ทำเนียบรัฐบาล--22 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยใน
ระยะ 7 เดือนแรก (ม.ค. - ก.ค.) ของปี 2541 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. ภาวะการค้าในระยะ 7 เดือนแรก (มค.-กค.) ของปี 2541
รูปเงินบาท รูปเงินเหรียญสหรัฐฯ
ล้านบาท % เพิ่ม/ลด ล้านเหรีญสหรัฐฯ % เพิ่ม/ลด
การส่งออก 1,367,397 57.5 31,619 - 4.1
การนำเข้า 1,098,936 3.6 25,126 - 37.2
ดุลการค้า 268,461 - 6,494 -
ทั้งนี้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.1 ภาวะการส่งออก
1) การส่งออกรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 4.1
- การส่งออกในเดือนกรกฎาคมคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 4,688 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ลดลงจากเดือนเดียวกันของปี 2540 ร้อยละ 4.0 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้า ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของการส่ง
ออกสินค้าเกษตรกรรมและสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรหลายชนิดที่ส่งออกปริมาณลดลง เช่น ยางพารา กุ้ง อาหาร
ทะเลแปรรูป ทำให้มูลค่าลดลงต่อเนื่องร้อยละ 15.9 และ 9.2 ตามลำดับ ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมการส่งออกเพิ่ม
ขึ้นร้อยละ 0.2 เนื่องจากสินค้าหลายรายการส่งออกเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เสื้อผ้าสำ
เร็จรูป เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เครื่องใช้บนโต๊อาหาร
- การส่งออกของไทยในระยะ 7 เดือนแรกของปี 2541 คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า
31,619 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากระยะเดียวกันของปี 2540 ร้อยละ 4.1 เท่ากับระยะ 6 เดือนแรก
- ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกเดือนเฉลี่ยร้อยละ 13.0 แต่ราคาส่งออกเฉลี่ยของ
ไทยลดลงร้อยละ 15.2 โดยเฉพาะสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมราคา
มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากเกาหลีใต้และจีน มีการลดราคาขายอย่างมาก แต่ปริมาณการส่งออกโดยรวมกระเตื้อง
ขึ้นเป็น ลำดับ เช่น เสื้อผ้าสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก ดอกไม้ ใบไม้และต้นไม้ประดิษฐ์
2) การส่งออกในรูปเงินบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.5
- การส่งออกในเดือนกรกฎาคมคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2540
ร้อยละ 33.7
- การส่งออกของไทยในระยะ 7 เดือนแรกของปี 2541 คิดเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้นจากระยะ
เดียวกัน ของปี 2540 ร้อยละ 57.5
1.2 ภาวะการนำเข้า
1) การนำเข้ารูปเงินเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 37.2
- การนำเข้าในเดือนกรกฎาคมคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 3,689 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ใกล้เคียงกับเดือนมิถุนายน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปี 2540 ร้อยละ 31.6 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สิบสาม
- การนำเข้าของไทยในระยะ 7 เดือนแรกของปี 2541 คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ ลดลง
จากระยะเดียวกันของปี 2540 ร้อยละ 37.2 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว ปัญหาการขาด
สภาพคล่องภาคผลิตลดลงหลายสาขา
- หมวดที่มีการนำเข้าลดลงมาก ได้แก่ ยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง ลดลงร้อยละ 87.1
รองลงมาได้แก่ หมวดเชื้อเพลิงลดลงร้อยละ 43.2 หมวดวัตถุดิบลดลงร้อยละ 34.7 หมวดสินค้าทุนลดลงร้อยละ
32.7
2) การนำเข้ารูปเงินบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6
- การนำเข้าในเดือนกรกฎาคมคิดเป็นเงินบาทลดลงจากเดือนเดียวกันของปี 2540 ร้อยละ
6.0
- การนำเข้าของไทยในระยะ 7 เดือนแรกของปี 2541 คิดเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้นจากระยะ
เดียวกันของปี 2540 ร้อยละ 3.6
1.3 ดุลการค้าเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่สิบเอ็ด
- เดือนกรกฎาคม ดุลการค้าเกินดุลคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 38,888 ล้านบาท คิดเป็นเงินเหรียญ
สหรัฐฯ มีมูลค่า 999 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่สิบเอ็ด
- ดุลการค้าในระยะ 7 เดือนแรกของปี 2541 เกินดุลเป็นเงินบาทมีมูลค่า 268,461 ล้านบาท
คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 6,494 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- ประเทศคู่ค้าสำคัญที่ไทยมีดุลการค้าเกินดุล คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และอาเซียน (ยก
เว้นมาเลเซีย) รวมทั้งประเทศอื่นๆ ได้แก่ ฮ่องกง แอฟริกา และยุโรปตะวันออก
- ประเทศที่ไทยขาดดุลการค้า ได้แก่ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย ไต้หวัน จีน
และ เกาหลีใต้
2. ภาวะการส่งออกไปยังตลาดสำคัญ
2.1 ตลาดที่ส่งออกลดลง
ประเทศ ล้านเหรียญสหรัฐฯ % ลด
ญี่ปุ่น 4,340 - 16.8
อาเซียน (8) 5,705 - 22.4
ฮ่องกง 1,669 - 13.8
เกาหลีใต้ 381 - 42.7
ตะวันออกกลาง 1,097 - 7.0
ยุโรปตะวันออก 203 - 27.3
ตลาดส่งออกที่ลดลงเป็นประเทศในแถบเอเชีย ซึ่งประสบภาวะวิกฤตทางการเงินและเศรษฐกิจ
คือ ญี่ปุ่น อาเซียน ฮ่องกงและเกาหลีใต้ รวมทั้งตลาดตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบ
จากวิกฤติการณ์การเงินจากรัสเซีย
2.2 ตลาดที่ส่งออกเพิ่มขึ้น
ประเทศ ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม
สหรัฐฯ 6,881 12.7
สหภาพยุโรป (15) 5,637 11.5
จีน 995 1.4
ไต้หวัน 967 7.3
แอฟริกา 652 27.4
ออสเตรเลีย 636 8.0
ตลาดสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติทางการเงินน้อย
ยังขยายตัว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีข้อสังเกตว่าแม้การส่งออกไปยังตลาดเหล่านี้จะยังขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่
อัตราขยายตัวมีแนวโน้ม ที่ชะลอตัวลงเป็นลำดับ ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศเหล่านี้เริ่มได้รับผลกระทบจาก
วิกฤติการณ์เศรษฐกิจในเอเซีย เศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
3. ภาวะการส่งออกสินค้าสำคัญ
3.1 การส่งออกรายหมวด
รายหมวด ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม/ลด
เกษตรกรรม 4,235 - 9.8
อุตสาหกรรมการเกษตร 2,800 - 12.8
อุตสาหกรรม 21,022 - 3.1
อื่นๆ 3,447 7.3
1) กลุ่มสินค้าเกษตรกรส่วนใหญ่มีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น แต่ราคาส่งออกโดยเฉลี่ยลดลงค่อน
ข้างมาก ที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักและผลไม้ เป็นต้น
2) กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรหลายชนิดราคามีแนวโน้มดี ปริมาณการส่งออกเริ่ม
ชะลอตัว เช่น อาหารทะเลแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
3) กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมหลายชนิดมีแนวโน้มดีขึ้น แม้ว่าราคาโดยเฉลี่ยจะลดลง ที่สำคัญ
ได้แก่ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เป็นต้น
4) สินค้าอื่นๆ หลายชนิด การส่งออกยังขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูง ที่สำคัญได้แก่
- ทองคำ (ส่งออกมูลค่า 369 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 292.8 %)
- กระดาษและผลิตภัณฑ์ (ส่งออกมูลค่า 276 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 47.2 %)
- แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า (ส่งออกมูลค่า 91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เพิ่มขึ้น 4.4%)
3.2 สินค้าส่งออกสำคัญที่มีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นและลดลง
สินค้า ปริมาณ% เพิ่ม/ลด ราคาเฉลี่ย% เพิ่ม/ลด มูลค่า% เพิ่ม/ลด
ข้าว 36.8 - 20.7 8.4
ยางพารา 10.8 - 37.8 - 31.1
ไก่แช่แข็งและแปรรูป 48.2 - 21.1 17.0
ผลิตภัณฑ์พลาสติก 23.2 - 29.7 - 13.4
อาหารทะเลกระป๋อง 12.9 9.6 23.8
เสื้อผ้าสำเร็จรูป 15.7 - 12.6 1.1
กุ้งสดแช่แข็ง - 4.7 - 3.3 - 7.8
ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง - 10.8 - 10.2 - 19.9
กาแฟดิบ - 22.4 28.5 - 0.3
3.3 การส่งออกรายสินค้า
สินค้าส่งออกสำคัญ 20 รายการแรก ในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมกันคิดเป็นร้อยละ
56.1 ของมูลค่าส่งออกรวม มีสินค้า 13 รายการที่ส่งออกลดลงและมีสินค้า 7 รายการที่ส่งออกเพิ่มขึ้น (มีสินค้า
ที่ส่งออกลดลงกลับมาส่งออกเพิ่มขึ้น 1 รายการ คือ เสื้อผ้าสำเร็จรูป)
1) สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม ตลาดที่ส่งออกเพิ่มขึ้น
เครื่องคอมพิวเตอร์ 4,293 12.2 สหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ จีน
เสื้อผ้าสำเร็จรูป 1,766 1.1 สหรัฐฯ เบลเยี่ยม แคนาดา อิตาลี
ข้าว 1,232 8.4 อินโดนิเซีย แอฟริกาใต้ โตโก เซเนกัล
