ทำเนียบรัฐบาล--9 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบการหารือปรับโครงสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 5 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปได้ดังนี้
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้นำคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนภาคเอกชนเข้าร่วมหารือกับฝ่ายญี่ปุ่น ซึ่งมีนายมาซาฮิโกะ โคมูระ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น เป็นหัวหน้าคณะ และได้ร่วมหารือกับผู้นำภาคเอกชนที่สหพันธ์องค์กรเศรษฐกิจญี่ปุ่น (Keidanren) มีผลการหารือสรุปได้ดังนี้
1. รัฐบาลญี่ปุ่นเห็นชอบตามแนวทางของสมุดปกขาวของฝ่ายไทยในการร่วมกันพิจารณามิติใหม่ที่จะใช้เป็นกรอบนโยบายสำหรับความร่วมมือเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น จนถึง ค.ศ. 2000 ภายใต้หัวข้อหลัก 3 ประการ คือ
1.1 การช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันแก่ไทย โดยฝ่ายญี่ปุ่นยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดประการหนึ่งในการลดการขาดดุลทางการค้า และนำไปสู่การขยายอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน รัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกันในมาตรการส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต และการขยายการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมสนับสนุน
1.2 การร่วมมือเพื่อพัฒนาอนุภูมิภาคและภูมิภาค โดยเฉพาะในกรอบลุ่มแม่น้ำโขง โดยรัฐบาลทั้งสองได้เห็นชอบร่วมกันที่จะขยายการร่วมมือไตรภาคี เพื่อพัฒนาประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า
1.3 การร่วมมือในการเสริมสร้างระบบการค้าพหุภาคีภายใต้องค์การการค้าโลกและเอเปค ให้สอดคล้องกับปฏิญญาที่ผู้นำเอเปคร่วมกันประกาศไว้ที่เมืองบอกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย ในปี 2537
2. ญี่ปุ่นเห็นชอบกับข้อเสนอฝ่ายไทยในการจัดตั้งกลไกหารือระดับสูง เพื่อติดตามความคืบหน้าของความร่วมมือด้านต่าง ๆ ตามที่ปรากฏภายในกรอบนโยบายของข้อ 1 โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมดังกล่าวในปี 2541
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 9 กันยายน 2540--
คณะรัฐมนตรีรับทราบการหารือปรับโครงสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 5 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปได้ดังนี้
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้นำคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนภาคเอกชนเข้าร่วมหารือกับฝ่ายญี่ปุ่น ซึ่งมีนายมาซาฮิโกะ โคมูระ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น เป็นหัวหน้าคณะ และได้ร่วมหารือกับผู้นำภาคเอกชนที่สหพันธ์องค์กรเศรษฐกิจญี่ปุ่น (Keidanren) มีผลการหารือสรุปได้ดังนี้
1. รัฐบาลญี่ปุ่นเห็นชอบตามแนวทางของสมุดปกขาวของฝ่ายไทยในการร่วมกันพิจารณามิติใหม่ที่จะใช้เป็นกรอบนโยบายสำหรับความร่วมมือเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น จนถึง ค.ศ. 2000 ภายใต้หัวข้อหลัก 3 ประการ คือ
1.1 การช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันแก่ไทย โดยฝ่ายญี่ปุ่นยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดประการหนึ่งในการลดการขาดดุลทางการค้า และนำไปสู่การขยายอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน รัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกันในมาตรการส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต และการขยายการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมสนับสนุน
1.2 การร่วมมือเพื่อพัฒนาอนุภูมิภาคและภูมิภาค โดยเฉพาะในกรอบลุ่มแม่น้ำโขง โดยรัฐบาลทั้งสองได้เห็นชอบร่วมกันที่จะขยายการร่วมมือไตรภาคี เพื่อพัฒนาประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า
1.3 การร่วมมือในการเสริมสร้างระบบการค้าพหุภาคีภายใต้องค์การการค้าโลกและเอเปค ให้สอดคล้องกับปฏิญญาที่ผู้นำเอเปคร่วมกันประกาศไว้ที่เมืองบอกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย ในปี 2537
2. ญี่ปุ่นเห็นชอบกับข้อเสนอฝ่ายไทยในการจัดตั้งกลไกหารือระดับสูง เพื่อติดตามความคืบหน้าของความร่วมมือด้านต่าง ๆ ตามที่ปรากฏภายในกรอบนโยบายของข้อ 1 โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมดังกล่าวในปี 2541
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 9 กันยายน 2540--