แท็ก
สำนักนายกรัฐมนตรี
ทำเนียบรัฐบาล--21 พ.ค.--บิสนิวส์
คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมรับทราบงบทำการ และให้ความเห็นชอบงบประมาณลงทุนประจำปี 2540 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
1. รับทราบงบทำการซึ่ง
(1) ประมาณการรายได้ จำนวน 587,806,300.00 บาท
(2) ประมาณการรายจ่าย จำนวน 639,413,208.14 บาท
(3) ประมาณกำไร (ขาดทุน) สุทธิ จำนวน 51,606,908.14 บาท
2. ให้ความเห็นชอบงบประมาณลงทุนประจำปี 2540 จำนวน 2,065.27 ล้านบาท ดังนี้
(1) งบประมาณลงทุนเพื่อการดำเนินงานปกติ จำนวน 275,263,380.00 บาท
(2) งบประมาณลงทุนที่ทำเป็นโครงการ จำนวน 1,790,012,533.22 บาท
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมีความเห็นเพิ่มเติม ดังนี้
1. เพื่อให้การดำเนินงานพัฒนากีฬาของประเทศในระยะต่อไป มีทิศทางสอดคล้องกับการพัฒนาคนและสังคมในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (2540 - 2544) จึงเห็นควรให้ กกท. ดำเนินการ
- ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมเผยแพร่ความรู้ และสร้างทัศนคติที่ถูกต้องแก่ประชาชนให้รู้จักการเล่นกีฬาและออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพของตนเอง ครอบครัว ชุมชน
- ส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐ สถานประกอบการ ธุรกิจเอกชน และสถานศึกษาทุกระดับ จัดกิจกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างกว้างขวาง รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนให้ภาคเอกชนจัดบริการส่งเสริมสุขภาพในส่วนภูมิภาคมากยิ่งขึ้น
- ควรมีการรวบรวมติดตามผลการดำเนินงานของโครงการ/กิจกรรม ที่ใช้เงินอุดหนุนในรายการที่สำคัญ ๆ เป็นประจำ เพื่อประโยชน์ต่อการติดตามผลการพัฒนากีฬาในภาพรวม
2. กกท. ควรเร่งดำเนินการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับทรัพย์สิน โดยเฉพาะสนามกีฬาเมืองหลักว่าควรจะเป็นทรัพย์สินของจังหวัดหรือของ กกท. ให้ชัดเจนโดยเร็ว เพราะมีผลกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณเพื่อการบำรุงรักษา และการตรวจรับรองงบการเงินของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินด้วย
3. จากปัญหากู้ยืมเงินทดรองส่งเอกสารไม่ครบถ้วนและล่าช้ากว่ากำหนด การติดตามทำได้ยาก ทำให้งบการเงินของ กกท. ซึ่งผ่านการตรวจรับรองจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ต้องล่าช้าด้วยนั้น นับเป็นปัญหาที่ติดต่อกันมานานถึง 2 ปีแล้วและขณะนี้ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ ซึ่งมีผลกระทบต่อการบริหารงานในระดับต่าง ๆ ของ กกท. จึงเห็นควรให้ กกท. ได้เร่งรัดแก้ไขประเด็นปัญหานี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อให้การจัดทำบัญชีและรายงานมีข้อมูลที่ทันสมัยสอดคล้องกับนโยบายการบริหารงานของรัฐวิสาหกิจที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2536 และระบบประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจที่ กกท. จะต้องเข้าระบบดังกล่าวในปี 2541 ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 19 พฤษภาคม 2540--
คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมรับทราบงบทำการ และให้ความเห็นชอบงบประมาณลงทุนประจำปี 2540 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
1. รับทราบงบทำการซึ่ง
(1) ประมาณการรายได้ จำนวน 587,806,300.00 บาท
(2) ประมาณการรายจ่าย จำนวน 639,413,208.14 บาท
(3) ประมาณกำไร (ขาดทุน) สุทธิ จำนวน 51,606,908.14 บาท
2. ให้ความเห็นชอบงบประมาณลงทุนประจำปี 2540 จำนวน 2,065.27 ล้านบาท ดังนี้
(1) งบประมาณลงทุนเพื่อการดำเนินงานปกติ จำนวน 275,263,380.00 บาท
(2) งบประมาณลงทุนที่ทำเป็นโครงการ จำนวน 1,790,012,533.22 บาท
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมีความเห็นเพิ่มเติม ดังนี้
1. เพื่อให้การดำเนินงานพัฒนากีฬาของประเทศในระยะต่อไป มีทิศทางสอดคล้องกับการพัฒนาคนและสังคมในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (2540 - 2544) จึงเห็นควรให้ กกท. ดำเนินการ
- ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมเผยแพร่ความรู้ และสร้างทัศนคติที่ถูกต้องแก่ประชาชนให้รู้จักการเล่นกีฬาและออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพของตนเอง ครอบครัว ชุมชน
- ส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐ สถานประกอบการ ธุรกิจเอกชน และสถานศึกษาทุกระดับ จัดกิจกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างกว้างขวาง รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนให้ภาคเอกชนจัดบริการส่งเสริมสุขภาพในส่วนภูมิภาคมากยิ่งขึ้น
- ควรมีการรวบรวมติดตามผลการดำเนินงานของโครงการ/กิจกรรม ที่ใช้เงินอุดหนุนในรายการที่สำคัญ ๆ เป็นประจำ เพื่อประโยชน์ต่อการติดตามผลการพัฒนากีฬาในภาพรวม
2. กกท. ควรเร่งดำเนินการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับทรัพย์สิน โดยเฉพาะสนามกีฬาเมืองหลักว่าควรจะเป็นทรัพย์สินของจังหวัดหรือของ กกท. ให้ชัดเจนโดยเร็ว เพราะมีผลกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณเพื่อการบำรุงรักษา และการตรวจรับรองงบการเงินของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินด้วย
3. จากปัญหากู้ยืมเงินทดรองส่งเอกสารไม่ครบถ้วนและล่าช้ากว่ากำหนด การติดตามทำได้ยาก ทำให้งบการเงินของ กกท. ซึ่งผ่านการตรวจรับรองจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ต้องล่าช้าด้วยนั้น นับเป็นปัญหาที่ติดต่อกันมานานถึง 2 ปีแล้วและขณะนี้ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ ซึ่งมีผลกระทบต่อการบริหารงานในระดับต่าง ๆ ของ กกท. จึงเห็นควรให้ กกท. ได้เร่งรัดแก้ไขประเด็นปัญหานี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อให้การจัดทำบัญชีและรายงานมีข้อมูลที่ทันสมัยสอดคล้องกับนโยบายการบริหารงานของรัฐวิสาหกิจที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2536 และระบบประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจที่ กกท. จะต้องเข้าระบบดังกล่าวในปี 2541 ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 19 พฤษภาคม 2540--