ทำเนียบรัฐบาล--20 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบการปรับปรุงแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2538 (ครั้งที่ 1) ของคณะกรรมการนโยบายหนี้ของประเทศ ดังนี้
1. โครงการหลักในแผนการก่อหนี้ฯ ปรับปรุงครั้งที่ 1 มีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้นจาก 21 โครงการ เป็น 34 โครงการ วงเงินเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจาก 2,711.78 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 3,121.29 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นสุทธิ 409.51 ล้านเหรียญสหรัฐ
2. โครงการสำรองในแผนการก่อหนี้ฯ ปรับปรุงครั้งที่ 1 มีจำนวนโครงการเท่าเดิม 17 โครงการ วงเงินลดลงจาก 2,334.79 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 2,246.26 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง สุทธิ 88.53 ล้านเหรียญสหรัฐ
อนึ่ง โครงการ 34 โครงการดังกล่าวประกอบด้วย
1. โครงการที่ได้มีการลงนามในสัญญาเงินกู้ในปีงบประมาณ 2538 เรียบร้อยแล้ว 9 โครงการ (เป็นการลงนามเต็มโครงการ 6 โครงการ และลงนามเฉพาะบางส่วน 3 โครงการ) วง เงินลดลงจาก 579.27 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 518.92 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงสุทธิ 60.35 ล้าน เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นผลส่วนใหญ่จากการปรับราคาโครงการและการให้รายได้หน่วยงานสมทบเพิ่มขึ้น
2. โครงการที่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้ 25 โครงการ และโครงการที่ลงนามไป แล้วบางส่วนตามข้อ 1 ซึ่งจะต้องลงนามส่วนที่เหลือต่อไป 2 โครงการ แบ่งได้เป็น 4 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 เป็นโครงการเดิมที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงวงเงิน 3 โครงการ วงเงิน 670 ล้าน เหรียญสหรัฐ
ส่วนที่ 2 เป็นโครงการที่ได้มีการปรับวงเงินกู้ตามการปรับอัตราแลกเปลี่ยนและตามสถานะ ความพร้อมและความก้าวหน้าของโครงการ รวมทั้งผลการประเมินโครงการของแหล่งเงินกู้ 9 โครง การ (เป็นการปรับเต็มโครงการ ๆ โครงการ) และปรับเฉพาะบางส่วนที่ยังไม่ได้ลงนาม 2 โครง การ) มีผลให้วงเงินกู้ลดลงจากเดิม 1,162.35 ล้านเหรียญสหรัฐเป็น 1,003.70 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงสุทธิ 158.65 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนที่ 3 เป็นโครงการสำรองที่เลื่อนขึ้นเป็นโครงการหลัก 3 โครงการ วงเงิน 286.15 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นโครงการที่มีความพร้อมและเร่งด่วนที่จะดำเนินการ ประกอบด้วย
- โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีไทย - ญี่ปุ่น ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วงเงินเทียบเท่า 90.89 ล้านเหรียญสหรัฐ
- โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดนครอินทร์และถนนต่อเชื่อมสาย ติวานนท์ - เพชรเกษม - รัตนาธิเบศร์ ของกรมโยธาธิการ วงเงินเทียบเท่า 89.87 ล้านเหรียญ สหรัฐ
- โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าย่อย ระยะที่ 5 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค วง เงินเทียบเท่า 105.39 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนที่ 4 เป็นโครงการใหม่ที่มีความเร่งด่วนในการดำเนินการในปีงบประมาณ 2538 จึงได้ บรรจุเพิ่มเป็นโครงการหลัก 12 โครงการ วงเงิน 642.52 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วย
- โครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 10 โครงการ วงเงิน 338.32 ล้าน เหรียญสหรัฐ
- โครงการของบริษัท การบินไทย จำกัด 2 โครงการ วงเงิน 304.20 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ โครงการจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ลำที่ 10 วงเงิน 184.90 ล้านเหรียญสหรัฐ และ โครงการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A330-300 ลำที่ 8 วงเงิน 119.30 ล้านเหรียญสหรัฐ
3. ได้ปรับลดโครงการหลักลงเป็นโครงการสำรอง 2 โครงการ (เป็นบางส่วนของ โครงการที่ลงนามแล้ว) มีผลให้วงเงินลดลงสุทธิ 229.51 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ โครงการติดตั้งระ บบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ ระยะที่ 1 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค วงเงิน 59.51 ล้านเหรียญสหรัฐ และ โครงการสินเชื่อเพื่อเกษตรกรชั้นเล็กและยากจนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร วง เงิน 170 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลงนามบางส่วนแล้ว) และถอนโครงการหลักออกจากแผนการก่อหนี้ฯ 1 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างโรงแยกก๊าซ หน่วยที่ 3 ของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย วงเงิน 70.65 ล้านเหรียญสหรัฐ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 19 กันยายน 2539--
