ปากีสถานจะเป็นแหล่งนำเข้ามะม่วงสดอีกแห่งของสหรัฐฯ ปัจจุบัน สำนักงานตรวจสอบพันธุ์พืชและสัตว์ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ กำลังพิจารณาการอนุญาตให้นำเข้ามะม่วงสด (Mangifera Indica L.) จากประเทศปากีสถานมาจำหน่ายในสหรัฐฯ ซึ่งในขณะนี้ สหรัฐฯ อนุญาตให้นำเข้ามะม่วงสดได้จาก 5 ประเทศ คือ อินเดีย เม็กซิโก บราซิล ฟิลิปปินส์ และ ไทย
ปัจจุบัน ปากีสถานเป็นผู้ผลิตมะม่วงสดมากเป็นอันดับที่ 6 ของโลก หรือมีผลผลิตประมาณ 1.6 ล้านตันในปี 2548 มะม่วงปากีสถานเป็นพันธุ์เดียวกับกับมะม่วงอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตมะม่วงมากที่สุดของโลก หรือประมาณร้อยละ 50 ของผลผลิตรวมของโลก (1.อินเดีย 2.จีน 3.ไทย 4.เม็กซิโก และ 5.อินโดนิเซีย ตามลำดับ)
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ กำหนดว่า มะม่วงสดปากีสถานที่จะนำเข้ามายังสหรัฐฯ ต้องเป็นมะม่วงที่ปลูกในพื้นที่เพาะปลูกปลอดแมลง (Pest-Free Area) ต้องได้รับการฆ่าแมลงตามระเบียบของสำนักงาน Animal & Plant Health Inspection Services (APHIS) ด้วยวิธีฉายรังสี (Irradiation) และผ่านการรับรองและตรวจสอบโดยหน่วยงานตรวจสอบพันธุ์พืชของปากีสถาน และ อนุญาตให้นำเข้ามาเพื่อการค้าเท่านั้น (Commercial Consignment)
1. ปัจจุบัน กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ กำลังดำเนินการในด้าน Risk Analysis และ Public Comment การประกาศการอนุญาตให้นำเข้าคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 6 เดือน
2. ปัจจุบัน ไม่มีมะม่วงสดจากอินเดียนำเข้ามาจำหน่ายในสหรัฐฯ (เช่นเดียวกับมะม่วงสดของไทย) ซึ่งต้องผ่านวิธีฉายรังสี และขนส่งทางอากาศไปยังสหรัฐฯ ทำให้มีต้นทุนสูง เป็นผลให้ราคาจำหน่ายปลีกในสหรัฐฯ แพงมาก จึงไม่ประสบความสำเร็จในการขยายตลาด และ ปัจจุบันไม่มีการนำเข้ามะม่วงสดจากไทยและอินเดียมาจำหน่ายในสหรัฐฯ คาดว่า มะม่วงสดของปากีสถานอาจจะเผชิญปัญหาเดียวกันกับมะม่วงสดอินเดียและของไทย
3. กลยุทธ์ในการขยายตลาดผลไม้ไทยในสหรัฐฯ ที่ควรพิจารณาคือ การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพสูงไปลงทุนทำสวนผลไม้เมืองร้อนของไทยในสหรัฐฯ ในกลุ่มประเทศแคริบเบียน หรือ อเมริกากลาง และส่งผลผลิตเข้ามาจำหน่ายในสหรัฐฯ ซึ่งจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าและเป็นการขยายตลาดในระยะยาวที่มั่นคง หรือการแปรรูปผลไม้ไทย ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่า (Value Added) ให้สินค้า
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th