นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวผลการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวกฏหมายและประกาศ Wednesday September 12, 2001 15:55 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวผลการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน  
สวัสดี ครับ เพื่อนสื่อมวลชนที่เคารพรัก
วันนี้ผมกลับจากการเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ได้พบปะกับบุคคลสำคัญ ๆ ก็คือ วันแรกได้เข้าเยี่ยมคารวะ ประธานาธิบดี เจียง เจ๋อหมิน และตกเย็นได้ร่วมรับประทานอาหารอย่าง ไม่เป็นทางการกับท่านนายกรัฐมนตรี จู หลง จี และในวันรุ่งขึ้นก็ได้มีการหารือกับท่าน ช่วงบ่ายก็ได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานสภาสมาคมแห่งชาติ ท่านหลี เผิง การหารือข้อราชการระหว่างผมกับท่านนายกรัฐมนตรี จู หลง จี นั้น ก็เป็นการพูดคุย ความคืบหน้าของผลการหารือครั้งที่ท่านมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ แล้วก็ได้มีการติดตามในหลาย ๆ เรื่อง เรื่องแรกก็คือเรื่องของ Currency swap หรือการที่จัดวงเงินไว้ใช้เมื่อยามฉุกเฉิน ที่รัฐบาลจีนจะจัดให้ไทย-จีน ซึ่งจีนได้จัดไว้ให้แล้ว 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นอัตราดอกเบี้ยเดียวกันกับที่ญี่ปุ่นจัด แต่ขณะเดียวกัน เราก็บอกว่าถ้าเพิ่มได้ก็ดี ในฐานะที่เป็นมิตรประเทศ ซึ่งเราก็ต้องเห็นใจในที่จีนก็ต้องมีภาระ เผื่อถูกประเทศอื่นขอ ทางจีนก็เต็มใจที่จะพิจารณาเพิ่มเติมภายหลัง
เรื่องที่ 2 คือพาณิชย์นาวี ซึ่งทางจีนก็ยืนยันว่าจะจัดเรือใหญ่ ซึ่งเรียกว่า เรือแม่ ซึ่งจะมารับสินค้าจากแหลมฉบัง ไปถึงสหรัฐอเมริกา ทำให้ระยะเวลาเดินทางของสินค้าไทยไปสหรัฐอเมริกานั้นลดลงมาก เพราะไม่ต้องไปถ่ายเรือ และค่าระวางเรือก็จะลดลงมาก ซึ่งการเคลื่อนไหวอย่างนี้ได้เริ่มต้นทำให้ค่าระวางเรือของเรืออื่นๆที่คิดกับสินค้าไทย ขณะนี้ได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัดแล้ว นี่ก็เป็นสัญลักษณ์ที่ดี
เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องการค้า จีนได้ซื้อยางพาราไปแล้ว 3 หมื่น 4 พันตัน แล้วก็จะเร่งซื้อที่เหลือต่อให้ครบ 5 หมื่นตัน ส่วนเรื่องข้าวหอมมะลิ ก็จะซื้อไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว ซึ่งขณะนี้ซื้อไป 6 หมื่นกว่าตัน ก็กำลังจะเร่งซื้อให้ครบ 2 แสนกว่าตัน ตามที่เคยซื้อเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลได้บอกจีนว่าไหน ๆ ก็ซื้อแล้วก็ขอให้ซื้อเร็วขึ้นหน่อย เพื่อที่จะทำให้การระบายสินค้าจากไทยเร็วขึ้น เกษตรกรจะได้ขายสินค้าในราคาดีขึ้นในโอกาสต่อไป เรื่องของยาเสพติดนั้น ได้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีได้จบสิ้นแล้ว ทางรัฐบาลจีนรู้สึกพอใจ กับผลการประชุม ของรัฐมนตรี 4 ฝ่าย ที่ปักกิ่ง แล้วก็จะมีการพิจารณานำไปสู่การประชุมในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งไทยได้แสดงเจตจำนง ว่าไทย พร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพ ถ้าทั้ง 4 ฝ่าย เห็นว่าไทยเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าภาพ เราก็ยินดีที่จะเป็นเจ้าภาพ ในการประชุมระดับสูงขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้มีการประกาศใน JC แล้ว
