ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนสิงหาคม 2564

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 6, 2021 10:53 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนสิงหาคม 2564 เท่ากับ 113.6 เทียบกับเดือนสิงหาคม 2563 สูงขึ้นร้อยละ 8.8 (YoY) ซึ่งยังคงสูงขึ้นจากสินค้าหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กเป็นสำคัญ โดยสูงขึ้นร้อยละ 39.3 เนื่องจากราคาเหล็กในตลาดโลกที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติตามราคาต้นทุนเป็นสำคัญ

การออกมาตรการ Bubble and seal สำหรับสถานประกอบการหรือแคมป์คนงาน หลังจากการสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้โครงการก่อสร้างบางแห่งสามารถดำเนินการต่อได้ โดยต้องได้รับอนุญาตและต้องปฏิบัติภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการก่อสร้าง ประกอบกับการเริ่มเตรียมการอนุมัติใช้งบประมาณปี 2565 ส่งผลให้แนวโน้มในอุตสาหกรรมการก่อสร้างเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น

การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง

1. เทียบกับเดือนสิงหาคม 2563 (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 8.8 โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า ดังนี้ หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สูงขึ้นร้อยละ 2.0 จากการสูงขึ้นของไม้แบบ ไม้โครงคร่าว บานประตู-หน้าต่าง ไม้คาน วงกบประตู-หน้าต่าง เนื่องจากราคาต้นทุนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 3.2 ซึ่งยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ชีทไพล์คอนกรีต ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ถังซีเมนต์สำเร็จรูป ท่อระบายน้ำคอนกรีต และพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปอัดแรง เนื่องจากราคาต้นทุนสูงขึ้นจากวัตถุดิบ คือ เหล็ก เป็นสำคัญ ประกอบกับฐานต่ำในปีที่ผ่านมา หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก สูงขึ้นร้อยละ 39.3 ซึ่งยังคงสูงขึ้น ถึงแม้สถานการณ์ราคาเหล็กเริ่มมีแนวโน้มลดลง แต่เนื่องจากราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้นมากตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาเหล็กในประเทศยังคงสูงขึ้น โดยสินค้าสำคัญที่สูงขึ้น ได้แก่ เหล็กเส้นกลมผิวเรียบ-ผิวข้ออ้อย เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ท่อเหล็ก เหล็กแผ่น เป็นต้น หมวดกระเบื้อง สูงขึ้นร้อยละ 0.2 จากการสูงขึ้นของกระเบื้องยาง PVC ปูพื้น ซึ่งปรับราคาตามต้นทุนที่สูงขึ้น หมวดสุขภัณฑ์ สูงขึ้นร้อยละ 0.2 สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากการสูงขึ้นของ ราวแขวนผ้าติดผนัง สายน้ำดี ฝักบัวอาบน้ำ และกระจกเงา หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้นร้อยละ 4.1 ซึ่งสูงขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยสินค้าสำคัญที่สูงขึ้น ได้แก่ สายไฟฟ้า VCT ประตูน้ำ สายเคเบิล THW ก๊อกน้ำ ข้องอ-ข้อต่อท่อประปา ท่อร้อยสายไฟและสายโทรศัพท์ PVC และท่อ PVC เป็นต้น เนื่องจากราคาต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น จากการปรับราคาสูงขึ้นของสินค้าในกลุ่มโลหะ ได้แก่ เหล็กและทองแดง และหมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ สูงขึ้นร้อยละ 0.6 จากการสูงขึ้นของสินค้าในกลุ่ม หิน ดิน ทราย และอลูมิเนียม เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่หมวดสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงลดลง ได้แก่ หมวดซีเมนต์ ลดลงร้อยละ 1.7 ซึ่งยังคงลดลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากการลดลงของปูนซีเมนต์ผสม และปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เนื่องจากมีการแข่งขันสูงจากโครงการก่อสร้างภาครัฐ ในขณะที่การก่อสร้างภาคเอกชนยังคงซบเซาจากผลกระทบการระบาดของโควิด-19 และหมวดวัสดุฉาบผิว ลดลงร้อยละ 0.1 ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากการลดลงของซิลิโคน

2. เทียบกับเดือนกรกฎาคม 2564 (MoM) สูงขึ้นร้อยละ 0.6 โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า ดังนี้ หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 0.5 จากการสูงขึ้นของผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ท่อระบายน้ำคอนกรีต ซึ่งยังคงสูงขึ้นจากราคาต้นทุนวัตถุดิบ คือ เหล็ก เป็นสำคัญ หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก สูงขึ้นร้อยละ 2.2 จากการสูงขึ้นของเหล็กเส้นกลมผิวเรียบ-ผิวข้ออ้อย เหล็กฉาก ท่อเหล็กกลวงเหลี่ยมจัตุรัส ท่อเหล็กเคลือบสังกะสี ท่อสแตนเลส ประตูเหล็กม้วน เหล็กแผ่นเรียบดำ แผ่นสแตสเลส เหล็กตัว H และเหล็กรางน้ำ เนื่องจากราคาเหล็กในประเทศยังสูง ถึงแม้ราคาเหล็กตลาดโลกเริ่มมีแนวโน้มลดลงก็ตาม หมวดสุขภัณฑ์ สูงขึ้นร้อยละ 0.2 จากการสูงขึ้นของฝักบัวอาบน้ำ กระจกเงา ราวแขวนผ้าติดผนัง ในขณะที่หมวดสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงลดลง ได้แก่ หมวดกระเบื้อง ลดลงร้อยละ 0.1 จากการลดลงของกระเบื้องคอนกรีตมุงหลังคา ส่วนสินค้าที่ดัชนีราคาไม่เปลี่ยนแปลง ได้แก่ หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ หมวดซีเมนต์ หมวดวัสดุฉาบผิว หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา และหมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ

3. เฉลี่ย 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ปี 2564 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (AoA) สูงขึ้นร้อยละ 7.5 โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า ดังนี้ หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สูงขึ้นร้อยละ 1.8 จากการสูงขึ้นของบานประตู-หน้าต่าง วงกบประตู-หน้าต่าง ไม้คาน ไม้โครงคร่าว และไม้แบบ เนื่องจากต้นทุนเฉลี่ยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 1.4 จากการสูงขึ้นของชีทไพล์คอนกรีต เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก ผนังคอนกรีตสำเร็จเร็จรูป เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก คอนกรีตผสมเสร็จ คอนกรีตหยาบ ถังซีเมนต์สำเร็จรูป และท่อระบายน้ำคอนกรีต เนื่องจากราคาต้นทุนเฉลี่ยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก สูงขึ้นร้อยละ 32.9 จากการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในเกือบทุกรายการสินค้า ผลต่อเนื่องจากราคาเหล็กในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรงตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา หมวดกระเบื้อง สูงขึ้นร้อยละ 0.5 จากการสูงขึ้นของกระเบื้องยาง PVC ปูพื้น กระเบื้องแกรนิต และกระเบื้องลอนคู่ จากราคาต้นทุนเฉลี่ยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้นร้อยละ 3.1 จากการสูงขึ้นของสินค้าที่สำคัญได้แก่ สายเคเบิล THW สายไฟ VCT ท่อร้อยสายไฟและสายโทรศัพท์ PVC ท่อ PVC ข้องอ-ข้อต่อท่อประปา ก๊อกน้ำ ประตูน้ำ เป็นต้น เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่สำคัญ ได้แก่ เหล็ก ทองแดง ที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และหมวดวัสดุก่อสร้างอื่นๆ สูงขึ้นร้อยละ 1.6 จากการสูงขึ้นของสินค้าในกลุ่ม หิน ดิน ทราย อลูมิเนียมแผ่นเรียบ วงกบอลูมิเนียม และยางมะตอย เนื่องจากราคาต้นทุนเฉลี่ยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่หมวดสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงลดลง ได้แก่ หมวดซีเมนต์ ลดลงร้อยละ 2.0 จากการลดลงของปูนซีเมนต์ผสม ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ และปูนฉาบสำเร็จรูป เนื่องจากภาวการณ์ก่อสร้างที่ยังคงซบเซาต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ และการสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ทำให้สถานการณ์การก่อสร้างชะลอลงจากเดิม หมวดวัสดุฉาบผิว ลดลงร้อยละ 0.1 จากการลดลงของสีทาถนน ชนิดสะท้อนแสง และซิลิโคน และหมวดสุขภัณฑ์ ลดลงร้อยละ 0.2 จากการลดลงของฉากกั้นห้องอาบน้ำสำเร็จรูป กระจกเงา ฝักบัวอาบน้ำ และสายฉีดชำระ

4. แนวโน้มดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนกันยายน ปี 2564
ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนกันยายน 2564 ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัว โดยเฉพาะหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ราคาปรับสูงขึ้นตามราคาในตลาดโลก จากความต้องการที่ยังมีเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายในหลายประเทศ และยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในจีนขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับจีนมีการลดกำลังการผลิตเหล็ก เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ขณะที่โรงงานผลิตเหล็กในต่างประเทศทยอยกลับมาดำเนินการตามปกติ
อย่างไรก็ตาม แม้โครงการก่อสร้างจะสามารถดำเนินการได้ภายใต้มาตรการควบคุมโรค แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันสูง รวมทั้ง ความกังวลต่อการเกิดคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อในแคมป์ก่อสร้าง น่าจะยังทำให้ภาคการก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวข้องยังไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่ควร ซึ่งจะเป็นแรงกดดันที่ทำให้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างชะลอตัว

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