ผู้ดำเนินรายการ เท่าที่พูดอยู่ในขณะนี้เป็นวันเสาร์ 30 มิถุนายน ถือว่า หนึ่ง เป็นวันสุดท้ายของครึ่งปีแรก วันที่ 1 กรกฎาคม ก็เริ่มต้นวันแรกของครึ่งปีหลัง ถัดจากนั้นวันที่ 2 กรกฎาคม ครบ 10 ปีที่ประเทศไทยเจอวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยากลำบากกันแทบจะทุกหย่อมหญ้า ท่านนายกฯ ต้องดูแลบริหารประเทศ โดยเฉพาะครึ่งปีหลัง ท่านนายกฯ คิดว่าจะมีความหวังอะไรในครึ่งปีหลังบ้าง และ 10 ปีผ่านมาถึงขณะนี้วิกฤตเศรษฐกิจจะฝืดเคือง จะย้อนกลับไปเป็นเหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้วอีกไหม
นายกรัฐมนตรี ตรงนี้คงพูดได้ว่าจากการที่เราได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจมาในช่วงระยะเวลาประมาณครึ่งปีที่ผ่านมา เราเห็นชัดแล้วว่าแนวโน้มในด้านของการขยายตัวไม่ได้ลดลง ช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวไปร้อยละ 4.3 เราก็ประมาณได้ว่าภายในปีนี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจน่าจะอยู่ประมาณร้อยละ 4-4.5 นั่นเป็นทางมหภาค เมื่อเราดูในทางด้านการส่งออก ก็มีการขยายตัวในช่วงเดือนพฤษภาคมขยายตัวประมาณร้อยละ 20 ถือได้ว่าเป็นเครื่องจักรตัวสำคัญที่ทำให้มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ตัวที่ 2 คือเรื่องการลงทุน มีการลงทุนเข้ามาเพิ่มขึ้น อย่างที่ผมได้ไปลงนามความตกลงความร่ววมือทางเศรษฐกิจที่ประเทศญี่ปุ่น ทางญี่ปุ่นก็กำลังจะมาลงทุนเพิ่มขึ้น การปรับปรุงในเรื่องสภาพแวดล้อมที่มาบตาพุด จะทำให้มีการลงทุนภายในประเทศเพิ่มขึ้น จากบริษัทมหาชนใหญ่ ๆ ปตท. ปูนซิเมนต์ จะมาลงทุนเพิ่มขึ้น ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน แม้กระทั่งผมไปอินเดียจะมีบริษัททางอินเดียจะมาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น การลงทุนเมื่อเพิ่มขึ้นแล้ว เราก็ไปดูในเรื่องของการบริโภค รัฐบาลได้พยายามผลักดันในเรื่องการใช้งบประมาณของรัฐบาลในช่วงไตรมาสสุดท้าย ที่จะให้ลงไปสู่การบริหารจัดการให้มากที่สุด งบประมาณส่วนนี้จะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างงาน ให้เกิดการบริโภคให้มากขึ้น ช่วงต้นปีงบประมาณหน้า จะมีการเพิ่มเงินให้ข้าราชการและพนักงานของรัฐ ประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงินประมาณ 17,000 ล้านบาท ตรงนี้จะเป็นอีกตัวหนึ่งที่จะทำให้มีการขยายตัวในการบริโภคเพิ่มขึ้น ผมคิดว่าโดยภาพรวมเสถียรภาพของค่าเงินบาท การดูแลในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การลงทุนที่เพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่า เศรษฐกิจของเราจะไม่อยู่ในสภาวะที่เป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำหรือฟองสบู่แตกอีกต่อไป
รัฐบาลจะให้มีการจัดการเลือกตั้งภายในสิ้นปีนี้
ผู้ดำเนินรายการ นอกจากนั้นเป็นที่ยอมรับกันว่า ถ้าหากว่าสามารถกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน อะไรก็จะดีขึ้นอีกหลายอย่าง พอเวลาพูดถึงความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งทีไร จะรู้สึกว่ามีความหวัง ตัวเลขทางเศรษฐกิจรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น ทำไมถึงยังกำหนดไม่ได้สักทีครับ
นายกรัฐมนตรี ที่ได้มีการคาดการณ์กันเป็นเรื่องที่เราจะต้องรอ ปัจจัยแรกคือต้องถามว่าร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสมบูรณ์หรือยัง มีการรับรองจากสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือยัง เมื่อผ่านขั้นตอนตรงนี้ ก็ไปสู่การที่จะนำร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านการรับรองแล้วนั้น ให้ประชาชนได้รับทราบทำความเข้าใจ เพื่อไปสู่การลงประชามติ นั่นเป็นอีกขั้นหนึ่ง หลังจากการลงประชามติแล้ว ผมคิดว่าความชัดเจนจะเกิดขึ้นว่าเราจะสามารถกำหนดวันเลือกตั้งได้อย่างไร ขณะนี้เป็นเพียงการพูดกันในเรื่องของแนวความคิดว่า ถ้าเร็วที่สุดจะได้ประมาณไหน และถ้าช้าหน่อยภายในปีนี้ ได้ประมาณไหน ถ้าพูดถึงสิ่งที่เราได้สร้างความเชื่อมั่นไว้กับมิตรประเทศในประเทศต่าง ๆ ซึ่งเขาก็มีความกังวล สิ่งที่เราจะสร้างเชื่อมั่นให้เขาได้คือ เราทำตามที่เราพูด คือมีการเลือกตั้งภายในปีนี้