อาหารทะเลกระป๋อง 896 23.8 สหรัฐฯ ญี่ปุ่น แคนาดา
เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ 827 7.3 สหรัฐฯ เยอรมนี สหรัฐอาหรับฯ
รถยนต์และส่วนประกอบ 613 14.2 ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย โปรตุเกส สเปน
ผลิตภัณฑ์ยาง 507 12.4 สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เยอรมนี ไต้หวัน
2) สินค้าที่ส่งออกลดลง
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐฯ % ลด ตลาดที่ส่งออกลดลง
แผงวงจรไฟฟ้า 1,295 - 12.0 สหรัฐฯ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง
ยางพารา 818 - 31.1 ญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ มาเลเซีย
กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง 774 - 7.8 ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง ฝรั่งเศส
อัญมณีและเครื่องประดับ 781 - 24.0 สหรัฐฯ ญี่ปุ่น อิสราเอล เบลเยี่ยม
น้ำตาลทราย 509 - 45.0 อินโดนิเซีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ จีน
รองเท้าและชิ้นส่วน 549 - 19.7 สหรัฐฯ เบลเยี่ยม สหรัฐอาหรับ
เครื่องปรับอากาศ 530 - 20.5 ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐฯ
ผ้าผืน 506 - 1.9 สหรัฐอาหรับ ฮ่องกง สหราชอาณาจักร
ผลิตภัณฑ์พลาสติก 415 -13.4 ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย
ไดโอด ทรานซิสเตอร์ 410 - 2.9 สิงคโปร์ สหรัฐฯ เกาหลีใต้ มาเลเซีย
ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 330 - 20.0 เนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนิเซีย
เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน 341 - 21.1 ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย
เครื่องวิดิโอ/ส่วนประกอบ 333 - 17.0 สหรัฐฯ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เยอรมนี
สินค้าที่ส่งออกลดลงยังคงประกอบด้วยสินค้ากลุ่มต่างๆ ดังนี้
- สินค้าที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้ากึ่งสำเร็จรูปในสัดส่วนสูง ประกอบกับผู้ส่งออก
ขาดสภาพคล่องในการนำเข้า
- สินค้าอุตสาหรรมการเกษตรที่ผลผลิตลดลง เช่น น้ำตาลทราย สับปะรดกระป๋อง กาแฟดิบ
ผลไม้สดแช่เย็น ทำให้ปริมาณการส่งออกลดลง
- สินค้าที่ราคาเฉลี่ยส่งออกมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากผู้ซื้อขอต่อรองราคาและบางชนิดตลาด
ต้องการลดลง โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร เช่น มันอัดเม็ดและมันเส้น ยางพารา
กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ผักและ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป
- สินค้าที่ประสบปัญหาการแข่งขันที่รุนแรง ส่วนใหญ่ราคาสินค้าจากไทยสูงกว่าคู่แข่ง การส่ง
ออกลดลงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์พลาสติก เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ไม้
เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะที่เป็นสินค้าสำเร็จรูป เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่อง
วิดิโอ เครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศมอเตอร์ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นต้น
- สินค้าที่ประสบปัญหาถูกกีดกันทางการค้า โดยการเก็บภาษี AD/CVD สินค้าสับปะรดกระป๋อง
ในสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ์พลาสติกในสหภาพยุโรป ถูกตัด GSP สำหรับสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ
รองเท้าและชิ้นส่วน อาหารทะเล ผักและผลไม้ ในสหภาพยุโรป รองเท้าและชิ้นส่วน ในสหรัฐฯ
4. ภาวะการนำเข้าสินค้าสำคัญ
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม/ลด
นำเข้ารวม 25,126 - 37.2
เชื้อเพลิง 1,973 - 43.2
ทุน 12,648 - 32.7
วัตถุดิบ 7,576 - 34.7
อุปโภคบริโภค 2,178 - 35.2
ยานพาหนะ 260 - 87.1
อื่นๆ 490 - 38.1
4.1 การนำเข้าในเดือนกรกฎาคม ลดลงร้อยละ 31.6 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สิบสาม
ทำให้การนำเข้าในระยะ 7 เดือน ลดลงร้อยละ 37.2 เป็นการลดลงต่อเนื่องในทุกหมวดสินค้า ตามอุป
สงค์และการลงทุนภายในประเทศ ซึ่งยังคงชะลอตัวลง ประกอบกับปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง
- สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุนและวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปที่นำเข้ามาใช้ในการผลิตเพื่อ
ส่งออก เช่น เครื่องจักรสิ่งทอ ผ้าผืน ด้ายและเส้นใย เคมีภัณฑ์ นำมาใช้ในการผลิตสิ่งทอ ไดโอด
