ทำเนียบรัฐบาล--19 ต.ค.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 8 เดือนแรก
(มค.-สค.42) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และข้อมูลภาวะการค้าระหว่างประเทศในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2542 ตาม
ที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ในระยะ 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.) ของปี 2542
รูปเงินบาท รูปเงินเหรียญสหรัฐฯ
ล้านบาท % เพิ่ม/ลด ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม/ลด
การส่งออก 1,372,790 - 11.1 37,162 3.4
การนำเข้า 1,172,048 - 5.4 31,428 10.3
ดุลการค้า 200,742 - 34.4 5,733 - 23.1
1.1 การส่งออก
1) การส่งออกรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4
- เดือนสิงหาคม การส่งออกคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เป็นเดือนที่ห้าเป็นการเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า โดยสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น
ร้อยละ 12.0 และ 17.2 ตามลำดับ ขณะที่สินค้าเกษตรกรรมกลับมาส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกร้อยละ 10.6
- การปรับตัวดีขึ้นของการส่งออกสินค้าเกษตรกรรมเป็นผลจาการส่งออก ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำ
ปะหลังและอาหารทะเลแช่แข็ง (กุ้ง ปลา และปลาหมึก) ที่เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า สำหรับสินค้าที่ยังส่งออกลดลง ได้แก่
ยางพารา โดยเป็นการลดลงของราคาส่งออกทำให้มูลค่าส่งออกลดลง ขณะที่ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น
- สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผักและ
ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวและข้าวสาลี ขณะที่น้ำตาลทรายและผลิตภัณฑ์ยาง ส่งออกลดลง
- สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่แปด สินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้นยังคงได้แก่ เครื่อง
ใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อัญมณีและเครื่องประดับ รถยนต์และส่วนประกอบ เฟอร์นิเจอร์ เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่อง
ใช้เดินทาง หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า โดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูปและผ้าผืนที่ส่งออก
เพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรก สำหรับสินค้าสำคัญที่ส่งออกลดลงได้แก่ รองเท้าและชิ้นส่วน
- ในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 การส่งออกคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 37,161 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 3.4
- เมื่อพิจารณาปริมาณการส่งออกในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ
7.6 ขณะที่ราคาส่งออกเฉลี่ยลดลงร้อยละ 5.3 โดยเป็นผลจากการลดลงของราคาส่งออกสินค้าเกษตรกรรมและสินค้าอุตสาห
กรรมการเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง อาหารทะเลแช่แข็งและกระป๋อง และน้ำตาลทราย
- สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งส่งออกเพิ่ม
ขึ้นร้อยละ 7.7 และ 5.1 ตามลำดับ สินค้าที่สำคัญได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประ
กอบ เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์ไม้ เครื่องใช้สำหรับเดินทาง หนังและผลิตภัณฑ์
ของเล่น และปูนซิเมนต์
- สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อาหารทะเลแปรรูป ผักและผลไม้
กระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวและข้าวสาลี
- สินค้าส่งออกลดลงส่วนใหญ่เป็นผลจากความต้องการของตลาดต่างประเทศที่ลดลงและภาวะการ
แข่งขันด้านราคาที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ที่สำคัญ ได้แก่ สินค้าเกษตรกรรม ได้แก่ ข้าว ยางพารา และกุ้งสดแช่แข็ง สินค้าอุตสาห
กรรมเกษตร ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋อง น้ำตาลทราย และผลิตภัณฑ์ยาง รวมทั้งสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จ
รูปและผ้าผืน รองเท้าและชิ้นส่วน
- สำหรับการส่งออกในเดือนกันยายน 2542 (ตัวเลข 100%) มีมูลค่า 5,180 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 10.8 ทำให้การส่งออกในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2542 (มค.-กย.) มีมูลค่า
42,341 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 4.2
2) การส่งออกในรูปเงินบาทลดลงร้อยละ 11.1
- เดือนสิงหาคมการส่งออกคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ
4.6
- ในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 การส่งออกคิดเป็นเงินบาทลดลงระยะเดียวกันของปี 2541
ร้อยละ 11.1
3) ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- การเร่งการส่งออกเพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลงเนื่องจากปัญหาวิกฤตในประเทศประกอบกับผู้ผลิตที่
เป็นการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งการร่วมลงทุนได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทแม่ในต่างประเทศในการหาตลาดให้ โดย
เฉพาะสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ เป็นต้น
- ภาวะเศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชียที่มีแนวโน้มฟื้นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะญี่ปุ่น เกาหลีใต้
ฮ่องกง ไต้หวัน และประเทศในกลุ่มอาเซียน ทำให้มีการนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น
- อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง รวมทั้งภาวะ
การแข่งขันในตลาดต่างประเทศที่ยังมีความรุนแรง โดยเฉพาะจากประเทศคู่แข่งสำคัญ คือ จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์
เกาหลีใต้ เม็กซิโก และยุโรปตะวันออก มีการลดราคาสินค้าและขายสินค้าตัดราคากัน ส่งผลให้ราคาสินค้ายังมีแนวโน้มที่ลดลง
1.2 ภาวะการนำเข้า
1) การนำเข้ารูปเงินเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3
- เดือนสิงหาคม การนำเข้าคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 4,177 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
จากเดือนเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 23.9 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่แปด โดยเป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นในทุกหมวดทุกสินค้า
- ในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 การนำเข้าคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 31,428 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 10.3 เป็นการเพิ่มขึ้นในหมวดสินค้า
- หมวดสินค้าสำคัญที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 132.0
รองลงมาได้แก่ หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปและสินค้าทุน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 และ 7.6 ตามลำดับ ขณะที่สินค้าเชื้อเพลิง
และสินค้าอุปโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 และ 8.0 ตามลำดับ
- สินค้าทุน สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ที่นำเข้ามาเพื่อใช้ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกยังขยายตัวเพิ่ม
ขึ้นต่อเนื่อง ที่สำคัญได้แก่ ส่วนประกอบ อุปกรณ์โครงรถและตัวถัง แผงวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์
โลหะเหล็กและเหล็กกล้า เครื่องเพชร พลอยและอัญมณี ปุ๋ย หนังดิบและหนังฟอก ไม้ซุงและไม้แปรรูป ผ้าผืนและด้าย เป็นต้น
2) การนำเข้าในรูปเงินบาท ลดลงร้อยละ 5.4
- เดือนสิงหาคม การนำเข้าของไทยคิดเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ
12.5
- ในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 การนำเข้าคิดเป็นเงินบาท มีมูลค่าทั้งสิ้น 1,172,048 ล้านบาท
ลดลงจากระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 5.4
1.3 ดุลการค้าเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ยี่สิบสี่
- เดือนสิงหาคม ดุลการค้าเกินดุลคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 29,035 ล้านบาท คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ
มีมูลค่า 806 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- ในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 ดุลการค้าของไทยเกินดุลคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 200,742 ล้านบาท
ลดลงจากระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 34.4 คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 5,733 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจาก
ระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 23.1
- ประเทศคู่ค้าสำคัญที่ไทยมีดุลการค้าเกินดุล คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และอาเซียน (ยกเว้นมา
เลเซีย) รวมทั้งประเทศอื่นๆ ได้แก่ ฮ่องกง แอฟริกา และออสเตรเลีย
- ประเทศที่ไทยขาดดุลการค้า ได้แก่ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ตะวันออกกลาง ไต้หวัน เกาหลีใต้ จีน และยุโรป
ตะวันออก
2. ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2542 (มกราคม - กันยายน 2542)
รูปเงินเหรียญสหรัฐฯ (ล้านเหรียญสหรัฐฯ) รูปเงินบาท (ล้านบาท)
มค.-กย.42 มค.-กย.41 % เพิ่ม/ลด มค.-กย.42 มค.-กย.41 % เพิ่ม/ลด
การส่งออก 42,340 40,643 4.18 1,574,274 1,736,133 (9.32)
การนำเข้า 35,836 31,868 12.45 1,344,611 1,378,073 (2.43)
ดุลการค้า 6,504 8,775 (25.88) 229,663 358,663 (35.86)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดฯนาย ชวน หลีกภัย)--วันที่ 18 ตุลาคม 2542--
