ทำเนียบรัฐบาล--20 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องรายงานผลการเจรจาเงินกู้โครงการก่อสร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 และอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. ให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากธนาคารพัฒนาเอเชีย วงเงิน 180 ล้านเหรียญสหรัฐ และอนุมัติร่างสัญญากู้เงิน รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 ตามนัยสาระสำคัญและเงื่อนไขเงินกู้ที่กำหนด
2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบ หมายเป็นผู้ลงนามในสัญญากู้เงิน และเอกสารที่เกี่ยวข้องในนามราชอาณาจักรไทย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วย ผู้แทนกรมทางหลวง ผู้แทนกระทรวงการคลัง และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงมะนิลา เดิน ทางไปเจรจารายละเอียดของร่างสัญญากู้เงินและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับธนาคารพัฒนาเอเชีย ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และได้มีการลงนามใน Minutes of Loan Negotiations เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2538 โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. วงเงินกู้จำนวน 180 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการก่อ สร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วยแผนงานต่าง ๆ ดังนี้
1.1 แผนงานก่อสร้างทางหลวงภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 จำนวน 165 ล้านเหรียญสหรัฐ
1.2 แผนงานบริการที่ปรึกษาเพื่อออกแบบรายละเอียด และควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ
1.3 แผนงานวางคอมพิวเตอร์และจัดหาอุปกรณ์สำหรับงานของกรมทางหลวง จำนวน 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อจัดหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และวางระบบข้อมูลแบบ Local Area Network (LAN) เพื่อทดแทนระบบเดิม Mainframe computer ที่ล้าสมัย
1.4 แผนงานเสริมสร้างสมรรถนะหน่วยงานสิ่งแวดล้อมของกรมทางหลวง จำนวน 2 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพื่อกำกับดูแลการออกแบบและก่อสร้างทางหลวงให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของพระราช บัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิ ภาพ ความรู้ ความชำนาญด้านสิ่งแวดล้อม
1.5 แผนงานพัฒนาปรับปรุงองค์กรและบุคลากรของกรมทางหลวง จำนวน 3.5 ล้านเหรียญ สหรัฐ โดยจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมด้านงานทางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์การฝึกอบรม เพื่อช่วยบรรเทาการขาดแคลนวิศวกรของหน่วยราชการ และเป็นศูนย์กลางการฝึก อบรมด้านวิศวกรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
1.6 แผนปฏิบัติการป้องกันและลดมลภาวะสิ่งแวดล้อมของกระทรวงคมนาคม จำนวน 2 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพื่องานการศึกษาทางวิชาการ การจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สำ หรับการปฏิบัติงานตามแผนงานด้านการศึกษาความปลอดภัยในการใช้ถนน ด้านการลดมลพิษทางอากาศ และเสียงดังจากการใช้ยานพาหนะ และด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพอุตสาหกรรมขนส่ง
1.7 แผนงานศึกษาการให้เอกชนมีส่วนร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของสำนักงาน เศรษฐกิจการคลังกระทรวงการคลัง จำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะบุคลากรและ สถาบัน รวมทั้งทบทวนระเบียบและข้อกฎหมายเกี่ยวกับการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการ โครงสร้างพื้นฐาน
2. เงื่อนไขเงินกู้
2.1 เป็นเงินกู้สกุลเหรียญสหรัฐในวงเงิน 180 ล้านเหรียญสหรัฐ
2.2 อัตราดอกเบี้ยกำหนดตามที่ธนาคารประกาศ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงทุก 6 เดือน (วันที่ 1 มกราคม และ 1 กรกฎาคม) โดยคำนวณตามอัตราต้นทุนการกู้เงินใหม่ในรูปเงินเหรียญสหรัฐของ ธนาคาร บวกค่าบริการและส่วนต่าง (Spread) อีกร้อยละ 0.40 (ปัจจุบันอัตราร้อยละ 6.91 ต่อปี)
2.3 ค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้อัตราร้อยละ 0.75 ต่อปี ของยอดเงินกู้คงค้างที่ยังไม่ได้เบิก จ่ายในแต่ละปีโดยธนาคารฯ จะเริ่มคิดค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ภายใน 60 วัน หลังวันลงนามในสัญญา กู้เงิน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ช่วง 12 เดือนแรก คิดจากวงเงิน 37 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ช่วง 12 เดือนที่ 2 คิดจากวงเงิน 81 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ช่วง 12 เดือนที่ 3 คิดจากวงเงิน 153 ล้านเหรียญสหรัฐ
