โรงเรียนไม่ได้เพียงเป็นแหล่งให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังทัศนคติ ค่านิยม และหล่อหลอม พฤติกรรมของเด็กและเยาวชนซึ่งจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดและมุมมองของเด็กและเยาวชนที่ มีต่อการเรียนและการใช้ชีวิตในโรงเรียน ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) จึงได้ดำเนินการสำรวจความ คิดเห็นเรื่อง “ที่สุดในโรงเรียน” โดยเก็บข้อมูลจากเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลายและชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหา นคร ทั้งเขตชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน จำนวน 31 แห่ง ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,187 คน เป็นเพศชายร้อยละ 45.6 และเพศหญิงร้อยละ 54.4 เมื่อวันที่ 7-8 มกราคม 2552 สรุปผลได้ ดังนี้
นักเรียนหรือเพื่อนที่นิสัยไม่ดี ชอบทะเลาะกัน และสูบบุหรี่ ร้อยละ 12.0
ครูที่ดุโดยไม่มีเหตุผล และไม่ตรงเวลา ร้อยละ 10.1 ฝุ่น ขยะ น้ำเสียในโรงเรียน ร้อยละ 7.8 สภาพห้องเรียน อาคารเรียน ร้อยละ 6.9 3. วิชาที่นักเรียนชอบเรียนมากที่สุด (5 อันดับแรก) วิชาคอมพิวเตอร์ ร้อยละ 16.7เหตุผลที่ชอบเพราะ สนุก เข้าใจง่าย ได้เล่นเกม ได้ใช้อินเทอร์เน็ต เป็นต้น
วิชาคณิตศาสตร์ ร้อยละ 15.4เหตุผลที่ชอบเพราะ เรียนแล้วเข้าใจ สนุก ได้ฝึกสมอง ไม่ต้องท่องจำ เป็นต้น
วิชาพลศึกษา ร้อยละ 14.1เหตุผลที่ชอบเพราะ ได้ออกกำลังกาย ได้เล่นกับเพื่อน ไม่มีการบ้าน เป็นต้น
วิชาภาษาอังกฤษ ร้อยละ 9.9เหตุผลที่ชอบเพราะ สนุก ได้พูดภาษาอังกฤษ เป็นต้น
วิชาวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 9.5เหตุผลที่ชอบเพราะ ได้ทดลอง ครูสอนเข้าใจ เป็นต้น
เหตุผลที่ไม่ชอบเพราะ เข้าใจยาก ไม่สนุก การบ้านเยอะ เป็นต้น
วิชาภาษาอังกฤษ ร้อยละ 20.3เหตุผลที่ไม่ชอบเพราะ น่าเบื่อ ไม่เข้าใจ พูดไม่ค่อยได้ ครูดุ เป็นต้น
วิชาภาษาไทย ร้อยละ 11.0เหตุผลที่ไม่ชอบเพราะ ไม่สนุก ไม่ชอบแต่งกลอน ครูดุ ขี้บ่น เป็นต้น
วิชาสังคมศึกษา ร้อยละ 10.9เหตุผลที่ไม่ชอบเพราะ เครียด ต้องเขียนเยอะ ไม่ชอบท่องจำ เป็นต้น
วิชาวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 8.8เหตุผลที่ไม่ชอบเพราะ ไม่ค่อยเข้าใจ ไม่ค่อยได้เอามาใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น
รายละเอียดในการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลายและระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในเขตกรุงเทพมหานคร ในประเด็นต่อไปนี้
1. สิ่งที่ชอบมากที่สุดในโรงเรียน
2. สิ่งที่ไม่ชอบมากที่สุดในโรงเรียน
3. วิชาที่ชอบเรียนมากที่สุด
4. วิชาที่ไม่ชอบเรียนมากที่สุด
5. ลักษณะของครู / อาจารย์ ที่ชอบมากที่สุด
6. ลักษณะของครู / อาจารย์ ที่ไม่ชอบมากที่สุด
7. กิจกรรมของโรงเรียนที่ชอบและอยากเข้าร่วมมากที่สุด
8. กิจกรรมของโรงเรียนที่ไม่ชอบและไม่อยากเข้าร่วมมากที่สุด
การสำรวจใช้วิธีสุ่มโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งเขตชั้นนอก เขตชั้นกลาง และเขตชั้นในที่เปิดสอนในระดับประถมศึกษาและมัธยม ศึกษาตอนต้น จำนวน 31 แห่ง เป็นโรงเรียนรัฐบาล 23 แห่ง และโรงเรียนเอกชน 8 แห่ง จากนั้นจึงสุ่มประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์ด้วยวิธีการ สุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 1,187 คน เป็นเพศชายร้อยละ 45.6 และเพศหญิงร้อยละ 54.4
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Form) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุด มาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 7 - 8 มกราคม 2552 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 9 มกราคม 2552ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ ชาย 541 45.6 หญิง 646 54.4 รวม 1,187 100.0 การศึกษา ประถมศึกษาตอนปลาย 404 34.0 มัธยมศึกษาตอนต้น 783 66.0 รวม 1,187 100.0 ประเภทสถานศึกษา โรงเรียนรัฐบาล/โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 875 73.7 โรงเรียนเอกชน 312 26.3 รวม 1,187 100.0--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--