กรุงเทพโพลล์: “ส.ส. แบบไหนที่โดนใจคนไทย”

ข่าวผลสำรวจ Monday February 4, 2019 08:14 —กรุงเทพโพลล์

ประชาชนส่วนใหญ่ 70.0% อยากเลือก ส.ส. ที่ช่วยเหลือชุมชน แก้ปัญหาให้ชุมชนได้ 87.8% ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในวันที่ 24 มี.ค. 62 53.8 % ได้เห็นการหาเสียง ในพื้นที่ของตนเองแล้ว 96.0% ตั้งใจว่าวันที่ 24 มี.ค. 62 จะไปเลือกตั้ง

กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ส.ส. แบบไหนที่โดนใจคนไทย” โดยเก็บข้อมูล กับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,199 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 87.8 ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในวันที่ 24 มี.ค. 62 ขณะที่ ร้อยละ 12.2 ไม่ทราบ

เมื่อถามว่าเคยเห็นรูปแบบการเคลื่อนไหวทางการเมือง การหาเสียง ในพื้นที่ของตนเองหรือไม่อย่างไร ส่วนใหญ่ร้อยละ 53.8 เคยเห็น โดยใน จำนวนนี้ร้อยละ 24.2 เห็นการติดป้ายหาเสียง รองลงมาร้อยละ 22.0 เห็นการเดินเท้าพบปะประชาชน ร้อยละ 21.1 เห็นการใช้รถหาเสียง และร้อยละ 17.4 เห็นการหาเสียงผ่านสื่อโซเชียล ขณะที่ร้อยละ 46.2 ยังไม่เคยเห็น

เมื่อถามต่อว่า “ผู้สมัคร ส.ส. แบบไหน ที่ท่านอยากเลือก” พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 70.0 อยากเลือกคนที่ช่วยเหลือชุมชน แก้ปัญหาชุมชน รองลงมาคือ ร้อยละ 60.1 อยากเลือกคนมีความรู้ความสามารถ วิสัยทัศน์ก้าวไกล และร้อยละ 52.1อยากเลือกคนไม่มีประวัติด่างพร้อยด้านการทุจริต

สุดท้ายเมื่อถามว่าจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส. ที่คาดว่าจะจัดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่จะถึงนี้หรือไม่ พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 96.0 ตั้งใจว่าจะไป ขณะที่ร้อยละ 0.9 ตั้งใจว่าจะไม่ไป โดยในจำนวนนี้ ร้อยละ 0.4 ต้องเรียน ทำงาน ติดธุระ และมีร้อยละ 0.2 เท่ากันที่ให้เหตุผลว่า เบื่อหน่ายการเมืองและเลือกไป ก็ไม่เห็นทำประโยชน์ให้เลย ส่วนที่เหลือร้อยละ 3.1 ไม่แน่ใจ

โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้

1. การรับทราบว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในวันที่ 24 มี.ค. 62
ทราบ                                                       ร้อยละ 87.8
ไม่ทราบ                                                     ร้อยละ 12.2

2. ข้อคำถาม “เคยเห็นรูปแบบการเคลื่อนไหวทางการเมือง การหาเสียง ในพื้นที่ของตนเองหรือไม่อย่างไร”
เคยเห็น                                                     ร้อยละ 53.8
        โดยเห็น         การติดป้ายหาเสียง         ร้อยละ 24.2
(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)  การเดินเท้าพบปะประชาชน   ร้อยละ 22.0
                       การใช้รถหาเสียง          ร้อยละ 21.1

การหาเสียงผ่านสื่อโซเชียล ร้อยละ 17.4

ยังไม่เคยเห็น                                                  ร้อยละ 46.2

3. ข้อคำถาม “ผู้สมัคร ส.ส. แบบไหน ที่ท่านอยากเลือก”(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
อยากเลือกคนที่ช่วยเหลือชุมชน แก้ปัญหาชุมชน                           ร้อยละ 70.0
อยากเลือกคนมีความรู้ความสามารถ วิสัยทัศน์ก้าวไกล                     ร้อยละ 60.1
อยากเลือกคนไม่มีประวัติด่างพร้อยด้านการทุจริต                         ร้อยละ 52.1
อยากเลือกผู้สมัครรุ่นใหม่ไฟแรง                                     ร้อยละ 28.7
อยากเลือก ส.ส. เก่าในพื้นที่                                      ร้อยละ 13.5
อยากเลือกคนที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก                                  ร้อยละ  9.2
อยากเลือกคนที่มาจากพรรคการเมืองใหญ่                              ร้อยละ  8.4

4. ข้อคำถาม “คิดว่าจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส. ที่คาดว่าจะจัดขึ้นในวันที่ 24  มีนาคม 2562 ที่จะถึงนี้หรือไม่”
ตั้งใจว่าจะไป                                                  ร้อยละ 96.0
ตั้งใจว่าจะไม่ไป                                                ร้อยละ  0.9
        โดยให้เหตุผลว่า เรียน ทำงาน ติดธุระ            ร้อยละ  0.4
                     เบื่อหน่ายการเมือง              ร้อยละ  0.2

เลือกไปก็ไม่เห็นทำประโยชน์ให้เลย ร้อยละ 0.2

                     อื่นๆ                         ร้อยละ  0.1
ไม่แน่ใจ                                                       ร้อยละ 3.1

รายละเอียดการสำรวจ

วัตถุประสงค์การสำรวจ

1) เพื่อสะท้อนการรับทราบว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในวันที่ 24 มี.ค. 62

2) เพื่อสะท้อนการเห็นรูปแบบการเคลื่อนไหวทางการเมือง การหาเสียง ในพื้นที่ของตนเอง

3) เพื่อสะท้อนถึงผู้สมัคร ส.ส. แบบไหน ที่อยากเลือก

4) เพื่อสะท้อนความตั้งใจจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.

ประชากรที่สนใจศึกษา

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย(Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วย ข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 28-29 มกราคม 2562

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 2 กุมภาพันธ์ 2562

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