ผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปี 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 18, 2008 14:47 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

          นางสาวนวพร มหารักขกะ ผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2551 ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 2.7 หมื่นล้านบาท ลดลง 3 พันล้านบาทจากไตรมาสก่อน จากการลดลงของกำไรจากเงินลงทุนและมีการกันสำรองเพิ่มขึ้น ผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์โดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ โดยกำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 ที่ 5.7 หมื่นล้านบาท สูงกว่ากำไรสุทธิในช่วงครึ่งหลังปี 2550 ที่ 6.1 พันล้านบาท เนื่องจากภาระกันสำรองของปีนี้ลดลงมากหลังจากกันสำรองตามเกณฑ์มาตรฐานบัญชีสากล (IAS 39) ครบแล้วตั้งแต่สิ้นปี 2550
สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัวที่ร้อยละ 11 จากระยะเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจาก ร้อยละ 7.3 ในไตรมาสแรกปี 2551 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 โดยเป็นการเร่งตัวของสินเชื่อภาคธุรกิจ (สัดส่วนร้อยละ 76.1 ของสินเชื่อรวม) ที่ร้อยละ 9.5 เพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 5.5 ในไตรมาสแรกปี 2551 ส่วนหนึ่งสะท้อนความต้องการเงินทุนหมุนเวียนตามต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่ง ที่สูงขึ้น ขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัวร้อยละ 16 เร่งขึ้นจากร้อยละ 13.5 ในไตรมาสแรก จากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและการเช่าซื้อรถยนต์เป็นหลัก
เงินรับฝากหดตัวที่ร้อยละ 0.3 จากที่ขยายตัวร้อยละ 2.8 ในไตรมาสก่อน เนื่องจากธนาคารพาณิชย์มีการระดมเงินด้วยการออกตั๋วแลกเงิน (B/E) มากขึ้น ทั้งนี้ การระดมเงินผ่านเงินฝากและ ตั๋วแลกเงินรวมกันยังขยายตัวในอัตราร้อยละ 3.6 ชะลอตัวลงบ้างจากร้อยละ 5.7 ในไตรมาสที่ 1 เนื่องจาก การแข่งขันจากทางเลือกลงทุนในรูปแบบอื่น เช่น กองทุนรวม ส่งผลให้สภาพคล่องตึงตัวขึ้นเล็กน้อย โดยสัดส่วนเงินฝากและ B/E ต่อสินเชื่อรวม (Loan / Deposit บวก B/E) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 84.9 เป็น ร้อยละ 89.8
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (gross NPL) มียอดคงค้าง 447.5 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 17.7 พันล้านบาท โดยสัดส่วนต่อสินเชื่อรวมลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ทั้ง gross NPL และ net NPL ที่ร้อยละ 6.4 และร้อยละ 3.4 ตามลำดับ
สินเชื่อภาคธุรกิจมีสัดส่วน NPL ลดลงจากร้อยละ 7.6 เหลือร้อยละ 7.2 โดยลดลงในเกือบ ทุกภาคธุรกิจ ในขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภคโดยรวมมีสัดส่วน NPL ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 4 เหลือร้อยละ 3.8 ซึ่งเป็นผลส่วนใหญ่จากการที่ระบบธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังในการดูแลคุณภาพสินเชื่อ ขณะที่มีความคืบหน้าในการลด NPL โดยการรับชำระหนี้และการขายหนี้
เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของระบบธนาคารพาณิชย์สูงเป็นร้อยละ 15.2 จากร้อยละ 14.7 ในไตรมาสก่อน จากผลกำไรและการเพิ่มทุน ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำทางกฎหมายที่กำหนดไว้ร้อยละ 8.5

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