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 8 เดือนแรก
(มค.-สค.42) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และข้อมูลภาวะการค้าระหว่างประเทศในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2542 ตาม
ที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ในระยะ 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.) ของปี 2542
รูปเงินบาท รูปเงินเหรียญสหรัฐฯ
ล้านบาท % เพิ่ม/ลด ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม/ลด
การส่งออก 1,372,790 - 11.1 37,162 3.4
การนำเข้า 1,172,048 - 5.4 31,428 10.3
ดุลการค้า 200,742 - 34.4 5,733 - 23.1
1.1 การส่งออก
1) การส่งออกรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4
- เดือนสิงหาคม การส่งออกคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เป็นเดือนที่ห้าเป็นการเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า โดยสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น
ร้อยละ 12.0 และ 17.2 ตามลำดับ ขณะที่สินค้าเกษตรกรรมกลับมาส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกร้อยละ 10.6
- การปรับตัวดีขึ้นของการส่งออกสินค้าเกษตรกรรมเป็นผลจาการส่งออก ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำ
ปะหลังและอาหารทะเลแช่แข็ง (กุ้ง ปลา และปลาหมึก) ที่เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า สำหรับสินค้าที่ยังส่งออกลดลง ได้แก่
ยางพารา โดยเป็นการลดลงของราคาส่งออกทำให้มูลค่าส่งออกลดลง ขณะที่ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น
- สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผักและ
ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวและข้าวสาลี ขณะที่น้ำตาลทรายและผลิตภัณฑ์ยาง ส่งออกลดลง
- สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่แปด สินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้นยังคงได้แก่ เครื่อง
ใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อัญมณีและเครื่องประดับ รถยนต์และส่วนประกอบ เฟอร์นิเจอร์ เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่อง
ใช้เดินทาง หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า โดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูปและผ้าผืนที่ส่งออก
เพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรก สำหรับสินค้าสำคัญที่ส่งออกลดลงได้แก่ รองเท้าและชิ้นส่วน
- ในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 การส่งออกคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 37,161 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 3.4
- เมื่อพิจารณาปริมาณการส่งออกในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ
7.6 ขณะที่ราคาส่งออกเฉลี่ยลดลงร้อยละ 5.3 โดยเป็นผลจากการลดลงของราคาส่งออกสินค้าเกษตรกรรมและสินค้าอุตสาห
กรรมการเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง อาหารทะเลแช่แข็งและกระป๋อง และน้ำตาลทราย
- สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งส่งออกเพิ่ม
ขึ้นร้อยละ 7.7 และ 5.1 ตามลำดับ สินค้าที่สำคัญได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประ
กอบ เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์ไม้ เครื่องใช้สำหรับเดินทาง หนังและผลิตภัณฑ์
ของเล่น และปูนซิเมนต์
- สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อาหารทะเลแปรรูป ผักและผลไม้
กระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวและข้าวสาลี
- สินค้าส่งออกลดลงส่วนใหญ่เป็นผลจากความต้องการของตลาดต่างประเทศที่ลดลงและภาวะการ
แข่งขันด้านราคาที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ที่สำคัญ ได้แก่ สินค้าเกษตรกรรม ได้แก่ ข้าว ยางพารา และกุ้งสดแช่แข็ง สินค้าอุตสาห
กรรมเกษตร ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋อง น้ำตาลทราย และผลิตภัณฑ์ยาง รวมทั้งสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จ
รูปและผ้าผืน รองเท้าและชิ้นส่วน
- สำหรับการส่งออกในเดือนกันยายน 2542 (ตัวเลข 100%) มีมูลค่า 5,180 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 10.8 ทำให้การส่งออกในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2542 (มค.-กย.) มีมูลค่า
42,341 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 4.2
2) การส่งออกในรูปเงินบาทลดลงร้อยละ 11.1
- เดือนสิงหาคมการส่งออกคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ
4.6
- ในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 การส่งออกคิดเป็นเงินบาทลดลงระยะเดียวกันของปี 2541
ร้อยละ 11.1
3) ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- การเร่งการส่งออกเพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลงเนื่องจากปัญหาวิกฤตในประเทศประกอบกับผู้ผลิตที่
เป็นการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งการร่วมลงทุนได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทแม่ในต่างประเทศในการหาตลาดให้ โดย
เฉพาะสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ เป็นต้น
- ภาวะเศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชียที่มีแนวโน้มฟื้นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะญี่ปุ่น เกาหลีใต้
ฮ่องกง ไต้หวัน และประเทศในกลุ่มอาเซียน ทำให้มีการนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น
- อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง รวมทั้งภาวะ
การแข่งขันในตลาดต่างประเทศที่ยังมีความรุนแรง โดยเฉพาะจากประเทศคู่แข่งสำคัญ คือ จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์
เกาหลีใต้ เม็กซิโก และยุโรปตะวันออก มีการลดราคาสินค้าและขายสินค้าตัดราคากัน ส่งผลให้ราคาสินค้ายังมีแนวโน้มที่ลดลง
1.2 ภาวะการนำเข้า
1) การนำเข้ารูปเงินเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3
- เดือนสิงหาคม การนำเข้าคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 4,177 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
จากเดือนเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 23.9 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่แปด โดยเป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นในทุกหมวดทุกสินค้า
- ในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 การนำเข้าคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 31,428 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 10.3 เป็นการเพิ่มขึ้นในหมวดสินค้า
- หมวดสินค้าสำคัญที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 132.0
รองลงมาได้แก่ หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปและสินค้าทุน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 และ 7.6 ตามลำดับ ขณะที่สินค้าเชื้อเพลิง
และสินค้าอุปโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 และ 8.0 ตามลำดับ
- สินค้าทุน สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ที่นำเข้ามาเพื่อใช้ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกยังขยายตัวเพิ่ม
ขึ้นต่อเนื่อง ที่สำคัญได้แก่ ส่วนประกอบ อุปกรณ์โครงรถและตัวถัง แผงวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์
โลหะเหล็กและเหล็กกล้า เครื่องเพชร พลอยและอัญมณี ปุ๋ย หนังดิบและหนังฟอก ไม้ซุงและไม้แปรรูป ผ้าผืนและด้าย เป็นต้น
2) การนำเข้าในรูปเงินบาท ลดลงร้อยละ 5.4
- เดือนสิงหาคม การนำเข้าของไทยคิดเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ
12.5
- ในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 การนำเข้าคิดเป็นเงินบาท มีมูลค่าทั้งสิ้น 1,172,048 ล้านบาท
ลดลงจากระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 5.4
1.3 ดุลการค้าเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ยี่สิบสี่
- เดือนสิงหาคม ดุลการค้าเกินดุลคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 29,035 ล้านบาท คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ
มีมูลค่า 806 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- ในระยะ 8 เดือนแรกของปี 2542 ดุลการค้าของไทยเกินดุลคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 200,742 ล้านบาท
ลดลงจากระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 34.4 คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 5,733 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจาก
ระยะเดียวกันของปี 2541 ร้อยละ 23.1
- ประเทศคู่ค้าสำคัญที่ไทยมีดุลการค้าเกินดุล คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และอาเซียน (ยกเว้นมา
เลเซีย) รวมทั้งประเทศอื่นๆ ได้แก่ ฮ่องกง แอฟริกา และออสเตรเลีย
- ประเทศที่ไทยขาดดุลการค้า ได้แก่ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ตะวันออกกลาง ไต้หวัน เกาหลีใต้ จีน และยุโรป
ตะวันออก
2. ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2542 (มกราคม - กันยายน 2542)
รูปเงินเหรียญสหรัฐฯ (ล้านเหรียญสหรัฐฯ) รูปเงินบาท (ล้านบาท)
มค.-กย.42 มค.-กย.41 % เพิ่ม/ลด มค.-กย.42 มค.-กย.41 % เพิ่ม/ลด
การส่งออก 42,340 40,643 4.18 1,574,274 1,736,133 (9.32)
การนำเข้า 35,836 31,868 12.45 1,344,611 1,378,073 (2.43)
ดุลการค้า 6,504 8,775 (25.88) 229,663 358,663 (35.86)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดฯนาย ชวน หลีกภัย)--วันที่ 18 ตุลาคม 2542--