คณะรัฐมนตรีรับทราบการปรับปรุงแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2538 (ครั้งที่ 1) ของคณะกรรมการนโยบายหนี้ของประเทศ ดังนี้
1. โครงการหลักในแผนการก่อหนี้ฯ ปรับปรุงครั้งที่ 1 มีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้นจาก 21 โครงการ เป็น 34 โครงการ วงเงินเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจาก 2,711.78 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 3,121.29 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นสุทธิ 409.51 ล้านเหรียญสหรัฐ
2. โครงการสำรองในแผนการก่อหนี้ฯ ปรับปรุงครั้งที่ 1 มีจำนวนโครงการเท่าเดิม 17 โครงการ วงเงินลดลงจาก 2,334.79 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 2,246.26 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง สุทธิ 88.53 ล้านเหรียญสหรัฐ
อนึ่ง โครงการ 34 โครงการดังกล่าวประกอบด้วย
1. โครงการที่ได้มีการลงนามในสัญญาเงินกู้ในปีงบประมาณ 2538 เรียบร้อยแล้ว 9 โครงการ (เป็นการลงนามเต็มโครงการ 6 โครงการ และลงนามเฉพาะบางส่วน 3 โครงการ) วง เงินลดลงจาก 579.27 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 518.92 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงสุทธิ 60.35 ล้าน เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นผลส่วนใหญ่จากการปรับราคาโครงการและการให้รายได้หน่วยงานสมทบเพิ่มขึ้น
2. โครงการที่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้ 25 โครงการ และโครงการที่ลงนามไป แล้วบางส่วนตามข้อ 1 ซึ่งจะต้องลงนามส่วนที่เหลือต่อไป 2 โครงการ แบ่งได้เป็น 4 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 เป็นโครงการเดิมที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงวงเงิน 3 โครงการ วงเงิน 670 ล้าน เหรียญสหรัฐ
ส่วนที่ 2 เป็นโครงการที่ได้มีการปรับวงเงินกู้ตามการปรับอัตราแลกเปลี่ยนและตามสถานะ ความพร้อมและความก้าวหน้าของโครงการ รวมทั้งผลการประเมินโครงการของแหล่งเงินกู้ 9 โครง การ (เป็นการปรับเต็มโครงการ ๆ โครงการ) และปรับเฉพาะบางส่วนที่ยังไม่ได้ลงนาม 2 โครง การ) มีผลให้วงเงินกู้ลดลงจากเดิม 1,162.35 ล้านเหรียญสหรัฐเป็น 1,003.70 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงสุทธิ 158.65 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนที่ 3 เป็นโครงการสำรองที่เลื่อนขึ้นเป็นโครงการหลัก 3 โครงการ วงเงิน 286.15 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นโครงการที่มีความพร้อมและเร่งด่วนที่จะดำเนินการ ประกอบด้วย
- โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีไทย - ญี่ปุ่น ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วงเงินเทียบเท่า 90.89 ล้านเหรียญสหรัฐ
- โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดนครอินทร์และถนนต่อเชื่อมสาย ติวานนท์ - เพชรเกษม - รัตนาธิเบศร์ ของกรมโยธาธิการ วงเงินเทียบเท่า 89.87 ล้านเหรียญ สหรัฐ
- โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าย่อย ระยะที่ 5 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค วง เงินเทียบเท่า 105.39 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนที่ 4 เป็นโครงการใหม่ที่มีความเร่งด่วนในการดำเนินการในปีงบประมาณ 2538 จึงได้ บรรจุเพิ่มเป็นโครงการหลัก 12 โครงการ วงเงิน 642.52 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วย
- โครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 10 โครงการ วงเงิน 338.32 ล้าน เหรียญสหรัฐ
- โครงการของบริษัท การบินไทย จำกัด 2 โครงการ วงเงิน 304.20 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ โครงการจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ลำที่ 10 วงเงิน 184.90 ล้านเหรียญสหรัฐ และ โครงการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A330-300 ลำที่ 8 วงเงิน 119.30 ล้านเหรียญสหรัฐ
3. ได้ปรับลดโครงการหลักลงเป็นโครงการสำรอง 2 โครงการ (เป็นบางส่วนของ โครงการที่ลงนามแล้ว) มีผลให้วงเงินลดลงสุทธิ 229.51 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ โครงการติดตั้งระ บบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ ระยะที่ 1 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค วงเงิน 59.51 ล้านเหรียญสหรัฐ และ โครงการสินเชื่อเพื่อเกษตรกรชั้นเล็กและยากจนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร วง เงิน 170 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลงนามบางส่วนแล้ว) และถอนโครงการหลักออกจากแผนการก่อหนี้ฯ 1 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างโรงแยกก๊าซ หน่วยที่ 3 ของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย วงเงิน 70.65 ล้านเหรียญสหรัฐ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 19 กันยายน 2539--