เรื่องที่ทำให้คนไทยมีความสุข อันดับ 1 ร้อยละ 60.6 มีความสุขที่ไม่ติดเชื้อ COVID-19 อันดับ 2 ร้อยละ 55.0 ไม่ต้องกักตัว ล็อคดาวน์ เรื่องที่ทำให้คนไทย มีความทุกข์ อันดับ 1 ร้อยละ 54.1 กลัวการแพร่ระบาดรอบ 2 และกลัวติด COVID-19 อันดับ 2 ร้อยละ 46.3 รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ข้าวของราคาแพง ทั้งนี้ เรื่องที่ กังวลมากที่สุด อันดับ 1 ปัญหาข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูง อันดับ 2 ปัญหาการกลับมาแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ด้านความหวังของคนไทย อันดับ 1 คนไทยหวังอยาก ให้เศรษฐกิจดีมีเงิน มีทองใช้มากกว่านี้ อันดับ 2 หวังอยากให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ยุติธรรม บังคับใช้เท่าเทียมกัน
เนื่องในวันที่ 10 ตุลาคม เป็นวันสุขภาพจิตโลก กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง ?สุข ทุกข์ คนไทย? โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,189 คน พบว่า
เรื่องที่มีความสุขมากที่สุด ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้คือ ไม่ติดเชื้อ COVID-19 คิดเป็นร้อยละ 60.6 รองลงมาคือ ใช้ชีวิตได้ปกติขึ้น ไม่ต้องกักตัว ล็อคดาวน์ คิดเป็นร้อยละ 55.0 และมีชดเชยวันหยุดยาวหลายเดือนได้เที่ยวได้อยู่กับครอบครัว คนรัก มากขึ้นคิดเป็นร้อยละ 20.5
ส่วนเรื่องที่มีความทุกข์มากที่สุด ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้คือ กลัวการแพร่ระบาดรอบ 2 และกลัวติด COVID-19 คิดเป็นร้อยละ 54.1 รองลงมาคือ
รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ข้าวของราคาแพง คิดเป็นร้อยละ 46.3 และเงินเดือน รายได้ลดลง ไม่มีโบนัส คิดเป็นร้อยละ 30.6เมื่อถามว่าปัจจุบันปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เรื่องใดที่ทำให้ท่านเครียด วิตกกังวล มากที่สุดพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 53.2 เห็นว่าเป็นปัญหาข้าวของ ราคาแพง ค่าครองชีพสูง รองลงมาร้อยละ 46.7 เป็นปัญหาการกลับมาแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 และร้อยละ 43.6 เป็นปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง การชุมนุม
สุดท้ายเมื่อถามถึงความหวังที่อยากได้มากที่สุดพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 64.1 อยากให้เศรษฐกิจดีมีเงิน มีทองใช้มากกว่านี้ รองลงมาร้อยละ 57.6 อยากให้ กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ยุติธรรม บังคับใช้เท่าเทียมกัน และร้อยละ56.1 อยากให้บ้านเมืองสงบ ปลอดภัย ไร้การจี้ปล้น อาชญากรรม
รายละเอียดตามประเด็นข้อคำถามดังต่อไปนี้
รายละเอียดการสำรวจ
1) เพื่อสะท้อนถึงเรื่องที่มีความสุข ความทุกข์ ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้
2) เพื่อสะท้อนถึงปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เรื่องใดที่ทำให้เครียด วิตกกังวล มากที่สุด
3) เพื่อสะท้อนถึงความหวังที่อยากได้มากที่สุด
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วย ข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 5-7 ตุลาคม 2563
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 10 ตุลาคม 2563
ที่มา: ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์