ทรานซิสเตอร์ และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็กและเหล็กกล้า เป็นส่วนประกอบในการผลิต
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- กลุ่มสินค้าทุนที่ลดลงมากเช่นกันคือ เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง หลอดและ
ท่อผลิตภัณฑ์โลหะ อันเนื่องมาจากภาวะการก่อสร้างภายในประเทศที่ชะลอตัวลดลง
4.2 สินค้าประเภททุน และวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปที่นำเข้าลดลง
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐฯ % ลด
น้ำมันดิบ 1,973 - 43.2
ผลิตภัณฑ์โลหะ 1,128 - 12.1
เครื่องจักรสิ่งทอ 117 - 58.5
ไดโอด ทรานซิสเตอร์ 253 - 12.2
แผงวงจรไฟฟ้า 2,103 - 14.2
เครื่องคอมพิวเตอร์/ส่วนประกอบ 1,174 - 37.2
เพชร พลอย อัญมณี 507 - 40.4
เหล็กและเหล็กกล้า 966 - 56.4
เคมีภัณฑ์ 2,196 - 24.5
ผ้าผืน ด้าย และเส้นใย 994 - 11.2
4.3 สินค้าอุปโภคบริโภคที่นำเข้าลดลง
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐฯ % ลด
ผลิตภัณฑ์นม 161 - 27.8
ผักและผลไม้ 68 - 49.9
เครื่องดื่ม น้ำแร่ น้ำอัดลม สุรา 23 - 76.3
สบู่ ผงซักฟอก และเครื่องสำอาง 144 - 27.1
เสื้อผ้า รองเท้า และผลิตภัณฑ์สิ่งทอ 173 - 32.1
เครื่องใช้ไฟฟ้า 501 - 43.6
4.4 สินค้าที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐ % เพิ่ม
มอเตอร์ไฟฟ้า 612 46.6
สัตว์น้ำแช่แข็ง (ปลาทูนา กุ้ง) 478 15.5
หลอดภาพโทรทัศน์ 488 1.0
เครื่องพักกระแสไฟฟ้า 222 1.4
ส่วนประกอบนาฬิกา 82 12.0
5. การส่งออกของประเทศต่างๆ เปรียบเทียบกับไทย
ประเทศ ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม/ลด
ไทย (มค.-กค.) 31,619 - 4.1
สหรัฐฯ (มค.-มิย.) 342,404 0.8
ญี่ปุ่น (มค.-มิย.) 191,625 - 6.7
จีน (มค.-มิย.) 86,975 7.6
ฮ่องกง (มค.-มิย.) 84,749 - 2.1
เกาหลีใต้ (มค.-มิย.) 67,626 3.7
สิงคโปร์ (มค.-มิย.) 55,210 - 10.5
ไต้หวัน (มค.-มิย.) 54,495 - 7.2
ฟิลิปปินส์ (มค.-มิย.) 13,905 18.8
อินโดนีเซีย (มค.-พค.) 20,088 - 5.2
มาเลเซีย (มค.-เมย.) 23,563 - 9.5
- ประเทศในเอเซียส่วนใหญ่การส่งออกลดลงอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มลดลงในอัตราที่สูง
- ประเทศที่ยังส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ แต่อัตราการขยายตัวก็มีแนว
โน้มชะลอตัวเป็นลำดับ
- สำหรับไทยอัตราที่ลดลงเท่ากับในระยะ 6 เดือนที่ผ่านมา
6. การนำเข้าของประเทศต่าง ๆ เปรียบเทียบกับไทย
ประเทศ ล้านเหรียญสหรัฐ % เพิ่ม/ลด
ไทย (มค.-กค.) 25,126 - 37.2
สหรัฐฯ (มค.-มิย.) 444,693 6.7
ญี่ปุ่น (มค.-มิย.) 141,824 - 17.7
ฮ่องกง (มค.-มิย.) 93,426 - 5.7
จีน (มค.-มิย.) 64,424 2.2
ไต้หวัน (มค.-มิย.) 53,251 - 3.5
เกาหลีใต้ (มค.-มิย.) 51,836 - 20.6
ไต้หวัน (มค.-มิย.) 47,571 - 36.0
ฟิลิปปินส์ (มค.-มิย.) 15,379 - 11.2
อินโดนีเซีย (มค.-พค.) 11,152 - 37.4
มาเลเซีย (มค.-เมย.) 20,402 - 21.7
1) ประเทศในเอเซียส่วนใหญ่การนำเข้าลดลง ยกเว้น จีน ซึ่งนำเข้าเพิ่มขึ้น และไทยมี
อัตราการลดลง ของการนำเข้าสูงที่สุด รองลงมาได้แก่ เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลดลงของการนำเข้าสินค้าทุน สินค้าวัตถุดิบ และสินค้าเชื้อเพลิง
2) สินค้าที่จีนนำเข้าเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุนและวัตถุดิบ ที่สำคัญได้แก่ เม็ดพลาสติก
เหล็ก แผงวงจร ไฟฟ้า ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ปุ๋ย กระดาษและผลิตภัณฑ์ สินค้าที่นำเข้าลดลงได้แก่
น้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป
3) มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการนำเข้าของเกาหลีใต้ ไต้หวัน และฟิลิปินส์ กล่าวคือ มูลค่า
การนำเข้ารวมจะลดลง แต่สินค้าสำคัญหลายรายการที่นำเข้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าทุน และสินค้าวัตถุดิบ
ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการผลิตในสาขาดังกล่าวยังอยู่ในเกณฑ์
- เกาหลีใต้ : แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ ไดโอด ทรานซิสเตอร์ อลูมิเนียม
ที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป และหลอดภาพ
- ไต้หวัน : ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์โทรคมนาคม
และเครื่องจักร
- ฟิลิปปินส์ : เซมิคอนดักเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เครื่องจักรไฟฟ้า
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 กันยายน 2541--
