ทำเนียบรัฐบาล--18 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทยกับประเทศมอลตาและอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการทางการทูตเพื่อให้มีการลงนามอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ร่างความตกลงดังกล่าว มีสาระสำคัญเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้ทำนองเดียวกับอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนที่ประเทศไทยเคยตกลงไว้แล้วกับประเทศอื่น ๆ และมีผลใช้บังคับมานานแล้ว (ขณะนี้มี 27 ประเทศ) โดยความตกลงดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ ดังนี้
1. ช่วยขจัดหรือบรรเทาภาระภาษีซ้ำซ้อนอันเป็นอุปสรรคของการลงทุนระหว่างประเทศให้หมดไปในระดับหนึ่ง
2. การมีความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน จะทำให้เกิดหลักประกันในการเสียภาษีที่แน่นอนและชัดเจน ซึ่งเป็นการช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุน
3. ความตกลงฯ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน และเทคโนโลยีระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น
4. การมีความตกลงฯ ยังเป็นการช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตอีกทางหนึ่งด้วย
5. การยกเว้นภาษีเงินได้แก่การบินระหว่างประเทศ และลดอัตราภาษีลงครึ่งหนึ่งให้แก่การเดินเรือระหว่างประเทศ ตามข้อกำหนดของความตกลงฯ นี้ นอกจากจะเป็นการช่วยส่งเสริมการประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศ อันเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญของการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวระหว่างประเทศให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย และในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งของไทยได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีในประเทศคู่สัญญา ก็จะมีผลให้ผู้ประกอบกิจการดังกล่าวมีเงินได้เพื่อเสียภาษีในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
6. การมีความตกลงฯ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการส่งเสริมและจูงใจให้ประเทศคู่สัญญาตัดสินใจเลือกมาลงทุนในประเทศไทยแทนการลงทุนในประเทศอื่น ซึ่งเป็นคู่แข่งของไทยในภูมิภาคเดียวกัน
7. การที่ความตกลงฯ กำหนดให้หน่วยจัดเก็บภาษีของประเทศคู่สัญญาสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีระหว่างกัน ทำให้การหลีกเลี่ยงภาษีอากรระหว่างประเทศเป็นไปได้ยาก จึงช่วยให้ประเทศคู่สัญญาสามารถเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 18 มีนาคม 2540--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทยกับประเทศมอลตาและอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการทางการทูตเพื่อให้มีการลงนามอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ร่างความตกลงดังกล่าว มีสาระสำคัญเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้ทำนองเดียวกับอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนที่ประเทศไทยเคยตกลงไว้แล้วกับประเทศอื่น ๆ และมีผลใช้บังคับมานานแล้ว (ขณะนี้มี 27 ประเทศ) โดยความตกลงดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ ดังนี้
1. ช่วยขจัดหรือบรรเทาภาระภาษีซ้ำซ้อนอันเป็นอุปสรรคของการลงทุนระหว่างประเทศให้หมดไปในระดับหนึ่ง
2. การมีความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน จะทำให้เกิดหลักประกันในการเสียภาษีที่แน่นอนและชัดเจน ซึ่งเป็นการช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุน
3. ความตกลงฯ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน และเทคโนโลยีระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น
4. การมีความตกลงฯ ยังเป็นการช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตอีกทางหนึ่งด้วย
5. การยกเว้นภาษีเงินได้แก่การบินระหว่างประเทศ และลดอัตราภาษีลงครึ่งหนึ่งให้แก่การเดินเรือระหว่างประเทศ ตามข้อกำหนดของความตกลงฯ นี้ นอกจากจะเป็นการช่วยส่งเสริมการประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศ อันเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญของการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวระหว่างประเทศให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย และในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งของไทยได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีในประเทศคู่สัญญา ก็จะมีผลให้ผู้ประกอบกิจการดังกล่าวมีเงินได้เพื่อเสียภาษีในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
6. การมีความตกลงฯ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการส่งเสริมและจูงใจให้ประเทศคู่สัญญาตัดสินใจเลือกมาลงทุนในประเทศไทยแทนการลงทุนในประเทศอื่น ซึ่งเป็นคู่แข่งของไทยในภูมิภาคเดียวกัน
7. การที่ความตกลงฯ กำหนดให้หน่วยจัดเก็บภาษีของประเทศคู่สัญญาสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีระหว่างกัน ทำให้การหลีกเลี่ยงภาษีอากรระหว่างประเทศเป็นไปได้ยาก จึงช่วยให้ประเทศคู่สัญญาสามารถเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 18 มีนาคม 2540--