อีกเรื่องก็คือ เรื่องเส้นทาง คุนหมิง และเชียงราย ก็ยังยืนยันให้เจตนารมย์เดิมที่จะร่วมสร้างกับทางรัฐบาลลาว ซึ่งจะมีระยะทางผ่านประเทศลาวประมาณ 200 กว่ากิโลเมตร จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ไทยสร้างส่วนหนึ่ง จีนสร้างส่วนหนึ่ง และลาวสร้างส่วนหนึ่ง ก็จะทำให้การเดินทางจากเชียงรายถึงคุนหมิงโดยรถยนต์ เกิดขึ้นได้ เรื่องสินค้าเกษตร เนื่องจากจีนมีระบบภาษีกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกันนั้น ในอัตราภาษีที่ต่ำเป็นพิเศษ ไทยเราก็เลยได้ขอร้องว่าไทยกับจีนมีความสัมพันธ์กันเป็นพิเศษก็ควรจะใช้ในอัตราภาษีเดียวกัน ซึ่งจีนเห็นว่าเป็นไปได้ ที่จะพิจารณาในเรื่องนี้ เราได้มีการหารือเพิ่มเติมโดยไทยได้เชิญชวน จีนให้มาลงทุนที่ประเทศไทย ลงทุนเพื่อป้อนตลาด ASEAN เนื่องจากว่าเรื่องของ AFTA จะทำให้การที่จะมาลงทุนในไทยป้อนตลาด ASEAN ได้เปรียบในการแข่งขันซึ่งทางจีนก็ได้ให้ความสนใจมาก และร่วมถึงการลงทุนอื่นๆ รัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจของไทยก็ได้ไปคุยกับรัฐมนตรีวางแผนของประเทศ จีนถึงลูทางในการที่จะมาลงทุนในหลาย ๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ TAMC ก็ดี ทำให้ทางรัฐบาลจีนให้ความสนใจ และเข้าใจเรื่องของ matching fund มากขึ้น และสนใจที่จะส่งตัวแทนเข้ามาคุยต่อ
ส่วนเรื่องการบินนั้น ผมได้เสนอแนวทางแทนที่จะเป็นการตกลงสิทธิ ในลักษณะสิทธิการบินที่เท่าเทียมกัน จะทำให้เราเสียเวลาในการที่ต้องเพิ่มเครื่องบิน บางทีเครื่องบินไม่มี แต่ว่านักท่องเที่ยวต้องการจะมาเที่ยว ก็ใช้วิธีการแบ่งผลประโยชน์มากกว่าแทนที่จะมาแบ่งใช้สิทธิการบินที่เท่าเทียมกัน ซึ่งมันเป็นวิธีการที่เสียเวลา แล้วก็ช้า และทำให้เราเสียโอกาสเรื่องของการท่องเที่ยวมาก ก็ทางจีนเห็นว่าวิธีนี้น่าจะเป็นที่น่าสนใจ พร้อมที่จะเจรจาต่อไป
ส่วนเรื่องความมั่นคงนั้น ก็ได้มีการหารือเรื่องปรับปรุงซ่อมแซมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหล่าทัพได้ซื้อจากประเทศจีนมา บางชนิดอาจจะหมดอายุ บางชนิดก็อาจอะไหล่หมด บางชนิดก็อาจจะต้องการ upgrade ซึ่งทางจีนถือว่า ต้องช่วยรับผิดชอบ เพื่อเป็นภาพพจน์ที่ดีของอาวุธจีน ก็จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยลงเรื่องอะไหล่ ถ้าอะไหล่ไหนไม่มีก็จะทำให้ ซึ่งก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ซึ่งเขาก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน อย่างรับผิดชอบอย่างเป็นฉันท์มิตร
เรื่องการศึกษา จีนก็ยินดีที่จะมาตั้งโรงเรียนสอนภาษาจีน ซึ่งผมมองว่าในอนาคตข้างหน้า เศรษฐกิจจีนจะเป็น เศรษฐกิจใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งการรู้ภาษาจีนก็จะเป็นสิ่งที่ดี เขาก็ยินดีจะมาตั้งโรงเรียนสอนภาษา แล้วก็มีความแลกเปลี่ยน เชื่อมโยงกันระหว่างการศึกษาของสองประเทศ เราจะมีการพัฒนาความสัมพันธ์ของเรา ขึ้นไปสู่ความสัมพันธ์ไปสู่ลักษณะความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ หรือเรียกว่าเป็น Strategic Partnership ทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งเรื่องนี้ก็อยู่ในแถลงการณ์ร่วม (JC) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการประกาศในลักษณะนี้ ทำให้ประเทศเรากับประเทศจีนได้ประกาศที่จะร่วมเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย เพื่อความสันติภาพและความสุขของคนในภูมิภาคนี้