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยใน
ระยะ 7 เดือนแรก (ม.ค. - ก.ค.) ของปี 2541 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. ภาวะการค้าในระยะ 7 เดือนแรก (มค.-กค.) ของปี 2541
รูปเงินบาท รูปเงินเหรียญสหรัฐฯ
ล้านบาท % เพิ่ม/ลด ล้านเหรีญสหรัฐฯ % เพิ่ม/ลด
การส่งออก 1,367,397 57.5 31,619 - 4.1
การนำเข้า 1,098,936 3.6 25,126 - 37.2
ดุลการค้า 268,461 - 6,494 -
ทั้งนี้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.1 ภาวะการส่งออก
1) การส่งออกรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 4.1
- การส่งออกในเดือนกรกฎาคมคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 4,688 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ลดลงจากเดือนเดียวกันของปี 2540 ร้อยละ 4.0 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้า ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของการส่ง
ออกสินค้าเกษตรกรรมและสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรหลายชนิดที่ส่งออกปริมาณลดลง เช่น ยางพารา กุ้ง อาหาร
ทะเลแปรรูป ทำให้มูลค่าลดลงต่อเนื่องร้อยละ 15.9 และ 9.2 ตามลำดับ ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมการส่งออกเพิ่ม
ขึ้นร้อยละ 0.2 เนื่องจากสินค้าหลายรายการส่งออกเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เสื้อผ้าสำ
เร็จรูป เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เครื่องใช้บนโต๊อาหาร
- การส่งออกของไทยในระยะ 7 เดือนแรกของปี 2541 คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า
31,619 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากระยะเดียวกันของปี 2540 ร้อยละ 4.1 เท่ากับระยะ 6 เดือนแรก
- ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกเดือนเฉลี่ยร้อยละ 13.0 แต่ราคาส่งออกเฉลี่ยของ
ไทยลดลงร้อยละ 15.2 โดยเฉพาะสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมราคา
มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากเกาหลีใต้และจีน มีการลดราคาขายอย่างมาก แต่ปริมาณการส่งออกโดยรวมกระเตื้อง
ขึ้นเป็น ลำดับ เช่น เสื้อผ้าสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก ดอกไม้ ใบไม้และต้นไม้ประดิษฐ์
2) การส่งออกในรูปเงินบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.5
- การส่งออกในเดือนกรกฎาคมคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2540
ร้อยละ 33.7
- การส่งออกของไทยในระยะ 7 เดือนแรกของปี 2541 คิดเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้นจากระยะ
เดียวกัน ของปี 2540 ร้อยละ 57.5
1.2 ภาวะการนำเข้า
1) การนำเข้ารูปเงินเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 37.2
- การนำเข้าในเดือนกรกฎาคมคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 3,689 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ใกล้เคียงกับเดือนมิถุนายน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปี 2540 ร้อยละ 31.6 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สิบสาม
- การนำเข้าของไทยในระยะ 7 เดือนแรกของปี 2541 คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ ลดลง
จากระยะเดียวกันของปี 2540 ร้อยละ 37.2 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว ปัญหาการขาด
สภาพคล่องภาคผลิตลดลงหลายสาขา
- หมวดที่มีการนำเข้าลดลงมาก ได้แก่ ยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง ลดลงร้อยละ 87.1
รองลงมาได้แก่ หมวดเชื้อเพลิงลดลงร้อยละ 43.2 หมวดวัตถุดิบลดลงร้อยละ 34.7 หมวดสินค้าทุนลดลงร้อยละ
32.7
2) การนำเข้ารูปเงินบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6
- การนำเข้าในเดือนกรกฎาคมคิดเป็นเงินบาทลดลงจากเดือนเดียวกันของปี 2540 ร้อยละ
6.0
- การนำเข้าของไทยในระยะ 7 เดือนแรกของปี 2541 คิดเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้นจากระยะ
เดียวกันของปี 2540 ร้อยละ 3.6
1.3 ดุลการค้าเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่สิบเอ็ด
- เดือนกรกฎาคม ดุลการค้าเกินดุลคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 38,888 ล้านบาท คิดเป็นเงินเหรียญ
สหรัฐฯ มีมูลค่า 999 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่สิบเอ็ด
- ดุลการค้าในระยะ 7 เดือนแรกของปี 2541 เกินดุลเป็นเงินบาทมีมูลค่า 268,461 ล้านบาท
คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่า 6,494 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- ประเทศคู่ค้าสำคัญที่ไทยมีดุลการค้าเกินดุล คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และอาเซียน (ยก
เว้นมาเลเซีย) รวมทั้งประเทศอื่นๆ ได้แก่ ฮ่องกง แอฟริกา และยุโรปตะวันออก
- ประเทศที่ไทยขาดดุลการค้า ได้แก่ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย ไต้หวัน จีน
และ เกาหลีใต้
2. ภาวะการส่งออกไปยังตลาดสำคัญ
2.1 ตลาดที่ส่งออกลดลง
ประเทศ ล้านเหรียญสหรัฐฯ % ลด
ญี่ปุ่น 4,340 - 16.8
อาเซียน (8) 5,705 - 22.4
ฮ่องกง 1,669 - 13.8
เกาหลีใต้ 381 - 42.7
ตะวันออกกลาง 1,097 - 7.0
ยุโรปตะวันออก 203 - 27.3
ตลาดส่งออกที่ลดลงเป็นประเทศในแถบเอเชีย ซึ่งประสบภาวะวิกฤตทางการเงินและเศรษฐกิจ
คือ ญี่ปุ่น อาเซียน ฮ่องกงและเกาหลีใต้ รวมทั้งตลาดตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบ
จากวิกฤติการณ์การเงินจากรัสเซีย
2.2 ตลาดที่ส่งออกเพิ่มขึ้น
ประเทศ ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม
สหรัฐฯ 6,881 12.7
สหภาพยุโรป (15) 5,637 11.5
จีน 995 1.4
ไต้หวัน 967 7.3
แอฟริกา 652 27.4
ออสเตรเลีย 636 8.0
ตลาดสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติทางการเงินน้อย
ยังขยายตัว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีข้อสังเกตว่าแม้การส่งออกไปยังตลาดเหล่านี้จะยังขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่
อัตราขยายตัวมีแนวโน้ม ที่ชะลอตัวลงเป็นลำดับ ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศเหล่านี้เริ่มได้รับผลกระทบจาก
วิกฤติการณ์เศรษฐกิจในเอเซีย เศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
3. ภาวะการส่งออกสินค้าสำคัญ
3.1 การส่งออกรายหมวด
รายหมวด ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม/ลด
เกษตรกรรม 4,235 - 9.8
อุตสาหกรรมการเกษตร 2,800 - 12.8
อุตสาหกรรม 21,022 - 3.1
อื่นๆ 3,447 7.3
1) กลุ่มสินค้าเกษตรกรส่วนใหญ่มีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น แต่ราคาส่งออกโดยเฉลี่ยลดลงค่อน
ข้างมาก ที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักและผลไม้ เป็นต้น
2) กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรหลายชนิดราคามีแนวโน้มดี ปริมาณการส่งออกเริ่ม
ชะลอตัว เช่น อาหารทะเลแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
3) กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมหลายชนิดมีแนวโน้มดีขึ้น แม้ว่าราคาโดยเฉลี่ยจะลดลง ที่สำคัญ
ได้แก่ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เป็นต้น
4) สินค้าอื่นๆ หลายชนิด การส่งออกยังขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูง ที่สำคัญได้แก่
- ทองคำ (ส่งออกมูลค่า 369 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 292.8 %)
- กระดาษและผลิตภัณฑ์ (ส่งออกมูลค่า 276 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 47.2 %)
- แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า (ส่งออกมูลค่า 91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เพิ่มขึ้น 4.4%)
3.2 สินค้าส่งออกสำคัญที่มีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นและลดลง
สินค้า ปริมาณ% เพิ่ม/ลด ราคาเฉลี่ย% เพิ่ม/ลด มูลค่า% เพิ่ม/ลด
ข้าว 36.8 - 20.7 8.4
ยางพารา 10.8 - 37.8 - 31.1
ไก่แช่แข็งและแปรรูป 48.2 - 21.1 17.0
ผลิตภัณฑ์พลาสติก 23.2 - 29.7 - 13.4
อาหารทะเลกระป๋อง 12.9 9.6 23.8
เสื้อผ้าสำเร็จรูป 15.7 - 12.6 1.1
กุ้งสดแช่แข็ง - 4.7 - 3.3 - 7.8
ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง - 10.8 - 10.2 - 19.9
กาแฟดิบ - 22.4 28.5 - 0.3
3.3 การส่งออกรายสินค้า
สินค้าส่งออกสำคัญ 20 รายการแรก ในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมกันคิดเป็นร้อยละ
56.1 ของมูลค่าส่งออกรวม มีสินค้า 13 รายการที่ส่งออกลดลงและมีสินค้า 7 รายการที่ส่งออกเพิ่มขึ้น (มีสินค้า
ที่ส่งออกลดลงกลับมาส่งออกเพิ่มขึ้น 1 รายการ คือ เสื้อผ้าสำเร็จรูป)
1) สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม ตลาดที่ส่งออกเพิ่มขึ้น
เครื่องคอมพิวเตอร์ 4,293 12.2 สหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ จีน
เสื้อผ้าสำเร็จรูป 1,766 1.1 สหรัฐฯ เบลเยี่ยม แคนาดา อิตาลี
ข้าว 1,232 8.4 อินโดนิเซีย แอฟริกาใต้ โตโก เซเนกัล
