ทำเนียบรัฐบาล--28 ธ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาการทำสำมะโนและการสำรวจอุตสาหกรรม พ.ศ. .... ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2537 เป็นต้นไป
2. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้มีอายุ 10 ปี
3. กำหนดให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรีทำสำมะโนและสำรวจอุตสาหกรรม เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนคนทำงาน เงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนการทำงานอย่างอื่น มูลค่า วัสดุดิบและผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย ส่วนเปลี่ยนแปลงของวัสดุดิบและสินค้าคงเหลือ ตลอดจนมูลค่าของสินทรัพย์ ถาวะและค่าเสื่อมราคาของสถานประกอบการอุตสาหกรรม และสถิติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
4. กำหนดเขตท้องที่ทำสำมะโนและการสำรวจอุตสาหกรรมได้แก่ ทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณา จักร
5. กำหนดให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ตาม 4. เป็นผู้กรอกรายการหรือ ให้ข้อมูลในใบแบบหรือในใบกำหนดข้อถาม
เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและประเภทของสถานประกอบการอุตสาหกรรมจำนวน คนงาน เงินเดือน ค่าจ้างหรือค่าตอบแทนการทำงานอย่างอื่น มูลค่าวัสดุดิบและผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย ส่วน เปลี่ยนแปลงของวัสดุดิบและสินค้าคงเหลือ ตลอดจนมูลค่าของสินทรัพย์ถาวะและค่าเสื่อมราคาของ สินทรัพย์ถาวรของสถานประกอบการอุตสาหกรรม และสถิติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาใช้ประกอบการ พิจารณากำหนดแนวนโยบายและวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ นำมาใช้ในการจัด ทำบัญชีประชาชาติ และวัดอัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 ธันวาคม 2537--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาการทำสำมะโนและการสำรวจอุตสาหกรรม พ.ศ. .... ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2537 เป็นต้นไป
2. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้มีอายุ 10 ปี
3. กำหนดให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรีทำสำมะโนและสำรวจอุตสาหกรรม เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนคนทำงาน เงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนการทำงานอย่างอื่น มูลค่า วัสดุดิบและผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย ส่วนเปลี่ยนแปลงของวัสดุดิบและสินค้าคงเหลือ ตลอดจนมูลค่าของสินทรัพย์ ถาวะและค่าเสื่อมราคาของสถานประกอบการอุตสาหกรรม และสถิติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
4. กำหนดเขตท้องที่ทำสำมะโนและการสำรวจอุตสาหกรรมได้แก่ ทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณา จักร
5. กำหนดให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ตาม 4. เป็นผู้กรอกรายการหรือ ให้ข้อมูลในใบแบบหรือในใบกำหนดข้อถาม
เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและประเภทของสถานประกอบการอุตสาหกรรมจำนวน คนงาน เงินเดือน ค่าจ้างหรือค่าตอบแทนการทำงานอย่างอื่น มูลค่าวัสดุดิบและผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย ส่วน เปลี่ยนแปลงของวัสดุดิบและสินค้าคงเหลือ ตลอดจนมูลค่าของสินทรัพย์ถาวะและค่าเสื่อมราคาของ สินทรัพย์ถาวรของสถานประกอบการอุตสาหกรรม และสถิติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาใช้ประกอบการ พิจารณากำหนดแนวนโยบายและวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ นำมาใช้ในการจัด ทำบัญชีประชาชาติ และวัดอัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 ธันวาคม 2537--