ทำเนียบรัฐบาล--29 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของส่วนราชการต่าง ๆ ดังนี้
1. กระทรวงสาธารณสุข
ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในขณะเกิดอุทกภัยและภายหลัง น้ำลด โดยมีผลการช่วยผู้ประสบภัยจนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2538 ดังนี้
1.1 การจัดหน่วยแทพย์เคลื่อนที่บริการรักษาพยาบาลทั้งทางร่างกายและจิตใจ 1,913 ครั้ง/270,440 ราย
1.2 ให้สุขศึกษาแก่ประชาชน 361,041 ราย
1.3 แจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภค และถุงดำสำหรับใส่ขยะและ สิ่งปฏิกูล78 ครั้ง/21,432 ราย
1.4 ล้างบ่อน้ำและเติมคลอรีน สารส้มเพื่อฆ่าเชื้อโรค รวม 23,326 บ่อ
1.5 สร้างส้วมชั่วคราว ณ จุดอพยพประชาชน 207 หลัง
1.6 สุ่มตรวจตัวอย่างอาหาร น้ำ และอุจจาระ เพื่อเฝ้าระวังโรค 1,915 ตัวอย่าง
1.7 ติดตั้งระบบประปาสนาม แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค 17 แห่ง
1.8 ตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่กำลัง ปฏิบัติงานและเยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัย ทั้งในขณะเกิดภัยและภายหลังน้ำลด โดยคณะผู้บริหาร ระดับสูง รวม 47 ครั้ง(22 จังหวัด) และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข 12 เขต (69 จังหวัด)
2. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ดำเนินโครงการช่วยเหลือผู้ ประสบอุทกภัยปี2538เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยเนื่องจากอุทกภัยแก่ประชาชน ในหลายพื้นที่นั้น
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ดำเนินโครงการนี้ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2538 เป็นต้นมา โดยการให้กู้เงินเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากอุทกภัยโดยตรง โดย ให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 9 ต่อปีตลอดสัญญากู้ ระยะเวลาผ่อน ชำระหนี้ 10 ปี โดยนำที่ดินพร้อมอาคารที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมมาจำนองเป็นหลักประกัน และเพื่อเป็นการเอื้ออำนวยแก่ผู้ประสบความเดือดร้อนเนื่องจากอุทกภัยยิ่งขึ้น ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ผ่อนผันให้สำหรับผู้กู้ที่ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินเช่าเอกชน ที่เช่าของสำนักงานทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์ ที่เช่าธรณีสงฆ์ หรือที่ดินเช่ากรมธนารักษ์ ให้สามารถจำนองเฉพาะอาคารที่ ปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวเป็นประกันเงินกู้ได้ หรือสามารถใช้บัญชีเงินฝากประจำค้ำประกัน นอกเหนือ จากการใช้ที่ดิน และ/หรืออาคารตามระเบียบปกติของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งหลักเกณฑ์ดัง กล่าวธนาคารอาคารสงเคราะห์กำหนดขึ้นสำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วย เหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามผล การทำงานและประสานงานการช่วยเหลือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และ ธนาคารออมสิน เพื่อให้การดำเนินโครงการสอดคล้องและเกิดผลดีที่สุดแก่ผู้ประสบความเดือดร้อนจากภัย ดังกล่าวยิ่งขึ้นต่อไป
ผลการดำเนินโครงการนี้นับแต่เริ่มให้บริการจนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2538 มีผู้สนใจ สอบถามรายละเอียดทั่วประเทศ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,696 ราย โดยร้อยละ 52 เป็นลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และร้อยละ 48 เป็นลูกค้าในส่วนภูมิภาค และมีลูกค้ายื่นขอวงเงินกู้ไว้แล้ว จำนวน 152 ราย วงเงินกู้รวม 16.92 ล้านบาท เป็นลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 61 ราย จำนวนเงิน 7.38 ล้านบาท และเป็นลูกค้าในส่วนภูมิภาค91 ราย จำนวนเงิน 9.54 ล้านบาท
3. กระทรวงกลาโหม
กระทรวงกลาโหมได้จัดกำลังพล รถยนต์บรรทุก รถยนต์เทท้าย เรือท้องแบนเครื่องติดท้าย ออกให้ความช่วยเหลือประชาชน จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ให้การตรวจรักษาประชาชนที่จังหวัดอยุธยา นครปฐมแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคน้ำดื่ม อาหารแห้ง ยารักษาโรค จัดทำสะพานไม้ให้กับประชาชน สร้างคันกั้นน้ำ ซ่อมผิวถนนในพื้นที่ประสบน้ำท่วมที่จังหวัดอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี นครปฐม จัด กำลังพล ยานพาหนะ และเครื่องสูบน้ำ ดำเนินการสูบน้ำบริเวณที่น้ำท่วมขัง จัดชุดเครื่องมือกลพร้อม เจ้าหน้าที่ปรับปรุงผิวถนนในจังหวัดสกลนคร หนองคาย สำหรับในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล ได้ให้ การช่วยเหลือโดยการจัดเรือท้องแบน รถยนต์บรรทุกออกรับ-ส่งประชาชนในบริเวณพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง จัด ทำสะพานไม้ ทางเดินเท้า จัดวางกระสอบทราย ทำคันดินกั้นน้ำและบริเวณน้ำท่วม ทั้งเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลแจกเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารแห้ง น้ำดื่ม แก่ประชาชน จัดเรือลาดตระเวน และ เรือพยาบาล ตรวจการจราจรทางน้ำ และเตรียมพร้อมในการกู้ภัยช่วยชีวิตประชาชนที่อาจประสบอุบัติ เหตุทางน้ำ จัดชุดซ่อมแก้รถยนต์ และชุดแพทย์เคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนทั้งในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ฯลฯ
4. กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ประสบภัยที่มีลักษณะเป็นการ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยทางจังหวัดและอำเภอที่ประสบภัยได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยขึ้น และประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ ได้แก่ ที่ทำการปกครองจังหวัด ประชาสงเคราะห์จังหวัด สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัด สำนักงานโยธาธิการจังหวัด เหล่ากาชาดจังหวัด ทหารและตำรวจ ในพื้นที่ สมาชิก อส.อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ตลอดจนมูลนิธิต่าง ๆ ระดมสรรพกำลังจากทุก หน่วยงาน เพื่อให้การช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบภัยและบรรเทาความเดือดร้อนในชั้นต้นอย่างต่อเนื่อง ในด้านการอพยพราษฎรไปยังพื้นที่ปลอดภัย การแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค การรักษาพยาบาล การ ซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎรที่เสียหาย การจัดทำแนวป้องกันน้ำท่วม การขุดลอกสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อ เร่งการระบาย เป็นต้น ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือมีลักษณะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อ บรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบภัย ตามระเบียบเงินทดรองราชการที่อยู่ในอำนาจของอำ เภอ (1 แสนบาท) และของจังหวัด (12 ล้านบาท) ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงิน ทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2538
ขณะนี้ จังหวัดและอำเภอที่ประสบภัยได้ใช้จ่ายเงินทดรองราชการไปแล้ว 1,105,190,446 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 28 พฤศจิกายน 2538--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของส่วนราชการต่าง ๆ ดังนี้
1. กระทรวงสาธารณสุข
ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในขณะเกิดอุทกภัยและภายหลัง น้ำลด โดยมีผลการช่วยผู้ประสบภัยจนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2538 ดังนี้
1.1 การจัดหน่วยแทพย์เคลื่อนที่บริการรักษาพยาบาลทั้งทางร่างกายและจิตใจ 1,913 ครั้ง/270,440 ราย
1.2 ให้สุขศึกษาแก่ประชาชน 361,041 ราย
1.3 แจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภค และถุงดำสำหรับใส่ขยะและ สิ่งปฏิกูล78 ครั้ง/21,432 ราย
1.4 ล้างบ่อน้ำและเติมคลอรีน สารส้มเพื่อฆ่าเชื้อโรค รวม 23,326 บ่อ
1.5 สร้างส้วมชั่วคราว ณ จุดอพยพประชาชน 207 หลัง
1.6 สุ่มตรวจตัวอย่างอาหาร น้ำ และอุจจาระ เพื่อเฝ้าระวังโรค 1,915 ตัวอย่าง
1.7 ติดตั้งระบบประปาสนาม แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค 17 แห่ง
1.8 ตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่กำลัง ปฏิบัติงานและเยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัย ทั้งในขณะเกิดภัยและภายหลังน้ำลด โดยคณะผู้บริหาร ระดับสูง รวม 47 ครั้ง(22 จังหวัด) และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข 12 เขต (69 จังหวัด)
2. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ดำเนินโครงการช่วยเหลือผู้ ประสบอุทกภัยปี2538เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยเนื่องจากอุทกภัยแก่ประชาชน ในหลายพื้นที่นั้น
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ดำเนินโครงการนี้ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2538 เป็นต้นมา โดยการให้กู้เงินเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากอุทกภัยโดยตรง โดย ให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 9 ต่อปีตลอดสัญญากู้ ระยะเวลาผ่อน ชำระหนี้ 10 ปี โดยนำที่ดินพร้อมอาคารที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมมาจำนองเป็นหลักประกัน และเพื่อเป็นการเอื้ออำนวยแก่ผู้ประสบความเดือดร้อนเนื่องจากอุทกภัยยิ่งขึ้น ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ผ่อนผันให้สำหรับผู้กู้ที่ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินเช่าเอกชน ที่เช่าของสำนักงานทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์ ที่เช่าธรณีสงฆ์ หรือที่ดินเช่ากรมธนารักษ์ ให้สามารถจำนองเฉพาะอาคารที่ ปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวเป็นประกันเงินกู้ได้ หรือสามารถใช้บัญชีเงินฝากประจำค้ำประกัน นอกเหนือ จากการใช้ที่ดิน และ/หรืออาคารตามระเบียบปกติของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งหลักเกณฑ์ดัง กล่าวธนาคารอาคารสงเคราะห์กำหนดขึ้นสำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วย เหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามผล การทำงานและประสานงานการช่วยเหลือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และ ธนาคารออมสิน เพื่อให้การดำเนินโครงการสอดคล้องและเกิดผลดีที่สุดแก่ผู้ประสบความเดือดร้อนจากภัย ดังกล่าวยิ่งขึ้นต่อไป
ผลการดำเนินโครงการนี้นับแต่เริ่มให้บริการจนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2538 มีผู้สนใจ สอบถามรายละเอียดทั่วประเทศ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,696 ราย โดยร้อยละ 52 เป็นลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และร้อยละ 48 เป็นลูกค้าในส่วนภูมิภาค และมีลูกค้ายื่นขอวงเงินกู้ไว้แล้ว จำนวน 152 ราย วงเงินกู้รวม 16.92 ล้านบาท เป็นลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 61 ราย จำนวนเงิน 7.38 ล้านบาท และเป็นลูกค้าในส่วนภูมิภาค91 ราย จำนวนเงิน 9.54 ล้านบาท
3. กระทรวงกลาโหม
กระทรวงกลาโหมได้จัดกำลังพล รถยนต์บรรทุก รถยนต์เทท้าย เรือท้องแบนเครื่องติดท้าย ออกให้ความช่วยเหลือประชาชน จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ให้การตรวจรักษาประชาชนที่จังหวัดอยุธยา นครปฐมแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคน้ำดื่ม อาหารแห้ง ยารักษาโรค จัดทำสะพานไม้ให้กับประชาชน สร้างคันกั้นน้ำ ซ่อมผิวถนนในพื้นที่ประสบน้ำท่วมที่จังหวัดอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี นครปฐม จัด กำลังพล ยานพาหนะ และเครื่องสูบน้ำ ดำเนินการสูบน้ำบริเวณที่น้ำท่วมขัง จัดชุดเครื่องมือกลพร้อม เจ้าหน้าที่ปรับปรุงผิวถนนในจังหวัดสกลนคร หนองคาย สำหรับในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล ได้ให้ การช่วยเหลือโดยการจัดเรือท้องแบน รถยนต์บรรทุกออกรับ-ส่งประชาชนในบริเวณพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง จัด ทำสะพานไม้ ทางเดินเท้า จัดวางกระสอบทราย ทำคันดินกั้นน้ำและบริเวณน้ำท่วม ทั้งเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลแจกเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารแห้ง น้ำดื่ม แก่ประชาชน จัดเรือลาดตระเวน และ เรือพยาบาล ตรวจการจราจรทางน้ำ และเตรียมพร้อมในการกู้ภัยช่วยชีวิตประชาชนที่อาจประสบอุบัติ เหตุทางน้ำ จัดชุดซ่อมแก้รถยนต์ และชุดแพทย์เคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนทั้งในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ฯลฯ
4. กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ประสบภัยที่มีลักษณะเป็นการ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยทางจังหวัดและอำเภอที่ประสบภัยได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยขึ้น และประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ ได้แก่ ที่ทำการปกครองจังหวัด ประชาสงเคราะห์จังหวัด สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัด สำนักงานโยธาธิการจังหวัด เหล่ากาชาดจังหวัด ทหารและตำรวจ ในพื้นที่ สมาชิก อส.อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ตลอดจนมูลนิธิต่าง ๆ ระดมสรรพกำลังจากทุก หน่วยงาน เพื่อให้การช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบภัยและบรรเทาความเดือดร้อนในชั้นต้นอย่างต่อเนื่อง ในด้านการอพยพราษฎรไปยังพื้นที่ปลอดภัย การแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค การรักษาพยาบาล การ ซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎรที่เสียหาย การจัดทำแนวป้องกันน้ำท่วม การขุดลอกสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อ เร่งการระบาย เป็นต้น ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือมีลักษณะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อ บรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบภัย ตามระเบียบเงินทดรองราชการที่อยู่ในอำนาจของอำ เภอ (1 แสนบาท) และของจังหวัด (12 ล้านบาท) ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงิน ทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2538
ขณะนี้ จังหวัดและอำเภอที่ประสบภัยได้ใช้จ่ายเงินทดรองราชการไปแล้ว 1,105,190,446 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 28 พฤศจิกายน 2538--