ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจาก 30 จังหวัด ทั่วทุกภาคของประเทศ พบว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้นลง ประชาชนให้คะแนนความไว้วางใจต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี 5 คนที่ถูกอภิปราย ดังนี้
1. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้คะแนนไว้วางใจร้อยละ 71.7 2. นายกรณ์ จาติกวณิช รมว. กระทรวงการคลัง ได้คะแนนไว้วางใจร้อยละ 71.0 3. นายโสภณ ซารัมย์ รมว.กระทรวงคมนาคม ได้คะแนนไว้วางใจร้อยละ 54.4 4. นายกษิต ภิรมย์ รมว. กระทรวงการต่างประเทศ ได้คะแนนไว้วางใจร้อยละ 53.6 5. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ได้คะแนนไว้วางใจร้อยละ 52.8 6. นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รมว.กระทรวงมหาดไทย ได้คะแนนไว้วางใจร้อยละ 50.0ประชาชนร้อยละ 43.5 ระบุว่าต้องการให้รัฐบาลชุดเดิมบริหารประเทศต่อไป ขณะที่ร้อยละ 28.4 ต้องการให้ยุบสภา และร้อยละ 17.6 ต้องการให้มีการปรับ ครม.
สำหรับการทำหน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ในการอภิปรายที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนให้คะแนนฝ่ายค้าน 5.43 คะแนน ฝ่ายรัฐบาล 6.51 คะแนน และประธานสภาฯ 6.55 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยร้อยละ 46.2 ระบุว่าเชื่อถือข้อมูลของฝ่ายรัฐบาลมากกว่า ร้อยละ 18.1 เชื่อถือข้อมูลของฝ่ายค้านมากกว่า ร้อยละ 23.3 เชื่อถือข้อมูลของทั้งสองฝ่ายพอๆ กัน และร้อยละ 12.4 ไม่เชื่อถือข้อมูลของทั้งสองฝ่ายพอๆ กันสำหรับผู้อภิปรายฝ่ายรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุดคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี (ร้อยละ 82.4) ส่วนผู้อภิปรายของฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุดคือ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง (ร้อยละ 78.8)
อย่างไรก็ตาม หลังการอภิปรายเสร็จสิ้นยังคงมีประเด็นที่ประชาชนค้างคาใจมากที่สุดถึงร้อยละ 66.8 คือเรื่องการสลายการชุมนุมที่ยังหาข้อสรุปชัดเจนไม่ได้ เช่น กรณีของคนชุดดำ คนที่ยิงปืนเข้าไปในวัดปทุมฯ และการเผาห้างสรรพสินค้า
ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- ให้คะแนนการทำหน้าที่ชี้แจงประเด็นที่ถูกอภิปรายของฝ่ายรัฐบาล 6.51 คะแนน
(กรณี เช่น คนชุดดำ คนที่ยิงปืนเข้าไปในวัดปทุมฯ การเผาห้างสรรพสินค้า ฯลฯ)
อันดับ 2 เรื่องการทุจริตในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ร้อยละ 8.0อันดับ 3 เรื่องการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนของญาติและพวกพ้องของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เป็นคู่สัญญากับรัฐ ส่งผลให้รัฐต้องสูญเสียเงินงบประมาณเกินกว่าความเป็นจริง ร้อยละ 6.7รายละเอียดในการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนจากทั่วประเทศ เกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรี อีก 5 ท่าน เพื่อสะท้อนให้สังคม และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติส่วนรวมต่อไป
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วไปทุกสาขาอาชีพอายุ 18 ปีขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและ จังหวัดต่างๆ ในแต่ละภาคทั่วประเทศ จำนวน 30 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม นครสวรรค์ ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี มหาสารคาม หนองคาย นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ตรัง สงขลา สุราษฎร์ธานี และระนอง ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) และใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบพบตัวและการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,434 คน เป็นเพศชาย ร้อยละ 54.2 และเพศหญิงร้อยละ 45.8
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน +/- 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) และสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเองโดยอิสระ (Open Form) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 2 มิถุนายน 2553 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 3 มิถุนายน 2553ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ ชาย 776 54.2 หญิง 658 45.8 รวม 1,434 100.0 อายุ 18 - 25 ปี 304 21.2 26 - 35 ปี 371 25.8 36 - 45 ปี 378 26.4 46 ปีขึ้นไป 381 26.5 รวม 1,434 100.0 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 756 52.9 ปริญญาตรี 605 42.2 สูงกว่าปริญญาตรี 73 4.9 รวม 1,434 100.0 อาชีพ ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ 434 30.2 พนักงาน / ลูกจ้าง บริษัทเอกชน 202 14.1 ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว 318 22.2 รับจ้างทั่วไป 154 10.7 พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ 84 5.9 อื่นๆ อาทิ เกษตรกรรม อาชีพอิสระ ว่างงาน ฯลฯ 242 16.9 รวม 1,434 100.0ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) โทร. 02-350-3500 ต่อ 1770, 1776
E-mail: [email protected] Website: http://research.bu.ac.th
Twitter : http://twitter.com/bangkok_poll
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--