ในช่วง 5 เดือนแรกปี 2553 การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วง เวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ในส่วนของอุตสาหกรรมอาหารมียอดการขายเป็นมูลค่า 36,000 ล้านยูโร ลดลงจากปีก่อนระยะเดียว กันเล็กน้อย เนื่องจากยังคงมีการแข่งขันลดราคาของร้านค้าประเภท Discounter นอกจากนี้ ตลาดเริ่มสนใจConvenience Food ลดน้อยลงเรื่องมา โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา (เม.ย. 2552 - มี.ค. 2553) มียอดขายประมาณ 1,310 ล้านยูโร ลดลงร้อยละ 2 ในขณะที่ปี 2552 มียอดขายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6.5 จากการสำรวจของ LZ Net พบว่า อาหารประเภท Ready to Eat แช่แข็ง ได้รับความนิยมมากจากครอบครัวใหญ่ๆ มีลูกกันแล้ว โดยเฉพาะ พิซซ่า แซนด์วิชและขนมปังมีไส้ต่างๆ ส่วนอาหารกระป๋องประเภทซุ๊ป อาหาร Instant บรรจุถุงพลาสติก ได้รับความสนใจจากครอบครัวประเภท Single และวัยรุ่น สำหรับคนสูงอายุจะนิยมอาหาร สำเร็จรูปอาหารเป็นชุด แช่เย็นมากที่สุด ซึ่งต่อไปจะมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น เนื่องจากส่วนแบ่งผู้สูงอายุในเยอรมนี ตลอดจนใน ประเทศอื่นๆ จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปเยอรมนี มีส่วนแบ่งตลาดและของประเทศคู่แข่งสำคัญๆ ดังนี้
ไก่แปรรูป เบลเยี่ยม 20.0% เนเธอร์แลนด์ 18.9% ไทย 12.2% กุ้งแช่แข็ง เวียดนาม 16.8% บังคลาเทศ 14.4% เนเธอร์แลนด์ 12.3% ไทย 10.7% ข้าว อิตาลี 30.5% เนเธอร์แลนด์ 18.4% เบลเยี่ยม 12.0% ไทย 10.7% กุ้งกระป๋อง ไทย 26.8% เนเธอร์แลนด์ 20.5% เดนมาร์ค 11.1% สับปะรดกระป๋อง ไทย 40.0% เนเธอร์แลนด์ 22.0% เคนยา 17.0% อินโดนีเชีย 14.% ปลาทูน่ากระป๋อง ฟิลิปปินส์ 23.7% เนเธอร์แลนด์ 18.7% เอควาดอร์ 17.5% ไทย 4.3%
ตลอดปี 2553 นี้ มีการคาดการณ์ว่า ทั่วโลกจะมีความต้องการสินค้าอาหารในรูปแบบต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะใน ประเทศกำลังพัฒนา ที่มีแนวโน้มจะมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น ผู้บริโภคในประเทศเหล่านี้จะมีความสามารถ มีกำลังซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น และจะ ให้ความสนใจสินค้าที่แปลกใหม่ รวมทั้งสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นและสินค้าประเภทเกษตรอินทรีย์ เหล่านี้จะเป็นช่องทาง ให้ผู้ผลิตสำคัญๆ จากประเทศอุตสาหกรรมมีความสนใจและต่างมีโครงการที่จะไปลงทุนผลิตสินค้าในประเทศเหล่านั้น
1. ความต้องการสินค้าโดยรวมเพิ่มขึ้นมากและอย่างรวดเร็ว มีเรือบรรทุกสินค้าไม่เพียงพอ เนื่องจากผู้ประกอบการ เดินเรือประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการจอดพักเรือไว้ในช่วงที่ตลาดโลกมีความต้องการสินค้าลดลงมาก การเพิ่มขึ้นของการขนส่งเกิดขึ้น เร็วมากจนผู้ประกอบการปรับตัวไม่ทัน
2. สินค้าไทยยังคงมีปัญหาอยู่ มีการตรวจพบสารเคมี สารพิษ สารต้องห้ามตกค้างในผักและผลไม้สดจากไทยอยู่
3. ตลาดค้าปลีกในเยอรมนีและประเทศอื่นๆ ในยุโรป ยังคงมีการลดราคาเพื่อแย่งชิงส่วนตลาด ทำให้ราคาสินค้าของ ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าถูกดกดันให้เสนอขายในราคาที่ต่ำที่สุด
4. สินค้าของไทยยังคงมีราคาสูงกว่าคู่แข่ง ประกอบกับราคาค่าขนส่งและอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลยูโรและ เหรียญสหรัฐ จึงทำให้ความสามารถในการแข่งขันน้อยลงบ้าง
(ล้านยูโร ปี 2550 ปี 2551 ปี 2552 เพิ่ม/ลด % จำนวนโรงงาน รวมทั้งสิ้น 122,921 132,055 109,572 -16.8 5,001 นมและผลิตภัณฑ์ 18,531 19,082 16,633 -12.8 169 ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ 14,283 14,491 14,035 -3.1 1,122 เนื้อสัตว์ 10,571 13,380 13,234 -1.1 686 ขนมปัง 11,226 12,117 12,209 +0.8 2,521 ขนม ช็อคโกแลต 7,896 8,336 8,169 -2.0 209
(ล้านยูโร) 2550 ปี 2551 ปี 2552 เพิ่ม/ลด % รวมทั้งสิ้น 130,515 138,004 115,583 -16.25 ในประเทศ 107,784 112,919 93,254 -17.42 ต่างประเทศ 22,731 25,085 22,329 -10.99 - อาหารสำเร็จรูป 1,143 +3.7 - อาหารสัตว์เลี้ยงในบ้าน 2,389 +5.9 จำนวนคนงาน : เกษตรกรประมาณ 1 ล้านคน โรงงานแปรรูปอาหาร 500,000 คน ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ เยอรมนี การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยไปเยอรมนี ปี 2551 ปี 2552 ปี 2552 ปี 2553 เพิ่ม/ลด% (ม.ค.-พ.ค.) สินค้าเกษตร (ล้านเหรียญสหรัฐ) รวมทั้งสิ้น 287.7 191.4 68.1 114.5 +68.13 ไก่แปรรูป 63.2 43.7 19.6 20.1 +2.65 กุ้งสดแช่แข็ง 25.5 28.3 9.9 12.4 +24.46 ข้าวหอมมะลิ 10.4 14.6 9.6 9.3 - 2.35 ครัสตาเซีย 7.8 6.7 3.2 4.6 +44.94 สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร รวมทั้งสิ้น 247.8 211.2 85.6 111.5 +30.21 กุ้งแปรรูป 44.9 53.5 18.9 22.6 +19.93 สับปะรดกระป๋อง 40.2 25.8 12.9 11.3 -12.63 ปลาทูน่ากระป๋อง 20.5 10.5 3.2 6.7 +106.46 อาหารสุนัขและแมว 13.7 13.5 5.8 5.9 + 2.12 ผลไม้แปรรูป 11.6 9.0 3.7 4.6 +24.43 ที่มา: กรมศุลกากรไทย ที่มา: http://www.depthai.go.th