ทำเนียบรัฐบาล--5 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะกรรมการเตรียมการเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (มาตรา 211) ตามที่คณะกรรมการเตรียมการเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (มาตรา 211) เสนอ มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. คณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการประชุมไปแล้ว รวม 5 ครั้ง โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ ดังนี้
1.1 ให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รับไปดำเนินการยกร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดการรับสมัครและการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดรูปแบบใบสมัคร หลักฐาน วันและเวลาการรับสมัครรับเลือกตั้งและรายละเอียดอื่น ๆ ที่จำเป็น
1.2 ให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการยกร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธาน รองประธาน และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดเงินประจำตำแหน่งให้ได้เท่ากับสมาชิกวุฒิสภา ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สิทธิประโยชน์อื่น ๆและเบี้ยประชุมกรรมาธิการให้เท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา
1.3 ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดดำเนินการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติ พ.ศ. .... ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
1.4 ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รับไปดำเนินการในส่วนที่เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ
2. คณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการยกร่างพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องรวม 2 ฉบับ และคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา ดังนี้
2.1ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดการรับสมัครและการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญพ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1) กำหนดระยะเวลารับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ระหว่างวันที่ 9 -13 ธันวาคม 2539
2) กำหนดวันเวลาลงคะแนนเลือกตั้งกันเองของผู้สมัคร ในวันที่ 15 ธันวาคม 2539
3) กำหนดหลักเกณฑ์การยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
4)กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจสอบหลักฐานและคุณสมบัติของผู้สมัคร ตลอดจนการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ผู้สมัครเลือกตั้งกันเองในกรณีที่มีผู้สมัครเกินกว่าสิบคน
5) กำหนดการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้ง การเปิดและปิดหีบบัตรเลือกตั้ง และการลงคะแนนเลือกตั้ง
6) กำหนดการลงคะแนนเลือกตั้งกันเอง
7) กำหนดการตรวจนับคะแนนและการรายงานผลของการนับคะแนน
8) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับบัตรเสีย
9) กำหนดการเลือกตั้งกันเองในกรณีที่มีผู้สมัครได้รับคะแนนเท่ากัน อันเป็นเหตุให้เกินจำนวนสิบคน
10) กำหนดการประกาศผลการนับคะแนนของผู้สมัครลำดับที่หนึ่งถึงสิบ และการเก็บรักษาบัตรเลือกตั้ง
11) กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครให้ประธานรัฐสภา
2.2 ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญและกรรมาธิการ พ.ศ. .... ซึ่งมีหลักการสำคัญทำนองเดียวกับพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและสิทธิประโยชน์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1) ให้ประธาน รองประธาน และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ได้รับเงินประจำตำแหน่งเป็นรายเดือนดังนี้
- ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 63,000 บาท
- รองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 62,000 บาท
- สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 38,500 บาท
2) ให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่กับจังหวัดอันเป็นสถานที่ตั้งในการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการประชุมฯ ครั้งแรก หรือเพื่อชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา
3) ให้กรรมาธิการได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่กับจังหวัดอันเป็นสถานที่ประชุมคณะกรรมาธิการ
4) ให้กรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญได้รับเบี้ยประชุมครั้งละห้าร้อยบาท
5) ให้ใบเบิกทางโดยสารรถไฟ รถยนต์ประจำทาง และเครื่องบินแก่ประธาน รองประธาน สมาชิกและกรรมาธิการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 5 พฤศจิกายน 2539--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะกรรมการเตรียมการเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (มาตรา 211) ตามที่คณะกรรมการเตรียมการเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (มาตรา 211) เสนอ มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. คณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการประชุมไปแล้ว รวม 5 ครั้ง โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ ดังนี้
1.1 ให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รับไปดำเนินการยกร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดการรับสมัครและการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดรูปแบบใบสมัคร หลักฐาน วันและเวลาการรับสมัครรับเลือกตั้งและรายละเอียดอื่น ๆ ที่จำเป็น
1.2 ให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการยกร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธาน รองประธาน และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดเงินประจำตำแหน่งให้ได้เท่ากับสมาชิกวุฒิสภา ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สิทธิประโยชน์อื่น ๆและเบี้ยประชุมกรรมาธิการให้เท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา
1.3 ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดดำเนินการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติ พ.ศ. .... ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
1.4 ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รับไปดำเนินการในส่วนที่เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ
2. คณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการยกร่างพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องรวม 2 ฉบับ และคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา ดังนี้
2.1ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดการรับสมัครและการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญพ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1) กำหนดระยะเวลารับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ระหว่างวันที่ 9 -13 ธันวาคม 2539
2) กำหนดวันเวลาลงคะแนนเลือกตั้งกันเองของผู้สมัคร ในวันที่ 15 ธันวาคม 2539
3) กำหนดหลักเกณฑ์การยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
4)กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจสอบหลักฐานและคุณสมบัติของผู้สมัคร ตลอดจนการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ผู้สมัครเลือกตั้งกันเองในกรณีที่มีผู้สมัครเกินกว่าสิบคน
5) กำหนดการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้ง การเปิดและปิดหีบบัตรเลือกตั้ง และการลงคะแนนเลือกตั้ง
6) กำหนดการลงคะแนนเลือกตั้งกันเอง
7) กำหนดการตรวจนับคะแนนและการรายงานผลของการนับคะแนน
8) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับบัตรเสีย
9) กำหนดการเลือกตั้งกันเองในกรณีที่มีผู้สมัครได้รับคะแนนเท่ากัน อันเป็นเหตุให้เกินจำนวนสิบคน
10) กำหนดการประกาศผลการนับคะแนนของผู้สมัครลำดับที่หนึ่งถึงสิบ และการเก็บรักษาบัตรเลือกตั้ง
11) กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครให้ประธานรัฐสภา
2.2 ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญและกรรมาธิการ พ.ศ. .... ซึ่งมีหลักการสำคัญทำนองเดียวกับพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและสิทธิประโยชน์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1) ให้ประธาน รองประธาน และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ได้รับเงินประจำตำแหน่งเป็นรายเดือนดังนี้
- ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 63,000 บาท
- รองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 62,000 บาท
- สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 38,500 บาท
2) ให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่กับจังหวัดอันเป็นสถานที่ตั้งในการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการประชุมฯ ครั้งแรก หรือเพื่อชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา
3) ให้กรรมาธิการได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่กับจังหวัดอันเป็นสถานที่ประชุมคณะกรรมาธิการ
4) ให้กรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญได้รับเบี้ยประชุมครั้งละห้าร้อยบาท
5) ให้ใบเบิกทางโดยสารรถไฟ รถยนต์ประจำทาง และเครื่องบินแก่ประธาน รองประธาน สมาชิกและกรรมาธิการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 5 พฤศจิกายน 2539--