ท่ามกลางวิกฤตการณ์ COVID-19 ประชาชนร้อยละ 29.4 อยู่อาศัย/ทำงานในที่คนพลุกพล่าน/แออัด คิดว่าตนเองอยู่ในจุดเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 โดยประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 34.4 ระบุว่าในช่วงสถานการณ์ เชื้อ COVID-19 ระบาดทำให้ต้องมี ค่าใช้จ่ายเพิ่มในการซื้อหน้ากากอนามัยและค่าอาหาร น้ำ ข้าวสาร ของแห้ง สำรองภาวะฉุกเฉิน ทั้งนี้ประชาชนร้อยละ 88.5 ระบุว่า การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออกจากบ้านเป็นพฤติกรรมที่ ช่วยหยุดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ COVID-19 มากที่สุด
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “อยู่ให้เป็น...หยุดให้ได้ : COVID-19” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ด้วยแบบสอบถามออนไลน์ จำนวนทั้งสิ้น 1,054 คน พบว่า
ในช่วงสถานการณ์ เชื้อ covid -19 ระบาด ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 34.4 ระบุว่ามีค่าใช้จ่ายในการซื้อหน้ากากอนามัย(โดยส่วนใหญ่จำนวนเงิน ต่ำกว่า 100 บาท) ซึ่งมีสัดส่วนเท่ากันกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหาร น้ำ ข้าวสารของแห้ง สำรองภาวะฉุกเฉิน (โดยส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายจำนวนเงิน มากกว่า 2,000 บาท) รองลงมา ร้อยละ 33.4 ระบุว่ามีเจลแอลกอฮอล์/แอลกอฮอล์ (โดยส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายจำนวน 101—300 บาท) และร้อยละ 32.7 ระบุว่ามีค่าเครื่องอุปโภค-บริโภค สำรองภาวะฉุกเฉิน (โดยส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายจำนวนมากกว่า 2,000 บาท)
เมื่อถามว่าการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน อยู่ในจุดความเสี่ยงใดบ้างที่ท่านกังวลต่อการติดเชื้อ covid-19 พบว่า ร้อยละ 29.4 ระบุว่าอยู่อาศัย /ทำงาน ในที่คนพลุกพล่าน/แออัด รองลงมาร้อยละ 20.3 ระบุว่าไม่มีหน้ากากอนามัย /เจลแอลกอฮอล์/แอลกอฮอล์ และร้อยละ 20.2 ระบุว่าขาดหลักประกันด้านการรักษาพยาบาล
ส่วนวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองเพื่อหยุดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ covid-19 มากที่สุด นั้น ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 88.5 ระบุว่าสวมหน้ากาก อนามัยทุกครั้งเมื่ออกจากบ้าน รองลงมาร้อยละ 86.9 ระบุว่าล้างมือด้วยสบู่/เจลแอลกอฮอล์ บ่อยๆ และร้อยละ 81.3 ระบุว่าไม่ออกนอกบ้านถ้าไม่จำเป็น
โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้
รายละเอียดการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับการใช้ชีวิตของคนไทย ในช่วงที่สถานการณ์ไวรัส COVID-19 มีการแพร่ระบาดในประเทศไทย เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
ประชากรที่สนใจศึกษา
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling)
แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 4 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95
ใช้การเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามออนไลน์ ผ่าน social media รูปแบบต่างๆ โดยเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนการประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 24 - 30 มีนาคม 2563
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 31 มีนาคม 2563
ที่มา: ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์