งานแสดงสินค้า Heimtextil เป็นงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับเคหะสิ่งทอที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นงานที่ผู้อยู่ในวงการเคหะสิ่งทอ/ตบแต่ง/ออกแบบ เข้าชมงาน งานนี้จัดขึ้นในช่วงมกราคมของทุกปี ที่นครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในปีนี้ จัดระหว่างวันที่ 11-14 มกราคม 2555
งานนี้เริ่มจัดตั้งแต่ปี 1971 จัดโดย Messe Frankfurt ในปัจจุบันมีการขยายงานไปจัดในต่างประเทศทั่วโลกกว่า 29 งานใน 7 ประเทศ โดยใช้ชื่องานและTheme ของงาน 5 กลุ่ม ได้แก่
1) Garment Textiles : Interstoff (Hong Kong), Texworld (New York, Paris, Mumbai), Intertextile Apparel Fabric (Shanghai, Beijing, Guangzhou), Yarn Expo (Beijing, Shanghai)
2) Home and Household Textiles : Heimtextil (Frankfurt, Hong Kong, Moscow, Mumbai, Interior Lifestyle (Tokyo) , Intertextile Home Textiles (Tokyo, Guangzhou)
3) Technical Textiles : Techtextil (Frankfurt, Tokyo, Atlanta, LA, Moscow, Shanghai, Mumbai)
4) Textile Care : Texcare (Frankfurt, Moscow, Beijing)
5) Processing Textiles and Flexible materials : Texprogress (งานใหม่ในปี 2011 Frankfurt)
Heimtextil 2012 มีผู้เข้าร่วมงาน 2,634 รายจาก 61 ประเทศทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.4 มี ผู้เข้าร่วมงานเยอรมัน 358 รายและจากต่างประเทศ 2,276 ราย (ร้อยละ 86.4 ของผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด) ประเทศที่เข้าร่วมงานมากใน 10 อันดับแรกของยุโรปนอกจากเยอรมนี ได้แก่ ตุรกี 176 ราย อิตาลี 103 ราย สเปน 98 ราย ฝรั่งเศส 85 ราย อังกฤษ 72 ราย เนเธอร์แลนด์ 66 ราย โปรตุเกส 60 ราย เบลเยี่ยม 56 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 27 ราย และโปแลนด์ 27 ราย นอกจากนี้ยังมีประเทศที่เป็นผู้ผลิต/ส่งออกเคหะสิ่งทอรายใหญ่ ได้แก่ จีน 491 ราย อินเดีย 379 ราย ปากีสถาน 223 ราย ไต้หวัน 47 ราย อียิปต์ 38 ราย ส่วนประเทศในอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม 14 ราย อินโดนิเซีย 8 ราย และไทย 1 ราย คือบริษัทMD Intertrade Holding Group Co., Ltd
ปี 2554 มีผู้ชมงานกว่า 73,071 ราย (ร้อยละ 65.4 มาจากต่างประเทศจาก 130 ประเทศ) ผู้ชมงาน 10 อันดับแรกมาจากประเทศ เยอรมัน อิตาลี ตุรกี จีน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สเปน รัสเซีย เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ โดยเป็นกลุ่มธุรกิจ Special retail ร้อยละ 30, Wholesale/Export trade ร้อยละ 27, Manufacturing industry ร้อยละ 16, Service sector ร้อยละ 13, Craft Sector ร้อยละ 5 และที่เหลือเป็นอื่นๆ ส่วนสินค้าที่สนใจเรียงลำดับความสำคัญ ดังนี้ Furnishing fabrics & curtains, Bed linen, Bathroom textiles, Upholstery fabrics & lather, Wallpaper-wall covering & accessories, home accessories & cushions, spreads & throw, table and kitchen linen, bedding/filling materials-mattresses-sleep system, carpets, Trend forum
ประเทศเยอรมนีจัดเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 6 ของไทย มีการนำเข้าสินค้าสิ่งทอจากไทย (รวมสินค้าเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม) ในช่วง ม.ค. - พ.ย. 2554 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 235.12 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดเฉลี่ยร้อยละ 3.08 เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.50 เมื่อเทียบกับปี 2553
สำหรับสินค้าเคหะสิ่งทอที่มีการนำเข้าจากไทยมากได้แก่
- ผ้าผืน เยอรมันมีการนำเข้าสินค้าผ้าผืนจากไทย ในช่วง ม.ค. - พ.ย. 2554 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 30.76 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดเฉลี่ยร้อยละ 2.03 เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.48 เมื่อเทียบกับปี 2553
