แท็ก
สำนักนายกรัฐมนตรี
ทำเนียบรัฐบาล--19 ต.ค.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบความคืบหน้าของการดำเนินโครงการนำร่อง "ผู้ผลักดันสินค้า" ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) เสนอ และมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ รายงานความคืบหน้าของการดำเนินโครงการดังกล่าวต่อคณะกรรมการฯ ในการประชุมคราวต่อไป
ทั้งนี้ โครงการนำร่อง "ผู้ผลักดันสินค้า" เป็นความริเริ่มของ สำนักงาน ก.พ. เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2541 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาให้เกิดระบบความร่วมมือ และประสานงานในระหว่างหน่วยงานภาครัฐให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยที่มีศักยภาพอยู่แล้ว และยังเป็นการริเริ่มการบริหารการจัดการทางเศรษฐกิจเป็นรายสินค้าด้วย ทั้งนี้ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบเป็นรายสินค้าแบบครบวงจรตั้งแต่การผลิตจนถึงการตลาด ดังนี้
1) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ผลักดันสินค้ายางพารา ผลไม้ส่งออก (เฉพาะทุเรียนและลำใย) และดอกไม้ (เฉพาะดอกกล้วยไม้)
2) กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้ผลักดันสินค้าอ้อยและน้ำตาลทราย อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 3) กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ผลักดันสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ และเครื่องแต่งกาย (โดยเฉพาะเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋า)
สำหรับความคืบหน้าของการดำเนินโครงการดังกล่าว มีดังต่อไปนี้
1. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- จัดตั้งศูนย์ผลักดันสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับสินค้า Product Champion โดยเน้นการผลิต การตลาด และการแปรรูปแบบครบวงจร
- ในส่วนของยางพารา ได้จัดตั้งศูนย์ผลักดันสินค้าที่กรมวิชาการเกษตร และได้จัดทำโครงการทดลองในลักษณะบริการแบบเบ็ดเสร็จ ที่ศูนย์วิจัยยางหาดใหญ๋ จังหวัดสงขลา ซึ่งหากประเมินผลแล้วได้ผลดีก็จะทำการขยายโครงการฯ ต่อไป
2. กระทรวงอุตสาหกรรม
- ให้สำนักพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสนับสนุนกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทำหน้าที่เป็นศูนย์ผลักดันสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2541 โดยเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2541
- เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2541 สำนักพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้มีหนังสอถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องรวม 5 กลุ่ม เพื่อขอให้ยืนยันประเด็นข้อปัญหาและรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมทั้งเสนอชื่อผู้แทนที่จะเข้าร่วมเป็นผู้ประสานงาน ในการประชุมหารือศูนย์ผลักดันสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ของภาคอุตสาหกรรมต่อไป
3. กระทรวงพาณิชย์
- สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ได้มีการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในระดับประเทศและภูมิภาค ซึ่งคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจได้มีมติอนุมัติ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2541 นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการส่งออกได้ประสานงานกับสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ในเรื่องการปรับปรุงรูปแบบองค์กรที่จะจัดตั้งศูนย์ทดสอบคุณภาพแห่งชาติ
- สินค้าสิ่งทอ ได้จัดตั้งศูนย์ผลักดันสินค้าเป็นแกนกลางในการประสานงาน บริการข้อมูล และให้คำปรึกษาแก่ผู้ส่งออก
- สินค้าเครื่องหนัง ได้กำหนดให้มีการสัมมนาโต๊ะกลม เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา/อุปสรรคของอุตสาหกรรมเครื่องหนัง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 19 ตุลาคม 2541--
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบความคืบหน้าของการดำเนินโครงการนำร่อง "ผู้ผลักดันสินค้า" ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) เสนอ และมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ รายงานความคืบหน้าของการดำเนินโครงการดังกล่าวต่อคณะกรรมการฯ ในการประชุมคราวต่อไป
ทั้งนี้ โครงการนำร่อง "ผู้ผลักดันสินค้า" เป็นความริเริ่มของ สำนักงาน ก.พ. เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2541 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาให้เกิดระบบความร่วมมือ และประสานงานในระหว่างหน่วยงานภาครัฐให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยที่มีศักยภาพอยู่แล้ว และยังเป็นการริเริ่มการบริหารการจัดการทางเศรษฐกิจเป็นรายสินค้าด้วย ทั้งนี้ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบเป็นรายสินค้าแบบครบวงจรตั้งแต่การผลิตจนถึงการตลาด ดังนี้
1) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ผลักดันสินค้ายางพารา ผลไม้ส่งออก (เฉพาะทุเรียนและลำใย) และดอกไม้ (เฉพาะดอกกล้วยไม้)
2) กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้ผลักดันสินค้าอ้อยและน้ำตาลทราย อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 3) กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ผลักดันสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ และเครื่องแต่งกาย (โดยเฉพาะเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋า)
สำหรับความคืบหน้าของการดำเนินโครงการดังกล่าว มีดังต่อไปนี้
1. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- จัดตั้งศูนย์ผลักดันสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับสินค้า Product Champion โดยเน้นการผลิต การตลาด และการแปรรูปแบบครบวงจร
- ในส่วนของยางพารา ได้จัดตั้งศูนย์ผลักดันสินค้าที่กรมวิชาการเกษตร และได้จัดทำโครงการทดลองในลักษณะบริการแบบเบ็ดเสร็จ ที่ศูนย์วิจัยยางหาดใหญ๋ จังหวัดสงขลา ซึ่งหากประเมินผลแล้วได้ผลดีก็จะทำการขยายโครงการฯ ต่อไป
2. กระทรวงอุตสาหกรรม
- ให้สำนักพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสนับสนุนกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทำหน้าที่เป็นศูนย์ผลักดันสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2541 โดยเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2541
- เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2541 สำนักพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้มีหนังสอถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องรวม 5 กลุ่ม เพื่อขอให้ยืนยันประเด็นข้อปัญหาและรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมทั้งเสนอชื่อผู้แทนที่จะเข้าร่วมเป็นผู้ประสานงาน ในการประชุมหารือศูนย์ผลักดันสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ของภาคอุตสาหกรรมต่อไป
3. กระทรวงพาณิชย์
- สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ได้มีการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในระดับประเทศและภูมิภาค ซึ่งคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจได้มีมติอนุมัติ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2541 นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการส่งออกได้ประสานงานกับสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ในเรื่องการปรับปรุงรูปแบบองค์กรที่จะจัดตั้งศูนย์ทดสอบคุณภาพแห่งชาติ
- สินค้าสิ่งทอ ได้จัดตั้งศูนย์ผลักดันสินค้าเป็นแกนกลางในการประสานงาน บริการข้อมูล และให้คำปรึกษาแก่ผู้ส่งออก
- สินค้าเครื่องหนัง ได้กำหนดให้มีการสัมมนาโต๊ะกลม เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา/อุปสรรคของอุตสาหกรรมเครื่องหนัง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 19 ตุลาคม 2541--