คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. ให้ความเห็นชอบการจัดตั้งสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาขึ้นในกระทรวงยุติธรรมตามมาตรา 15 แห่งร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. …. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และกระทรวงยุติธรรมพิจารณาเห็นชอบด้วย
สำหรับการจัดตั้งสำนักงานขึ้นใหม่นี้ อาจมอบหมายให้ส่วนราชการระดับกรมที่มีอยู่แล้วในกระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบดำเนินการไปก่อน ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงบประมาณ
2. ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. …. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และกระทรวงยุติธรรมพิจารณาเห็นชอบด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดเกี่ยวกับองค์คณะ อำนาจหน้าที่และการพ้นจากตำแหน่งของคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
2. จัดตั้งสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาขึ้นในกระทรวงยุติธรรม เพื่อปฏิบัติงานให้กับคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการตามร่างพระราชบัญญัตินี้
3. กำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา
4. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการยื่นคำขอ การพิจารณาคำขอและการอุทธรณ์สำหรับผู้เสียหาย จำเลย หรือ ทายาทซึ่งประสงค์จะขอรับค่าตอบแทน ค่าทดแทนหรือค่าใช้จ่ายตามร่างพระราชบัญญัตินี้
5. กำหนดอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
6. กำหนดบทลงโทษผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือให้ถ้อยคำหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 25 เมษายน 2543--
1. ให้ความเห็นชอบการจัดตั้งสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาขึ้นในกระทรวงยุติธรรมตามมาตรา 15 แห่งร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. …. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และกระทรวงยุติธรรมพิจารณาเห็นชอบด้วย
สำหรับการจัดตั้งสำนักงานขึ้นใหม่นี้ อาจมอบหมายให้ส่วนราชการระดับกรมที่มีอยู่แล้วในกระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบดำเนินการไปก่อน ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงบประมาณ
2. ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. …. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และกระทรวงยุติธรรมพิจารณาเห็นชอบด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดเกี่ยวกับองค์คณะ อำนาจหน้าที่และการพ้นจากตำแหน่งของคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
2. จัดตั้งสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาขึ้นในกระทรวงยุติธรรม เพื่อปฏิบัติงานให้กับคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการตามร่างพระราชบัญญัตินี้
3. กำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา
4. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการยื่นคำขอ การพิจารณาคำขอและการอุทธรณ์สำหรับผู้เสียหาย จำเลย หรือ ทายาทซึ่งประสงค์จะขอรับค่าตอบแทน ค่าทดแทนหรือค่าใช้จ่ายตามร่างพระราชบัญญัตินี้
5. กำหนดอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
6. กำหนดบทลงโทษผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือให้ถ้อยคำหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 25 เมษายน 2543--