อาหารทะเลกระป๋อง 896 23.8 สหรัฐฯ ญี่ปุ่น แคนาดา
เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ 827 7.3 สหรัฐฯ เยอรมนี สหรัฐอาหรับฯ
รถยนต์และส่วนประกอบ 613 14.2 ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย โปรตุเกส สเปน
ผลิตภัณฑ์ยาง 507 12.4 สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เยอรมนี ไต้หวัน
2) สินค้าที่ส่งออกลดลง
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐฯ % ลด ตลาดที่ส่งออกลดลง
แผงวงจรไฟฟ้า 1,295 - 12.0 สหรัฐฯ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง
ยางพารา 818 - 31.1 ญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ มาเลเซีย
กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง 774 - 7.8 ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง ฝรั่งเศส
อัญมณีและเครื่องประดับ 781 - 24.0 สหรัฐฯ ญี่ปุ่น อิสราเอล เบลเยี่ยม
น้ำตาลทราย 509 - 45.0 อินโดนิเซีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ จีน
รองเท้าและชิ้นส่วน 549 - 19.7 สหรัฐฯ เบลเยี่ยม สหรัฐอาหรับ
เครื่องปรับอากาศ 530 - 20.5 ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐฯ
ผ้าผืน 506 - 1.9 สหรัฐอาหรับ ฮ่องกง สหราชอาณาจักร
ผลิตภัณฑ์พลาสติก 415 -13.4 ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย
ไดโอด ทรานซิสเตอร์ 410 - 2.9 สิงคโปร์ สหรัฐฯ เกาหลีใต้ มาเลเซีย
ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 330 - 20.0 เนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนิเซีย
เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน 341 - 21.1 ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย
เครื่องวิดิโอ/ส่วนประกอบ 333 - 17.0 สหรัฐฯ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เยอรมนี
สินค้าที่ส่งออกลดลงยังคงประกอบด้วยสินค้ากลุ่มต่างๆ ดังนี้
- สินค้าที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้ากึ่งสำเร็จรูปในสัดส่วนสูง ประกอบกับผู้ส่งออก
ขาดสภาพคล่องในการนำเข้า
- สินค้าอุตสาหรรมการเกษตรที่ผลผลิตลดลง เช่น น้ำตาลทราย สับปะรดกระป๋อง กาแฟดิบ
ผลไม้สดแช่เย็น ทำให้ปริมาณการส่งออกลดลง
- สินค้าที่ราคาเฉลี่ยส่งออกมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากผู้ซื้อขอต่อรองราคาและบางชนิดตลาด
ต้องการลดลง โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร เช่น มันอัดเม็ดและมันเส้น ยางพารา
กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ผักและ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป
- สินค้าที่ประสบปัญหาการแข่งขันที่รุนแรง ส่วนใหญ่ราคาสินค้าจากไทยสูงกว่าคู่แข่ง การส่ง
ออกลดลงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์พลาสติก เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ไม้
เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะที่เป็นสินค้าสำเร็จรูป เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่อง
วิดิโอ เครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศมอเตอร์ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นต้น
- สินค้าที่ประสบปัญหาถูกกีดกันทางการค้า โดยการเก็บภาษี AD/CVD สินค้าสับปะรดกระป๋อง
ในสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ์พลาสติกในสหภาพยุโรป ถูกตัด GSP สำหรับสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ
รองเท้าและชิ้นส่วน อาหารทะเล ผักและผลไม้ ในสหภาพยุโรป รองเท้าและชิ้นส่วน ในสหรัฐฯ
4. ภาวะการนำเข้าสินค้าสำคัญ
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม/ลด
นำเข้ารวม 25,126 - 37.2
เชื้อเพลิง 1,973 - 43.2
ทุน 12,648 - 32.7
วัตถุดิบ 7,576 - 34.7
อุปโภคบริโภค 2,178 - 35.2
ยานพาหนะ 260 - 87.1
อื่นๆ 490 - 38.1
4.1 การนำเข้าในเดือนกรกฎาคม ลดลงร้อยละ 31.6 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สิบสาม
ทำให้การนำเข้าในระยะ 7 เดือน ลดลงร้อยละ 37.2 เป็นการลดลงต่อเนื่องในทุกหมวดสินค้า ตามอุป
สงค์และการลงทุนภายในประเทศ ซึ่งยังคงชะลอตัวลง ประกอบกับปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง
- สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุนและวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปที่นำเข้ามาใช้ในการผลิตเพื่อ
ส่งออก เช่น เครื่องจักรสิ่งทอ ผ้าผืน ด้ายและเส้นใย เคมีภัณฑ์ นำมาใช้ในการผลิตสิ่งทอ ไดโอด
