ทำเนียบรัฐบาล--14 ธ.ค.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบรายงานการปล่อยสินเชื่อให้ภาคเกษตรและอุตสาหกรรมของสถาบันการเงิน ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเสนอ สรุปได้ดังนี้
ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมตามระเบียบต่าง ๆ ผ่านธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (บรรษัท) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดย ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2541 ธปท. ได้ให้เงินช่วยเหลือไปแล้วเป็นเงินคงค้างทั้งสิ้น 10,611.7 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ให้เงินช่วยเหลือในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งมีจำนวน 11,015.2 ล้านบาท ซึ่งแยกได้เป็น ดังนี้
1. การช่วยเหลือแก่ภาคเกษตรกรรม ธปท. ได้ให้เงินช่วยเหลือไปแล้ว ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2541 เป็นเงินคงค้างทั้งสิ้น 6,431.8 ล้านบาท แยกเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่การค้าข้าวเปลือกของโรงสีและผู้ค้าข้าวจำนวน 1,494.7 ล้านบาท การช่วยเหลือแก่ชาวไร่อ้อย 508.9 ล้านบาท การเลื้องสัตว์ 428.2 ล้านบาท และความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผ่าน ธ.ก.ส. อีกจำนวน 4,000 ล้านบาท
2. การช่วยเหลือแก่ภาคอุตสาหกรรม ธปท. ได้ให้เงินช่วยเหลือไปแล้ว ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2541 เป็นเงินคงค้างทั้งสิ้น 4,179.9 ล้านบาท แยกเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมทั่วไป 151.5 ล้านบาท ประกอบกิจการอุตสาหกรรมขนาดย่อม จำนวน 174.4 ล้านบาท ผู้ลงทุนในเขตส่งเสริมการลงทุนเขต 3 ของ BOI จำนวน 426.2 ล้านบาท และให้ความช่วยเหลือแก่กิจการอุตสาหกรรมผ่านบรรษัท โดยส่วนใหญ่เป็นการให้ความช่วยเหลือแก่อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,427.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธปท. ได้จัดสรรวงเงินช่วยเหลือแก่ภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรมไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 33,632.8 ล้านบาท เมื่อหักจำนวนเงินที่ ธปท. ให้ความช่วยเหลือและสถาบันการเงินได้เบิกเงินไปแล้ว ธปท. จะยังมีวงเงินช่วยเหลือแก่ภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอีกประมาณ 20,000 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 14 ธันวาคม 2541--
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบรายงานการปล่อยสินเชื่อให้ภาคเกษตรและอุตสาหกรรมของสถาบันการเงิน ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเสนอ สรุปได้ดังนี้
ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมตามระเบียบต่าง ๆ ผ่านธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (บรรษัท) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดย ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2541 ธปท. ได้ให้เงินช่วยเหลือไปแล้วเป็นเงินคงค้างทั้งสิ้น 10,611.7 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ให้เงินช่วยเหลือในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งมีจำนวน 11,015.2 ล้านบาท ซึ่งแยกได้เป็น ดังนี้
1. การช่วยเหลือแก่ภาคเกษตรกรรม ธปท. ได้ให้เงินช่วยเหลือไปแล้ว ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2541 เป็นเงินคงค้างทั้งสิ้น 6,431.8 ล้านบาท แยกเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่การค้าข้าวเปลือกของโรงสีและผู้ค้าข้าวจำนวน 1,494.7 ล้านบาท การช่วยเหลือแก่ชาวไร่อ้อย 508.9 ล้านบาท การเลื้องสัตว์ 428.2 ล้านบาท และความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผ่าน ธ.ก.ส. อีกจำนวน 4,000 ล้านบาท
2. การช่วยเหลือแก่ภาคอุตสาหกรรม ธปท. ได้ให้เงินช่วยเหลือไปแล้ว ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2541 เป็นเงินคงค้างทั้งสิ้น 4,179.9 ล้านบาท แยกเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมทั่วไป 151.5 ล้านบาท ประกอบกิจการอุตสาหกรรมขนาดย่อม จำนวน 174.4 ล้านบาท ผู้ลงทุนในเขตส่งเสริมการลงทุนเขต 3 ของ BOI จำนวน 426.2 ล้านบาท และให้ความช่วยเหลือแก่กิจการอุตสาหกรรมผ่านบรรษัท โดยส่วนใหญ่เป็นการให้ความช่วยเหลือแก่อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,427.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธปท. ได้จัดสรรวงเงินช่วยเหลือแก่ภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรมไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 33,632.8 ล้านบาท เมื่อหักจำนวนเงินที่ ธปท. ให้ความช่วยเหลือและสถาบันการเงินได้เบิกเงินไปแล้ว ธปท. จะยังมีวงเงินช่วยเหลือแก่ภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอีกประมาณ 20,000 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 14 ธันวาคม 2541--