ผู้ดำเนินรายการ เปิดบ้านพิษณุโลกเสาร์นี้ ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามชมทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ และทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เช้านี้ขอลาไปก่อนครับ ขอขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรีครับ สวัสดีครับ
นายกรัฐมนตรี สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายกรัฐมนตรี ตรงนี้คงพูดได้ว่าจากการที่เราได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจมาในช่วงระยะเวลาประมาณครึ่งปีที่ผ่านมา เราเห็นชัดแล้วว่าแนวโน้มในด้านของการขยายตัวไม่ได้ลดลง ช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวไปร้อยละ 4.3 เราก็ประมาณได้ว่าภายในปีนี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจน่าจะอยู่ประมาณร้อยละ 4-4.5 นั่นเป็นทางมหภาค เมื่อเราดูในทางด้านการส่งออก ก็มีการขยายตัวในช่วงเดือนพฤษภาคมขยายตัวประมาณร้อยละ 20 ถือได้ว่าเป็นเครื่องจักรตัวสำคัญที่ทำให้มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ตัวที่ 2 คือเรื่องการลงทุน มีการลงทุนเข้ามาเพิ่มขึ้น อย่างที่ผมได้ไปลงนามความตกลงความร่ววมือทางเศรษฐกิจที่ประเทศญี่ปุ่น ทางญี่ปุ่นก็กำลังจะมาลงทุนเพิ่มขึ้น การปรับปรุงในเรื่องสภาพแวดล้อมที่มาบตาพุด จะทำให้มีการลงทุนภายในประเทศเพิ่มขึ้น จากบริษัทมหาชนใหญ่ ๆ ปตท. ปูนซิเมนต์ จะมาลงทุนเพิ่มขึ้น ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน แม้กระทั่งผมไปอินเดียจะมีบริษัททางอินเดียจะมาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น การลงทุนเมื่อเพิ่มขึ้นแล้ว เราก็ไปดูในเรื่องของการบริโภค รัฐบาลได้พยายามผลักดันในเรื่องการใช้งบประมาณของรัฐบาลในช่วงไตรมาสสุดท้าย ที่จะให้ลงไปสู่การบริหารจัดการให้มากที่สุด งบประมาณส่วนนี้จะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างงาน ให้เกิดการบริโภคให้มากขึ้น ช่วงต้นปีงบประมาณหน้า จะมีการเพิ่มเงินให้ข้าราชการและพนักงานของรัฐ ประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงินประมาณ 17,000 ล้านบาท ตรงนี้จะเป็นอีกตัวหนึ่งที่จะทำให้มีการขยายตัวในการบริโภคเพิ่มขึ้น ผมคิดว่าโดยภาพรวมเสถียรภาพของค่าเงินบาท การดูแลในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การลงทุนที่เพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่า เศรษฐกิจของเราจะไม่อยู่ในสภาวะที่เป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำหรือฟองสบู่แตกอีกต่อไป
รัฐบาลจะให้มีการจัดการเลือกตั้งภายในสิ้นปีนี้
ผู้ดำเนินรายการ นอกจากนั้นเป็นที่ยอมรับกันว่า ถ้าหากว่าสามารถกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน อะไรก็จะดีขึ้นอีกหลายอย่าง พอเวลาพูดถึงความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งทีไร จะรู้สึกว่ามีความหวัง ตัวเลขทางเศรษฐกิจรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น ทำไมถึงยังกำหนดไม่ได้สักทีครับ
นายกรัฐมนตรี ที่ได้มีการคาดการณ์กันเป็นเรื่องที่เราจะต้องรอ ปัจจัยแรกคือต้องถามว่าร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสมบูรณ์หรือยัง มีการรับรองจากสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือยัง เมื่อผ่านขั้นตอนตรงนี้ ก็ไปสู่การที่จะนำร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านการรับรองแล้วนั้น ให้ประชาชนได้รับทราบทำความเข้าใจ เพื่อไปสู่การลงประชามติ นั่นเป็นอีกขั้นหนึ่ง หลังจากการลงประชามติแล้ว ผมคิดว่าความชัดเจนจะเกิดขึ้นว่าเราจะสามารถกำหนดวันเลือกตั้งได้อย่างไร ขณะนี้เป็นเพียงการพูดกันในเรื่องของแนวความคิดว่า ถ้าเร็วที่สุดจะได้ประมาณไหน และถ้าช้าหน่อยภายในปีนี้ ได้ประมาณไหน ถ้าพูดถึงสิ่งที่เราได้สร้างความเชื่อมั่นไว้กับมิตรประเทศในประเทศต่าง ๆ ซึ่งเขาก็มีความกังวล สิ่งที่เราจะสร้างเชื่อมั่นให้เขาได้คือ เราทำตามที่เราพูด คือมีการเลือกตั้งภายในปีนี้
ผู้ดำเนินรายการ เปิดบ้านพิษณุโลกเสาร์นี้ ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามชมทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ และทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เช้านี้ขอลาไปก่อนครับ ขอขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรีครับ สวัสดีครับ
นายกรัฐมนตรี สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--