ทรานซิสเตอร์ และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็กและเหล็กกล้า เป็นส่วนประกอบในการผลิต
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- กลุ่มสินค้าทุนที่ลดลงมากเช่นกันคือ เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง หลอดและ
ท่อผลิตภัณฑ์โลหะ อันเนื่องมาจากภาวะการก่อสร้างภายในประเทศที่ชะลอตัวลดลง
4.2 สินค้าประเภททุน และวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปที่นำเข้าลดลง
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐฯ % ลด
น้ำมันดิบ 1,973 - 43.2
ผลิตภัณฑ์โลหะ 1,128 - 12.1
เครื่องจักรสิ่งทอ 117 - 58.5
ไดโอด ทรานซิสเตอร์ 253 - 12.2
แผงวงจรไฟฟ้า 2,103 - 14.2
เครื่องคอมพิวเตอร์/ส่วนประกอบ 1,174 - 37.2
เพชร พลอย อัญมณี 507 - 40.4
เหล็กและเหล็กกล้า 966 - 56.4
เคมีภัณฑ์ 2,196 - 24.5
ผ้าผืน ด้าย และเส้นใย 994 - 11.2
4.3 สินค้าอุปโภคบริโภคที่นำเข้าลดลง
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐฯ % ลด
ผลิตภัณฑ์นม 161 - 27.8
ผักและผลไม้ 68 - 49.9
เครื่องดื่ม น้ำแร่ น้ำอัดลม สุรา 23 - 76.3
สบู่ ผงซักฟอก และเครื่องสำอาง 144 - 27.1
เสื้อผ้า รองเท้า และผลิตภัณฑ์สิ่งทอ 173 - 32.1
เครื่องใช้ไฟฟ้า 501 - 43.6
4.4 สินค้าที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น
สินค้า ล้านเหรียญสหรัฐ % เพิ่ม
มอเตอร์ไฟฟ้า 612 46.6
สัตว์น้ำแช่แข็ง (ปลาทูนา กุ้ง) 478 15.5
หลอดภาพโทรทัศน์ 488 1.0
เครื่องพักกระแสไฟฟ้า 222 1.4
ส่วนประกอบนาฬิกา 82 12.0
5. การส่งออกของประเทศต่างๆ เปรียบเทียบกับไทย
ประเทศ ล้านเหรียญสหรัฐฯ % เพิ่ม/ลด
ไทย (มค.-กค.) 31,619 - 4.1
สหรัฐฯ (มค.-มิย.) 342,404 0.8
ญี่ปุ่น (มค.-มิย.) 191,625 - 6.7
จีน (มค.-มิย.) 86,975 7.6
ฮ่องกง (มค.-มิย.) 84,749 - 2.1
เกาหลีใต้ (มค.-มิย.) 67,626 3.7
สิงคโปร์ (มค.-มิย.) 55,210 - 10.5
ไต้หวัน (มค.-มิย.) 54,495 - 7.2
ฟิลิปปินส์ (มค.-มิย.) 13,905 18.8
อินโดนีเซีย (มค.-พค.) 20,088 - 5.2
มาเลเซีย (มค.-เมย.) 23,563 - 9.5
- ประเทศในเอเซียส่วนใหญ่การส่งออกลดลงอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มลดลงในอัตราที่สูง
- ประเทศที่ยังส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ แต่อัตราการขยายตัวก็มีแนว
โน้มชะลอตัวเป็นลำดับ
- สำหรับไทยอัตราที่ลดลงเท่ากับในระยะ 6 เดือนที่ผ่านมา
6. การนำเข้าของประเทศต่าง ๆ เปรียบเทียบกับไทย
ประเทศ ล้านเหรียญสหรัฐ % เพิ่ม/ลด
ไทย (มค.-กค.) 25,126 - 37.2
สหรัฐฯ (มค.-มิย.) 444,693 6.7
ญี่ปุ่น (มค.-มิย.) 141,824 - 17.7
ฮ่องกง (มค.-มิย.) 93,426 - 5.7
จีน (มค.-มิย.) 64,424 2.2
ไต้หวัน (มค.-มิย.) 53,251 - 3.5
เกาหลีใต้ (มค.-มิย.) 51,836 - 20.6
ไต้หวัน (มค.-มิย.) 47,571 - 36.0
ฟิลิปปินส์ (มค.-มิย.) 15,379 - 11.2
อินโดนีเซีย (มค.-พค.) 11,152 - 37.4
มาเลเซีย (มค.-เมย.) 20,402 - 21.7
1) ประเทศในเอเซียส่วนใหญ่การนำเข้าลดลง ยกเว้น จีน ซึ่งนำเข้าเพิ่มขึ้น และไทยมี
อัตราการลดลง ของการนำเข้าสูงที่สุด รองลงมาได้แก่ เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลดลงของการนำเข้าสินค้าทุน สินค้าวัตถุดิบ และสินค้าเชื้อเพลิง
2) สินค้าที่จีนนำเข้าเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุนและวัตถุดิบ ที่สำคัญได้แก่ เม็ดพลาสติก
เหล็ก แผงวงจร ไฟฟ้า ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ปุ๋ย กระดาษและผลิตภัณฑ์ สินค้าที่นำเข้าลดลงได้แก่
น้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป
3) มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการนำเข้าของเกาหลีใต้ ไต้หวัน และฟิลิปินส์ กล่าวคือ มูลค่า
การนำเข้ารวมจะลดลง แต่สินค้าสำคัญหลายรายการที่นำเข้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าทุน และสินค้าวัตถุดิบ
ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการผลิตในสาขาดังกล่าวยังอยู่ในเกณฑ์
- เกาหลีใต้ : แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ ไดโอด ทรานซิสเตอร์ อลูมิเนียม
ที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป และหลอดภาพ
- ไต้หวัน : ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์โทรคมนาคม
และเครื่องจักร
- ฟิลิปปินส์ : เซมิคอนดักเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เครื่องจักรไฟฟ้า
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 กันยายน 2541--