- ผ้าผืนจากเส้นใยประดิษฐ์ เยอรมันมีการนำเข้าสินค้าผ้าผืนจากเส้นใยประดิษฐ์จากไทย ในช่วง ม.ค. - พ.ย. 2554 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 17.16 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดเฉลี่ยร้อยละ 2.15 เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.56 เมื่อเทียบกับปี 2553
- ผ้าผืนจากฝ้าย เยอรมันมีการนำเข้าสินค้าผ้าผืนจากฝ้ายจากไทย ในช่วง ม.ค. - พ.ย. 2554 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 12.80 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดเฉลี่ยร้อยละ 2.34 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.13 เมื่อเทียบกับปี 2553
- อุตสาหกรรมสิ่งทอและเคหะสิ่งทอ ปรับตัวได้ดีขึ้นในปี 2555 นี้ แต่ผู้ครองตลาดนี้จะเป็นด้านเอเชียโดยเฉพาะจีนและอินเดีย ซึ่งมีข้อได้เปรียบไทยในด้านแรงงาน การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆของต่างประเทศ ทำให้ผู้ส่งออกไทยต้องปรับกลยุทธ์ด้านการผลิตและการตลาดอย่างมาก
- การแข่งขันในสินค้าที่มีราคาถูกจากการรับจ้างผลิตของไทยกับคู่แข่งในเอเชียจะค่อนข้างยาก จำเป็นต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งด้านวัตถุดิบการผลิต/เทคโนโลยีการผลิต/การออกแบบ ซึ่งไทยยังมีข้อได้เปรียบ ควรมุ่งการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มและอยู่ในกระแสความนิยมในตลาดอนาคต เช่น Eco, Green, technical textile, flexible textile เป็นต้น
- ควรจับกลุ่มลูกค้าที่เป็น Contract Business มากขึ้น หรือผลิตสินค้าที่มีแบรนด์ของตนเอง/ร่วมผลิตสร้างแบรนด์ร่วมกับคู่ค้าที่เป็น Trade Partner ไม่ใช่แค่เป็นผู้นำเข้า และปรับรูปแบบธุรกิจ/การตลาด เป็นต้น
- สินค้าเคหะสิ่งทอที่มีลวดลาย handicraft ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี แต่ผู้ส่งออกไทยประสบปัญหาการถูกลอกเลียนแบบสินค้า จากประเทศคู่แข่งในเอเชีย ซึ่งผลิตขายในราคาถูกกว่าสินค้าไทยมาก แต่คุณภาพฝีมือ Craft ยังสู้ไทยไม่ได้
แนวโน้มสินค้า Trend ของสินค้าเคหะสิ่งทอ /ตบแต่ง/ออกแบบ ปี 2012-2013
- Colour Riot ซึ่งจัดแบ่งสำหรับสินค้าทันสมัย รูปแบบใหม่ๆ โดยใช้โทนสีที่เตะตา เพื่อดูงดูดและสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ซื้อ โดยเน้นที่สีสันสดใส รวมถึงเรื่องแสงไฟต่างๆ ด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงการพิมพ์ Digital การใช้รูปภาพหรือใช้ hologram effects เป็นต้น
- Dark Lux หรือ The Beauty of the night เน้นการใช้สีเข้ม สวยลายสีเข้ม ขรึมแต่ดู Elegant โดยอาจจัดเป็น Set สินค้าโดยเน้นสีดำเป็นสีเด่น นำเป็นหลัก นอกจากนี้ยังอาจผสมผสานด้วยวัสดุต่างๆ เพิ่มเติมเช่น Deep gloss, metallic เป็นต้น
- Craft Industry เน้นการใช้เรื่องราว วัฒนธรรม ทางด้านงาน Handicraft มาประยุกต์ใช้ หรือเรื่องราวเกี่ยวกับภูมิประเทศ เช่นท้องฟ้า ภูเขา ทะเล วิวสวยๆ เป็นต้น โดยเน้นการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมประดิษฐ์ ออกแบบ
- The bare essentials หรือ Split Clarity เน้นความเรียบง่าย แต่ใช้ประโยชน์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ เน้นลายเส้นทอ หรือการใช้เทคนิคกราฟฟิค ดีไซน์ หรือการใช้ High Contrast มาผสมผสาน
- สินค้าเคหะสิ่งทอที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ เน้นใช้เรื่องราว ลวดลาย Handicraft ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ส่งออกรายใหญ่หลายรายที่ไม่เข้าร่วมงาน อาทิเช่น Jim Thompson, Anita Thai Silk, Bangkok Weaving เป็นต้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าไทยให้เป็นที่น่าสนใจสำหรับตลาดสากล
- สินค้าที่ตกแต่งเรียบง่ายแต่เน้นคุณภาพและการใช้งาน เป็นสินค้าที่ชนชาวยุโรปนิยมและต้องการใช้มาก มีจำนวนปริมาณการใช้เพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต
ที่มา: http://www.depthai.go.th