กรุงเทพโพลล์: ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก กับความหวังพัฒนาฟุตบอลไทยไปบอลโลก

ข่าวผลสำรวจ Wednesday October 7, 2009 09:15 —กรุงเทพโพลล์

องค์ประกอบสำคัญของการพัฒนากีฬาฟุตบอลไทยไปสู่การแข่งขันฟุตบอลโลกคือฟุตบอลลีกอาชีพ ซึ่งการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ที่กำลังจะเสร็จสิ้นไปนี้ได้ตั้งเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานวงการฟุตบอลของไทยให้เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้นเพื่อหวังพัฒนาทีมฟุตบอลไทยไปสู่ฟุตบอลโลก ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) จึงได้ดำเนินการสำรวจเรื่อง “ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก กับความหวังพัฒนาฟุตบอลไทยไปบอลโลก” ขึ้นเพื่อสะท้อนความคิดเห็นและความเชื่อมั่นของแฟนฟุตบอลชาวไทยที่มีต่อวงการฟุตบอลไทย โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่สนใจติดตามข่าวการแข่งขันฟุตบอล จำนวน 426 คน เมื่อวันที่ 1-4 ตุลาคมที่ผ่านมา สรุปผลได้ดังนี้

1. การติดตามการแข่งขันกีฬาฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก
          ติดตามชม                                                  ร้อยละ  94.4

(ส่วนใหญ่รับชมจากสื่อ โทรทัศน์ รองลงมาคือ หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต วิทยุ และไปชมที่สนามแข่งขัน ตามลำดับ)

          ไม่ได้ติดตามชม                                              ร้อยละ   5.6

2. ความสนใจติดตามชมการถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกถ้ามีการถ่ายทอดสดในฤดูกาลหน้า
          จะติดตามชม                                                ร้อยละ  95.8

(โดยในจำนวนนี้ตั้งใจว่าจะติดตามชมทุกแมตช์ร้อยละ 25.6 และจะติดตามชมบางแมตช์ร้อยละ 70.2)

          จะไม่ติดตามชม                                              ร้อยละ   4.2

(เนื่องจาก ไม่สนใจทีมฟุตบอลไทย รองลงมาคือ ไม่มีเวลาเนื่องจากต้องทำงาน)

3. สโมสรในศึกฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกที่มีผลงานน่าชื่นชมมากที่สุด 3 อันดับแรก
(ถามเฉพาะผู้ที่ติดตามชม) คือ
          อันดับ 1  ชลบุรี เอฟซี                                        ร้อยละ  30.8
          อันดับ 2  เมืองทองฯ ยูไนเต็ด                                  ร้อยละ  28.7
          อันดับ 3  บางกอกกล๊าส เอฟซี                                  ร้อยละ  13.4

4. สิ่งที่ควรแก้ไข / พัฒนามากที่สุดเพื่อยกมาตรฐานฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก (5 อันดับแรก) คือ
          อันดับ 1  มาตรฐานการตัดสินของกรรมการ / ไลน์แมน                ร้อยละ  22.6
          อันดับ 2  ทักษะ และความเป็นมืออาชีพของนักเตะ                    ร้อยละ  16.0
          อันดับ 3  มารยาทแฟนบอล กองเชียร์                             ร้อยละ  12.6
          อันดับ 4  มาตรฐานของสนามฟุตบอล                              ร้อยละ  12.3
          อันดับ 5  การประชาสัมพันธ์ การถ่ายทอดสด                        ร้อยละ  10.0

5. ความคิดเห็นเรื่องความเหมาะสมสำหรับการให้มิสเตอร์ไบรอัน ร็อบสันคุมทีมชาติไทย
          เห็นว่าเหมาะสม                                             ร้อยละ  56.3
          เห็นว่าไม่เหมาะสม                                           ร้อยละ  12.9

(โดยกลุ่มที่คิดว่าไม่เหมาะสมเห็นว่าคนที่เหมาะสมที่จะคุมทีมชาติไทยน่าจะเป็นคนไทย โดยส่วนใหญ่คิดว่า

น่าจะเป็น ชาญวิทย์ ผลชีวิน รองลงมาคือ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน)

          ไม่ทราบ                                                   ร้อยละ  30.8

6. ความเชื่อมั่นว่าฟุตบอลทีมชาติไทยจะสามารถพัฒนาไปสู่บอลโลกได้
          เชื่อว่าได้                                                  ร้อยละ  66.2

(โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เชื่อว่าจะได้ไปภายในเวลา 12 ปี ซึ่งตรงกับฟุตบอลโลกปี 2022)

          ไม่เชื่อว่าจะได้                                              ร้อยละ  33.8

7. ความคิดเห็นต่อเรื่องการเปิดโต๊ะให้เล่นพนันฟุตบอลแบบถูกกฎหมาย
          เห็นด้วย                                                   ร้อยละ  54.5

(โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เห็นว่ารัฐบาลควรนำเงินกำไรที่ได้ไปใช้พัฒนาวงการฟุตบอลไทยร้อยละ 24.2

รองลงมาคือ ใช้พัฒนาวงการกีฬาร้อยละ 15.9 และใช้พัฒนาประเทศร้อยละ 14.4)

          ไม่เห็นด้วย                                                 ร้อยละ  34.5
          ไม่แน่ใจ                                                   ร้อยละ  11.0

รายละเอียดในการสำรวจ

ระเบียบวิธีการสำรวจ

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากกลุ่มประชาชนที่สนใจในกีฬาฟุตบอล อายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จากสนาม กีฬาและลานกีฬาต่างๆ ทั้งสิ้น 15 แห่ง ได้แก่ สนามกีฬาการท่าเรือ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติคลองหก สนามกีฬา สมุทรปราการ สนามศุภชลาศัย สนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (วิทยาเขตรังสิต) สนามกีฬาคลองจั่น สนามกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สนามฟุตซอลวิทยาลัยดุสิตธานี ลานกีฬาใต้สะพานพระราม 8 ลานกีฬาตะวันนาพลาซ่า สวน สมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์ และสนามฟุตซอลเขตบึงกุ่ม ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 426 คน

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน +/- 5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Form) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึก ข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล            :  1 — 4 ตุลาคม 2552

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ                :  7 ตุลาคม 2552

ข้อมูลประชากรศาสตร์

                                         จำนวน          ร้อยละ
เพศ
     ชาย                                   396          93.0
     หญิง                                    30           7.0
          รวม                              426         100.0

อายุ
     18 - 25 ปี                             204          47.9
     26 - 35 ปี                             142          33.3
     36 - 45 ปี                              58          13.6
     46 ปีขึ้นไป                               22           5.2
          รวม                              426         100.0

การศึกษา
     ต่ำกว่าปริญญาตรี                          244          57.3
     ปริญญาตรี                               162          38.0
     สูงกว่าปริญญาตรี                           20           4.7
          รวม                              426         100.0

อาชีพ
     ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ              36           8.5
     พนักงาน / ลูกจ้าง บริษัทเอกชน              154          36.1
     ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว                60          14.1
     รับจ้างทั่วไป                              31           7.3
     พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ                    4           0.9
     อื่นๆ อาทิ นักศึกษา อาชีพอิสระ ว่างงาน เป็นต้น  141          33.1
          รวม                              426         100.0

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