และหลังจากนั้นคิดเต็มยอดเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย
2.4 ระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้สิ้นสุดภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2544
2.5 ระยะเวลาการชำระหนี้คืนต้นเงินกู้นาน 25 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 5 ปี กำ หนดชำระหนี้ต้นเงินกู้งวดแรกวันที่ 1 ตุลาคม 2543 และชำระหนี้ต้นเงินกู้งวดสุดท้ายวันที่ 1 เมษายน 2563
3. การใช้เงินกู้สำหรับแผนงานก่อสร้างทางหลวงภายใต้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 7 จะต้องเป็น ไปตามเกณฑ์ดังนี้
3.1 โครงการก่อสร้างทางสายต่าง ๆ ภายใต้โครงการก่อสร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร จะต้องเป็นโครงการที่อยู่ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 และเป็น สายทางที่มีการศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจและวิศวกรรม
3.2 ทุกสายทางจะต้องให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่าร้อยละ 12
3.3 โครงการลงทุนทุกสายทางจะต้องไม่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมมีแผนการอพยพประชากร ออกจากพื้นที่ที่เหมาะสม และเป็นที่ยอมรับของธนาคารฯ และแผนการก่อสร้างทุกสายทางจะต้องส่งให้ ธนาคารฯ พิจารณาอนุมัติภายใน วันที่ 30 กันยายน 2539
4. ธนาคารพัฒนาเอเชียได้ตกลงให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศไทย จำนวน 300,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับแผนงานเสริมสร้างสมรรถนะหน่วยงานสิ่งแวดล้อมของกรมทางหลวง จำ นวน 200,000 เหรียญสหรัฐ และแผนงานศึกษาการให้เอกชนมีส่วนร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จำนวน 100,000 เหรียญสหรัฐ โดยมีเงื่อนไขความช่วยเหลือทาง วิชาการเป็นไปตามมาตรฐานของธนาคารฯ
5. คณะกรรมการนโยบายหนี้ของประเทศได้พิจารณาอนุมัติให้บรรจุโครงการนี้ไว้เป็น โครงการหลักในแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2538 (ปรับปรุงครั้งที่ 1) แล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 19 กันยายน 2539--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องรายงานผลการเจรจาเงินกู้โครงการก่อสร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 และอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. ให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากธนาคารพัฒนาเอเชีย วงเงิน 180 ล้านเหรียญสหรัฐ และอนุมัติร่างสัญญากู้เงิน รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 ตามนัยสาระสำคัญและเงื่อนไขเงินกู้ที่กำหนด
2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบ หมายเป็นผู้ลงนามในสัญญากู้เงิน และเอกสารที่เกี่ยวข้องในนามราชอาณาจักรไทย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วย ผู้แทนกรมทางหลวง ผู้แทนกระทรวงการคลัง และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงมะนิลา เดิน ทางไปเจรจารายละเอียดของร่างสัญญากู้เงินและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับธนาคารพัฒนาเอเชีย ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และได้มีการลงนามใน Minutes of Loan Negotiations เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2538 โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. วงเงินกู้จำนวน 180 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการก่อ สร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วยแผนงานต่าง ๆ ดังนี้
1.1 แผนงานก่อสร้างทางหลวงภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 จำนวน 165 ล้านเหรียญสหรัฐ
1.2 แผนงานบริการที่ปรึกษาเพื่อออกแบบรายละเอียด และควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ
1.3 แผนงานวางคอมพิวเตอร์และจัดหาอุปกรณ์สำหรับงานของกรมทางหลวง จำนวน 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อจัดหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และวางระบบข้อมูลแบบ Local Area Network (LAN) เพื่อทดแทนระบบเดิม Mainframe computer ที่ล้าสมัย
1.4 แผนงานเสริมสร้างสมรรถนะหน่วยงานสิ่งแวดล้อมของกรมทางหลวง จำนวน 2 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพื่อกำกับดูแลการออกแบบและก่อสร้างทางหลวงให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของพระราช บัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิ ภาพ ความรู้ ความชำนาญด้านสิ่งแวดล้อม
