทงขนมปัง ร้อยละ 26.4 ใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติอื่นๆ เช่น เปลือกข้าวโพด กระทงดอกบัว ฯลฯ ร้อยละ 13.3 อื่นๆ เช่น ลอยกระทงออนไลน์ ใช้กระทงที่ทำจากโฟม ฯลฯ ร้อยละ 3.2 5. ปัจจัยที่ทำให้กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าในช่วงเทศกาลลอยกระทงมากที่สุด ลูกค้ามีกำลังซื้อลดลง ร้อยละ 59.3 ปีนี้วันลอยกระทงตรงกับวันธรรมดา คนอาจไม่คึกคักเหมือนปีที่แล้ว ร้อยละ 50.7 ลูกค้าใช้วิธีลอยกระทงร่วมกัน เช่น ครอบครัวละ 1 กระทง ร้อยละ 46.6 หน่วยงานละ 1 กระทง ตามการรณรงค์ของรัฐบาล จำนวนคนลอยกระทงไม่เยอะเหมือนสมัยก่อน/ไปเดินเที่ยวงานเฉยๆ ไม่ลอยกระทง ร้อยละ 35.0 ต้นทุนสินค้าแพงขึ้น ทำให้ราคากระทงแพงขึ้นด้วย ร้อยละ 33.8 มีทางอื่นให้เลือกเยอะ เช่น ลอยกระทงออนไลน์ กระทงขนมปัง ร้อยละ 28.9 กระทงเปลือกข้าวโพด อื่นๆ เช่น ฝนตก มีร้านคู่แข่งเยอะขึ้น ฯลฯ ร้อยละ 3.9 ?
รายละเอียดในการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของพ่อค้าแม่ค้าที่ขายวัสดุอุปกรณ์สำหรับประดิษฐ์กระทงและขายกระทงสำเร็จ เกี่ยวกับการเตรียมการสำหรับค้าขายใน ช่วงเทศกาลลอยกระทง พฤติกรรมการซื้อลูกค้า ตลอดจนปัจจัยที่ทำให้กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขาย ซึ่งผลสำรวจที่ได้จะช่วยสะท้อนมุมมองของประชาชนให้ สังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจดำเนินนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่ขายวัสดุอุปกรณ์สำหรับประดิษฐ์กระทงและขายกระทงสำเร็จ ตามตลาดหลายๆ แห่งใน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 436 คน
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ซึ่งเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Ended) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูล และประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 16-19 พฤศจิกายน 2561
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 21 พฤศจิกายน 2561
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--