ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม 2562 เท่ากับ 103.31 เมื่อเทียบกับระยะเวลา
การเปลี่ยนแปลง ร้อยละ
1. เดือนเมษายน 2562 (MoM) สูงขึ้น 0.48
2. เดือนพฤษภาคม 2561 (YoY) สูงขึ้น 1.15
3. เฉลี่ย 5 เดือนแรกปี 2562 เทียบกับ สูงขึ้น 0.92ช่วงเดียวกันของปี 2561 (AoA)
ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนพฤษภาคม 2562 เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 1.15 (YoY) ชะลอตัวลงจากเดือนเมษายน 2562 เล็กน้อย (ร้อยละ 1.23) โดยสินค้ากลุ่มอาหารสดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อในเดือนนี้สูงขึ้น โดยสูงขึ้นร้อยละ 5.28 ตามการสูงขึ้นของผักสด ข้าวสาร และเนื้อสุกร เป็นสำคัญ สำหรับสินค้าในกลุ่มพลังงานกลับมาหดตัวอีกครั้ง โดยลดลงร้อยละ -0.49 ปรับลดลงตามภาวะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลก ขณะที่ค่าโดยสารสาธารณะปรับราคาสูงขึ้น (ค่าโดยสารรถขสมก./บขส. และค่าโดยสารรถตู้วิ่งระหว่างจังหวัด) เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก เงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวร้อยละ 0.54 (YoY)
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า ปี 2562 เงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างร้อยละ 0.7 - 1.7 (ค่ากลางร้อยละ 1.2)
1. ดัชนีราคาผู้บริโภค เดือนพฤษภาคม 2562 เทียบกับเดือนก่อนหน้าสูงขึ้นร้อยละ 0.48 (MoM) (เมษายน 2562 สูงขึ้นร้อยละ 0.44) โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า ดังนี้
หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 1.07 จากการสูงขึ้นของกลุ่มอาหารสด ร้อยละ 2.57 โดยเฉพาะผักสด สูงขึ้นร้อยละ 17.02 จากการสูงขึ้นของ มะเขือ ถั่วฝักยาว คะน้า ส่งผลให้หมวดผักและผลไม้ สูงขึ้นร้อยละ 7.35 ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง เนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ ในเดือนนี้ดัชนีราคากลับมาเป็นบวกอีกครั้ง หลังจากที่ลดลงในเดือนก่อนหน้า โดยสูงขึ้นร้อยละ 0.55 และ 0.49 ตามลำดับ สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ขนมปังปอนด์ เนื้อสุกร ปลานิลและไก่ย่าง ไข่และผลิตภัณฑ์นม สูงขึ้นร้อยละ 1.07 โดยเฉพาะไข่ จากความต้องการที่สูงขึ้นในช่วงเปิดภาคการศึกษา ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลให้แม่พันธุ์ออกไข่น้อยลง เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น ร้อยละ 0.13 ได้แก่ กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำผลไม้ และน้ำอัดลม สำหรับสินค้าที่ดัชนีราคาลดลงได้แก่ เครื่องประกอบอาหาร ลดลงร้อยละ -0.41 ตามการลดลงของ น้ำมันพืช ซอสหอยนางรม น้ำปลา เนื่องจากการแข่งขันด้านการตลาด อาหารบริโภค-นอกบ้าน ลดลงร้อยละ -0.12 จากการลดลงของอาหารตะวันตก (เฟรนฟราย) เป็นสำคัญ ผลไม้สด ลดลงร้อยละ -0.07 ได้แก่ เงาะ มะม่วง ทุเรียน สำหรับอาหารบริโภค-นอกบ้าน ดัชนีราคาโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง
หมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.15 ตามการสูงขึ้นของหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร 0.37 โดยเฉพาะค่าโดยสารสาธารณะ สูงขึ้นร้อยละ 3.87 จากการสูงขึ้นของค่าโดยสารรถขสมก./บขส. และค่าโดยสารรถตู้ วิ่งระหว่างจังหวัด เป็นสำคัญ หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้นร้อยละ 0.11 ตามการสูงขึ้นของน้ำยาระงับกลิ่นกาย น้ำหอม และยารักษาโรค หมวดการบันเทิง การอ่านและการศึกษา สูงขึ้นร้อยละ 0.08 ตามการสูงขึ้นของค่าเล่าเรียน - ค่าธรรมเนียมการศึกษา ภาครัฐและเอกชนเป็นสำคัญ ขณะที่หมวดเคหสถาน ลดลงร้อยละ -0.03 (ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ ซักผ้า(น้ำยาซักแห้ง) น้ำยาล้างห้องน้ำ) สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ดัชนีราคาโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง
2. เทียบเดือนพฤษภาคม 2561 (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 1.15 โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้
หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 2.83 โดยผักสดเป็นสินค้าสำคัญที่ทำให้หมวดอาหารและเครื่องดื่มดัชนีสูงขึ้น โดยสูงขึ้นร้อยละ 29.34 ได้แก่ ต้นหอม พริกสด มะเขือ จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้พืชผักเติบโตช้าและเน่าเสียได้ง่าย ข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง สูงขึ้นร้อยละ 3.74 จากการสูงขึ้นของข้าวสารเจ้า และขนมปังปอนด์ เนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ สูงขึ้นร้อยละ 3.26 ได้แก่ เนื้อสุกร ปลานิล ปลาทูนึ่ง เครื่องประกอบอาหาร สูงขึ้นร้อยละ 1.77 ได้แก่ น้ำพริกแกง เครื่องปรุงรส น้ำปลา เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.61 ได้แก่ น้ำอัดลม กาแฟ (ร้อน/เย็น) เครื่องดื่มรสซอกโกแลต อาหารบริโภค-ในบ้าน และนอกบ้าน สูงขึ้นร้อยละ 0.61 และ1.32 ตามลำดับ ได้แก่ ข้าวราดแกง อาหารเช้า กับข้าวสำเร็จรูป ขณะที่ไข่และผลิตภัณฑ์นม ลดลงร้อยละ -0.30 จากการลดลงของไข่ไก่ นมผง นมถั่วเหลือง รวมทั้งผลไม้สด ลดลงร้อยละ -0.63 ตามการลดลงของ เงาะ ส้มเขียวหวาน ลองกอง เป็นสำคัญ
หมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.20 ตามการสูงขึ้นของค่าโดยสารสาธารณะ ร้อยละ 5.63 (ค่าโดยสารรถขสมก./บขส. ค่าโดยสารรถตู้วิ่งระหว่างจังหวัด) ส่งผลให้หมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร สูงขึ้นร้อยละ 0.08 หมวดเคหสถาน สูงขึ้นร้อยละ 0.33 (ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน) หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้นร้อยละ 0.21 (ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว ค่าแต่งผมชาย/สตรี) หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า สูงขึ้นร้อยละ 0.08 (ค่าจ้าง/ซักรีด เครื่องแบบนักเรียน) หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯ สูงขึ้นร้อยละ 0.28 ขณะที่น้ำมันเชื้อเพลิง และการสื่อสาร ลดลงร้อยละ -1.20 และ -0.03 ตามลำดับ รวมทั้งหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ลดลงร้อยละ -0.02
3. เฉลี่ย 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) ปี 2562 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 (AoA) สูงขึ้นร้อยละ 0.92 โดยมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 2.13 ตามการสูงขึ้นของข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 4.36 โดยเฉพาะข้าวสารเจ้า ขนมปังปอนด์ เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ ร้อยละ 3.76 (เนื้อสุกร ปลาทู ปลานิล) ไข่และผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 1.03 (ไข่ไก่ นมผง นมสด) ผักสด ร้อยละ 9.63 (พริกสด ต้มหอม มะนาว) เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 2.55 (น้ำพริกแกง กะปิ เครื่องปรุงรส) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 0.71 (กาแฟ (ร้อน/เย็น) น้ำอัดลม กาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่ม) ส่วนอาหารบริโภค-ในบ้าน และนอกบ้าน สูงขึ้นร้อยละ 0.76 และ 1.77 ตามลำดับ (ข้าวราดแกง อาหารเช้า กับข้าวสำเร็จรูป) ขณะที่ผลไม้สด ลดลงร้อยละ -1.04 (ส้มเขียวหวาน เงาะ ลองกอง)
หมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.24 จากสูงขึ้นของค่าโดยสารสาธารณะ ร้อยละ 1.71 หมวดเคหสถาน ร้อยละ 0.58 หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้นร้อยละ 0.38 หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า สูงขึ้นร้อยละ 0.31 หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯ สูงขึ้นร้อยละ 0.30 ขณะที่หมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร ลดลงร้อยละ -0.13 ตามการลดลงของน้ำมันเชื้อเพลิงร้อยละ -0.91 การสื่อสารร้อยละ -0.04 และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ลดลงร้อยละ -0.01
คาดการณ์เงินเฟ้อ ปี 2562 อยู่ระหว่าง 0.7 - 1.7 (YoY) (ค่ากลาง 1.2)
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 3.5-4.5 % (YoY) (สศช.)
ราคาน้ำมันดิบดูไบ 70 - 80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
อัตราแลกเปลี่ยน 32.5 -33.5 บาท/เหรียญสหรัฐฯ
ราคาพลังงาน ยังคงมีความเสี่ยงจากความผันผวนในโครงสร้างการผลิตและความต้องการโลก รวมทั้งบริบททางการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคต่าง ๆ
การลงทุน มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีสัญญาณจากความคืบหน้าการลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ความต่อเนื่องของโครงการลงทุนเดิมที่ยังไม่แล้วเสร็จ และการขอรับการส่งเสริมการลงทุนโครงการต่าง ๆ แต่ยังมีความเสี่ยงจากการที่ไม่สามารถทำงานได้ตามแผน
ราคาสินค้าเกษตร ราคาสินค้าเกษตรสำคัญยังคงมีแนวโน้มในทิศทางที่ดี รวมทั้งภาครัฐมีมาตรการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน
ราคาสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าอุตสาหกรรมหลายตัวที่ผลิตในประเทศมีสัญญาณต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น แต่ยังมีแรงกดดันจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากการนำเข้า
การส่งออก มีความเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่โอกาสในการย้ายฐานการผลิตเพื่อส่งออกหลายชนิดมายังประเทศไทยยังมีอยู่สูง
ค่าเงินบาท มีความเสี่ยงและความผันผวนสูง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงปริมาณเงินทุนไหลเข้าในประเทศ
ที่มา: กองสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
โทรศัพท์ 02-5076554 โทรสาร 02-5075806
http://www.price.moc.go.th