1.5 แผนงานพัฒนาปรับปรุงองค์กรและบุคลากรของกรมทางหลวง จำนวน 3.5 ล้านเหรียญ สหรัฐ โดยจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมด้านงานทางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์การฝึกอบรม เพื่อช่วยบรรเทาการขาดแคลนวิศวกรของหน่วยราชการ และเป็นศูนย์กลางการฝึก อบรมด้านวิศวกรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
1.6 แผนปฏิบัติการป้องกันและลดมลภาวะสิ่งแวดล้อมของกระทรวงคมนาคม จำนวน 2 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพื่องานการศึกษาทางวิชาการ การจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สำ หรับการปฏิบัติงานตามแผนงานด้านการศึกษาความปลอดภัยในการใช้ถนน ด้านการลดมลพิษทางอากาศ และเสียงดังจากการใช้ยานพาหนะ และด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพอุตสาหกรรมขนส่ง
1.7 แผนงานศึกษาการให้เอกชนมีส่วนร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของสำนักงาน เศรษฐกิจการคลังกระทรวงการคลัง จำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะบุคลากรและ สถาบัน รวมทั้งทบทวนระเบียบและข้อกฎหมายเกี่ยวกับการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการ โครงสร้างพื้นฐาน
2. เงื่อนไขเงินกู้
2.1 เป็นเงินกู้สกุลเหรียญสหรัฐในวงเงิน 180 ล้านเหรียญสหรัฐ
2.2 อัตราดอกเบี้ยกำหนดตามที่ธนาคารประกาศ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงทุก 6 เดือน (วันที่ 1 มกราคม และ 1 กรกฎาคม) โดยคำนวณตามอัตราต้นทุนการกู้เงินใหม่ในรูปเงินเหรียญสหรัฐของ ธนาคาร บวกค่าบริการและส่วนต่าง (Spread) อีกร้อยละ 0.40 (ปัจจุบันอัตราร้อยละ 6.91 ต่อปี)
2.3 ค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้อัตราร้อยละ 0.75 ต่อปี ของยอดเงินกู้คงค้างที่ยังไม่ได้เบิก จ่ายในแต่ละปีโดยธนาคารฯ จะเริ่มคิดค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ภายใน 60 วัน หลังวันลงนามในสัญญา กู้เงิน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ช่วง 12 เดือนแรก คิดจากวงเงิน 37 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ช่วง 12 เดือนที่ 2 คิดจากวงเงิน 81 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ช่วง 12 เดือนที่ 3 คิดจากวงเงิน 153 ล้านเหรียญสหรัฐ
และหลังจากนั้นคิดเต็มยอดเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย
2.4 ระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้สิ้นสุดภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2544
2.5 ระยะเวลาการชำระหนี้คืนต้นเงินกู้นาน 25 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 5 ปี กำ หนดชำระหนี้ต้นเงินกู้งวดแรกวันที่ 1 ตุลาคม 2543 และชำระหนี้ต้นเงินกู้งวดสุดท้ายวันที่ 1 เมษายน 2563
3. การใช้เงินกู้สำหรับแผนงานก่อสร้างทางหลวงภายใต้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 7 จะต้องเป็น ไปตามเกณฑ์ดังนี้
3.1 โครงการก่อสร้างทางสายต่าง ๆ ภายใต้โครงการก่อสร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร จะต้องเป็นโครงการที่อยู่ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 และเป็น สายทางที่มีการศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจและวิศวกรรม
3.2 ทุกสายทางจะต้องให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่าร้อยละ 12
3.3 โครงการลงทุนทุกสายทางจะต้องไม่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมมีแผนการอพยพประชากร ออกจากพื้นที่ที่เหมาะสม และเป็นที่ยอมรับของธนาคารฯ และแผนการก่อสร้างทุกสายทางจะต้องส่งให้ ธนาคารฯ พิจารณาอนุมัติภายใน วันที่ 30 กันยายน 2539
4. ธนาคารพัฒนาเอเชียได้ตกลงให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศไทย จำนวน 300,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับแผนงานเสริมสร้างสมรรถนะหน่วยงานสิ่งแวดล้อมของกรมทางหลวง จำ นวน 200,000 เหรียญสหรัฐ และแผนงานศึกษาการให้เอกชนมีส่วนร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จำนวน 100,000 เหรียญสหรัฐ โดยมีเงื่อนไขความช่วยเหลือทาง วิชาการเป็นไปตามมาตรฐานของธนาคารฯ
5. คณะกรรมการนโยบายหนี้ของประเทศได้พิจารณาอนุมัติให้บรรจุโครงการนี้ไว้เป็น โครงการหลักในแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2538 (ปรับปรุงครั้งที่ 1) แล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 19 กันยายน 2539--