ทำเนียบรัฐบาล--2 เม.ย.--บิสนิวส์
วันนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุขวิช รังสิตพล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล "ล้อทองคำ" แก่พนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 60 คน ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนดีเด่น จนได้รับคำชมเชยจากผู้โดยสาร ตามโครงการ "ขสมก.ล้อทองคำ" จัดโดยสถาบันราชภัฎจันทรเกษมร่วมกับชมรมรักรถบัสและขสมก. ทั้งนี้เพื่อสนันสนุนให้กำลังใจแก่พนักงาน ขสมก. ได้มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม
สำหรับพนักงานที่ผ่านการคัดเลือกได้รับรางวัล "ล้อทองคำ" พร้อมเงินสด 5,000 บาท มีจำนวน 12 คน เป็น พนักงานขับรถ 6 คน พนักงานเก็บค่าโดยสาร 6 คน ส่วนอีก 48 คน ได้รับรางวัลเป็นเงินสดคนละ 1,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณทุกรางวัล และการมอบรางวัล "ล้อทองคำ" ในครั้งนี้เป็นรุ่นสุดท้ายนับแต่ที่ได้เริ่มโครงการ "ขสมก.ล้อทองคำ" ตั้งแต่ปี 2539 โดยมีพนักงานที่เคยได้รับรางวัลดังกล่าวมาแล้ว รวมทั้งสิ้น 120 คน
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้แสดงความชื่นชมที่หลายหน่วยงานเห็นความสำคัญขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ โดยร่วมมือกันพัฒนาทั้งให้กำลังใจและให้รางวัลแก่พนักงานที่ทำหน้าที่ให้บริการแก่ประชาชนในสภาพแวดล้อมที่เป็นปัญหาอย่างหนักของคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะปัญหาการจราจรและมลภาวะเป็นพิษ เพราะปัจจุบันมีรถใหม่เพิ่มมากขึ้นจนไม่สามารถขยายถนน รองรับได้ทัน ดังนั้นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมที่ค่อนข้างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องหันมาพัฒนาระบบการขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการจัดอบรมพัฒนาพนักงาน ขสมก. ให้มีความรู้ในด้านกฏจราจร มีระเบียบ วินัย และบริการผู้โดยสารด้วยน้ำใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โดยจัดอบรมอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้ฝากข้อคิดว่า ขณะนี้บุคลากรของขสมก. หรือหน่วยงานที่บริการสาธารณะจากองค์กรอื่นๆ ตลอดจนราชการและเอกชน กำลังขาดแตลนบุคลากรมาก ทั้งนี้เพราะที่ผ่านบ้านเมืองของเราไม่ได้สนับสนุนผู้มีรายได้น้อยและลูกหลานของผู้มีรายได้น้อยให้ได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น จึงทำให้เด็กและเยาวชนขาดโอกาสทางการศึกษาถึง 3 ล้านกว่าคน รัฐบาลจึงได้หาวิธีการที่จะส่งเสริมให้กลุ่มคนดังกล่าว โดยขณะนี้กรมอาชีวะ กระทรวงศึกษาธิการสามารถรับผู้มีรายได้น้อยเข้าศึกษาในวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี 45 แห่งทั่วประเทศได้ 9 หมื่นถึง 1 แสนคน โดยทุกคนที่มาเรียนจะได้รับความรู้ด้านการเกษตรจะได้หาเลี้ยงตนเองและนำผลผลิตไปขายเพื่อเป็นค่าบำรุงการศึกษา ส่วนวิชาบังคับคือการขับรถยนต์ คาดว่าต่อไปในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าหากเยาวชนของชาติได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น การขาดแคลนบุคลากรใน ขสมก. และหน่วยงานด้านอื่นๆ ก็คงหมดไป
ตอนท้ายรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีต่อพนักงานที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับรางวัล ในวันนี้ทุกคน พร้อมกล่าวว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาชื่อเสียงและปฏิบัติภาระหน้าที่ให้สมกับที่ได้รับการคัดเลือก เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่พนักงานคนอื่นๆ ต่อไป--จบ .
วันนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุขวิช รังสิตพล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล "ล้อทองคำ" แก่พนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 60 คน ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนดีเด่น จนได้รับคำชมเชยจากผู้โดยสาร ตามโครงการ "ขสมก.ล้อทองคำ" จัดโดยสถาบันราชภัฎจันทรเกษมร่วมกับชมรมรักรถบัสและขสมก. ทั้งนี้เพื่อสนันสนุนให้กำลังใจแก่พนักงาน ขสมก. ได้มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม
สำหรับพนักงานที่ผ่านการคัดเลือกได้รับรางวัล "ล้อทองคำ" พร้อมเงินสด 5,000 บาท มีจำนวน 12 คน เป็น พนักงานขับรถ 6 คน พนักงานเก็บค่าโดยสาร 6 คน ส่วนอีก 48 คน ได้รับรางวัลเป็นเงินสดคนละ 1,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณทุกรางวัล และการมอบรางวัล "ล้อทองคำ" ในครั้งนี้เป็นรุ่นสุดท้ายนับแต่ที่ได้เริ่มโครงการ "ขสมก.ล้อทองคำ" ตั้งแต่ปี 2539 โดยมีพนักงานที่เคยได้รับรางวัลดังกล่าวมาแล้ว รวมทั้งสิ้น 120 คน
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้แสดงความชื่นชมที่หลายหน่วยงานเห็นความสำคัญขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ โดยร่วมมือกันพัฒนาทั้งให้กำลังใจและให้รางวัลแก่พนักงานที่ทำหน้าที่ให้บริการแก่ประชาชนในสภาพแวดล้อมที่เป็นปัญหาอย่างหนักของคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะปัญหาการจราจรและมลภาวะเป็นพิษ เพราะปัจจุบันมีรถใหม่เพิ่มมากขึ้นจนไม่สามารถขยายถนน รองรับได้ทัน ดังนั้นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมที่ค่อนข้างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องหันมาพัฒนาระบบการขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการจัดอบรมพัฒนาพนักงาน ขสมก. ให้มีความรู้ในด้านกฏจราจร มีระเบียบ วินัย และบริการผู้โดยสารด้วยน้ำใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โดยจัดอบรมอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้ฝากข้อคิดว่า ขณะนี้บุคลากรของขสมก. หรือหน่วยงานที่บริการสาธารณะจากองค์กรอื่นๆ ตลอดจนราชการและเอกชน กำลังขาดแตลนบุคลากรมาก ทั้งนี้เพราะที่ผ่านบ้านเมืองของเราไม่ได้สนับสนุนผู้มีรายได้น้อยและลูกหลานของผู้มีรายได้น้อยให้ได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น จึงทำให้เด็กและเยาวชนขาดโอกาสทางการศึกษาถึง 3 ล้านกว่าคน รัฐบาลจึงได้หาวิธีการที่จะส่งเสริมให้กลุ่มคนดังกล่าว โดยขณะนี้กรมอาชีวะ กระทรวงศึกษาธิการสามารถรับผู้มีรายได้น้อยเข้าศึกษาในวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี 45 แห่งทั่วประเทศได้ 9 หมื่นถึง 1 แสนคน โดยทุกคนที่มาเรียนจะได้รับความรู้ด้านการเกษตรจะได้หาเลี้ยงตนเองและนำผลผลิตไปขายเพื่อเป็นค่าบำรุงการศึกษา ส่วนวิชาบังคับคือการขับรถยนต์ คาดว่าต่อไปในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าหากเยาวชนของชาติได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น การขาดแคลนบุคลากรใน ขสมก. และหน่วยงานด้านอื่นๆ ก็คงหมดไป
ตอนท้ายรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีต่อพนักงานที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับรางวัล ในวันนี้ทุกคน พร้อมกล่าวว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาชื่อเสียงและปฏิบัติภาระหน้าที่ให้สมกับที่ได้รับการคัดเลือก เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่พนักงานคนอื่นๆ ต่อไป--จบ .