ทำเนียบรัฐบาล--27 มิ.ย.--นิวส์สแตนด์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบความคืบหน้าแผนงานปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรภายใต้เงินกู้ต่างประเทศ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
ผลการดำเนินงาน
1. การจัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าและการจัดการผลผลิตของสถาบันเกษตรกร เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักของโครงการเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างภาคเกษตร คือ การเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แก่สถาบันเกษตรกรในการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และวางระบบจัดการผลิตสินค้าเกษตรให้แก่เกษตรกร เพื่อให้ได้รับส่วนแบ่งค่าการตลาดเพิ่มขึ้น โดยได้ดำเนินการส่งเสริมกิจการขนาดเล็กที่สถาบันเกษตรกรสามารถบริหารจัดการเองได้ และได้บูรณาการโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อนระหว่างส่วนราชการ เช่น โครงการพัฒนาอาชีพเกษตรกร โครงการเพิ่มศักยภาพชุมชน เป็นต้น
2. การใช้เงินตามแผนงานปรับโครงสร้างภาคเกษตรได้คำนึงถึงประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรใน 3 ด้าน คือ สร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรชุมชนและสถาบันเกษตรกร สร้างแหล่งผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน และสร้างงานวิจัยและเทคโนโลยีให้ตอบสนองความต้องการของเกษตรกร ซึ่งได้กระจายพื้นที่ดำเนินการตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งได้วางแผนเชื่อมโยงระบบตลาดเพื่อรองรับผลผลิต โดยประสานกับภาคเอกชนในท้องถิ่น
3. คณะกรรมการบริหารจัดการโครงการเงินกู้ฯ มีกรรมการจากหน่วยงานภายนอก 6 หน่วยงาน ได้แก่ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้อำนวยการสำนักบริหารหนี้สาธารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง อธิบดีกรมบัญชีกลาง และรองปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นกรรมการ และได้พิจารณาโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในหลักการไว้แล้ว รวม 7 โครงการ ซึ่งสำนักงบประมาณได้แจ้งผลการอนุมัติค่าใช้จ่ายแล้ว 4 โครงการ รวมวงเงินที่อนุมัติ 391.42 ล้านบาท นอกจากนั้น ได้จัดส่งโครงการในส่วนของ JBIC (JAPAN BANK FOR INTERNATIONAL COOPERATION) ไปให้พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จะเริ่มดำเนินการด้วย
4. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะจ้างที่ปรึกษาด้านการตรวจสอบและหน่วยงานอิสระเป็นผู้ดำเนินการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการ
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้กลไกการพิจารณาอนุมัติโครงการความคืบหน้าแผนงานปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรภายใต้เงินกู้ต่างประเทศ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2542 เนื่องจาก
1. โครงสร้างของคณะกรรมการบริหารจัดการโครงการเงินกู้ฯ มีหน่วยงานกลางร่วมเป็นกรรมการถึง 6 หน่วยงาน ย่อมประกันถึงความเป็นกลางและเป็นอิสระในการพิจารณาอย่างเต็มที่ อีกทั้งคณะกรรมการฯ ได้อนุมัติโครงการเงินกู้ฯ ไปแล้ว 7 โครงการ วงเงิน 4,128.21 ล้านบาท ซึ่งได้ส่งให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติรายละเอียดค่าใช้จ่าย และส่วนราชการได้เตรียมการดำเนินงานแล้ว
2. หากจะทำการเปลี่ยนแปลงกลไกการพิจารณาอนุมัติโครงการ จะต้องมีความมั่นใจว่ากลไกใหม่จะมีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม ไม่ทำให้เกิดความล่าช้าจนมีผลกระทบต่อการดำเนินงานตามแผนงานที่กำหนดไว้ และควรใช้กลไกดังกล่าวกับโครงการเงินกู้อื่นที่มีลักษณะเป็นแผนงาน (Program Loan) ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 มิ.ย. 2543--
-สส-
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบความคืบหน้าแผนงานปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรภายใต้เงินกู้ต่างประเทศ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
ผลการดำเนินงาน
1. การจัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าและการจัดการผลผลิตของสถาบันเกษตรกร เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักของโครงการเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างภาคเกษตร คือ การเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แก่สถาบันเกษตรกรในการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และวางระบบจัดการผลิตสินค้าเกษตรให้แก่เกษตรกร เพื่อให้ได้รับส่วนแบ่งค่าการตลาดเพิ่มขึ้น โดยได้ดำเนินการส่งเสริมกิจการขนาดเล็กที่สถาบันเกษตรกรสามารถบริหารจัดการเองได้ และได้บูรณาการโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อนระหว่างส่วนราชการ เช่น โครงการพัฒนาอาชีพเกษตรกร โครงการเพิ่มศักยภาพชุมชน เป็นต้น
2. การใช้เงินตามแผนงานปรับโครงสร้างภาคเกษตรได้คำนึงถึงประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรใน 3 ด้าน คือ สร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรชุมชนและสถาบันเกษตรกร สร้างแหล่งผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน และสร้างงานวิจัยและเทคโนโลยีให้ตอบสนองความต้องการของเกษตรกร ซึ่งได้กระจายพื้นที่ดำเนินการตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งได้วางแผนเชื่อมโยงระบบตลาดเพื่อรองรับผลผลิต โดยประสานกับภาคเอกชนในท้องถิ่น
3. คณะกรรมการบริหารจัดการโครงการเงินกู้ฯ มีกรรมการจากหน่วยงานภายนอก 6 หน่วยงาน ได้แก่ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้อำนวยการสำนักบริหารหนี้สาธารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง อธิบดีกรมบัญชีกลาง และรองปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นกรรมการ และได้พิจารณาโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในหลักการไว้แล้ว รวม 7 โครงการ ซึ่งสำนักงบประมาณได้แจ้งผลการอนุมัติค่าใช้จ่ายแล้ว 4 โครงการ รวมวงเงินที่อนุมัติ 391.42 ล้านบาท นอกจากนั้น ได้จัดส่งโครงการในส่วนของ JBIC (JAPAN BANK FOR INTERNATIONAL COOPERATION) ไปให้พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จะเริ่มดำเนินการด้วย
4. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะจ้างที่ปรึกษาด้านการตรวจสอบและหน่วยงานอิสระเป็นผู้ดำเนินการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการ
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้กลไกการพิจารณาอนุมัติโครงการความคืบหน้าแผนงานปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรภายใต้เงินกู้ต่างประเทศ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2542 เนื่องจาก
1. โครงสร้างของคณะกรรมการบริหารจัดการโครงการเงินกู้ฯ มีหน่วยงานกลางร่วมเป็นกรรมการถึง 6 หน่วยงาน ย่อมประกันถึงความเป็นกลางและเป็นอิสระในการพิจารณาอย่างเต็มที่ อีกทั้งคณะกรรมการฯ ได้อนุมัติโครงการเงินกู้ฯ ไปแล้ว 7 โครงการ วงเงิน 4,128.21 ล้านบาท ซึ่งได้ส่งให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติรายละเอียดค่าใช้จ่าย และส่วนราชการได้เตรียมการดำเนินงานแล้ว
2. หากจะทำการเปลี่ยนแปลงกลไกการพิจารณาอนุมัติโครงการ จะต้องมีความมั่นใจว่ากลไกใหม่จะมีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม ไม่ทำให้เกิดความล่าช้าจนมีผลกระทบต่อการดำเนินงานตามแผนงานที่กำหนดไว้ และควรใช้กลไกดังกล่าวกับโครงการเงินกู้อื่นที่มีลักษณะเป็นแผนงาน (Program Loan) ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 มิ.ย. 2543--
-สส-