ในการเดินทางนี้ได้มีการลงนามร่วมกันอยู่ อันแรกคือ ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรม อันที่สอง คือการจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-จีน จีน-ไทย ซึ่งเหมือนกับสภาธุรกิจของประเทศหลัก ๆ เช่น อเมริกา-ไทย ไทย-อเมริกา ซึ่งที่ผ่านมาเรามีสมาคมมิตรภาพไทย-จีน แต่ว่าอันนั้นค่อนข้างจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ เรื่องของกรอบการค้าการลงทุนนั้น ภาคเอกชนสามารถติดต่อกับเอกชนโดยตรง โดยมีลักษณะของสภาธุรกิจเกิดขึ้น จะทำให้ภาคเอกชนสามารถติดต่อกันได้โดยตรงและรวดเร็ว โดยการสนับสนุนของภาครัฐบาล นอกจากนั้น ก็ได้มีการเซ็นสัญญาภาคเอกชนนะครับ คือวิสาหกิจของรัฐบาลจีน คือ China World Best Group ได้ตัดสินใจลงทุนโดยมาใช้พื้นที่ของสวนอุตสาหกรรมโรจนมาลงทุนในการทำด้านของกรดซีตริก แล้วก็ทำด้านของ Garment
ในแถลงการณ์ร่วมประเด็นที่สำคัญ ๆ ผมขอเพิ่มเติม ก็คล้ายกับเมื่อกี้นะครับ บางข้อก็คือเรื่องของการตั้ง แถลงการณ์ ร่วมก็ย้ำในเรื่องของการตั้งสภาธุรกิจร่วมกัน การพัฒนาความสัมพันธ์ที่มีอยู่ให้เป็นไปสู่การ เป็นมีความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับไทย อันนี้ออกเป็นแถลงการณ์ร่วมเลยนะครับ เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ และความสงบสุขและความมั่งคั่งในการพัฒนาภูมิภาคนี้ เรื่องของ SWAP ก็มีการออกเป็นแถลงการณ์ร่วม เรื่องการลงทุนในไทย เพื่อป้อนตลาดอาเซียน เรื่องของการที่ไทยยืนยันในจีนเดียว ก็เป็นเรื่องที่เรายืนยันนะครับ แล้วก็เรื่องของทางประเทศจีนแสดงความยินดีต่อการที่รัฐบาลไทย ได้มีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดความร่วมมือกันในภูมิภาคแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการที่ให้เอเชียหันกลับมาคบค้ากันเอง ตามที่ผมเคยไปพูดที่ Fortune Global Forum นะครับ และก็เรื่องของยาเสพติดสี่ฝ่ายนะครับ การประชุมยาเสพติดสี่ฝ่าย ซึ่งจีนเห็นด้วยในการ ที่มีความก้าวหน้า มีความร่วมมือที่ดีทั้งสี่ประเทศ เราจะพัฒนาไปสู่การประชุมที่สูงขึ้น เรื่องของ Asia Dialogue ซึ่งเป็นเรื่องหลัก ๆ ที่ทางจีนได้ลงในประกาศนี้ และก็เรื่องของการที่ไทยกับจีนได้แสดงความตั้งใจมุ่งมั่น ที่จะปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิดในเวทีพหุภาคีไม่ว่าจะเป็นอาเซม เอเปค หรือยูเอ็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องที่เกี่ยวกับภูมิภาคและเรื่องขององค์กรนานาชาติทั้งหลาย ทางด้านผู้นำจีนทั้งสามท่าน ได้ฝากถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถมาด้วย ครับทั้งหมดก็เป็นแถลงการณ์ร่วมที่ได้บอกร่วมกัน ซึ่งทางจีนก็ประกาศไปแล้ว ทางเราก็มาบอกกันเดี๋ยวนี้ ครับทั้งหมดก็เป็นผลการเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการครับ
ถาม: เรื่องวงเงินแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ (swap currency) จะมีการลงนามเมื่อไรและที่เราขอเพิ่ม จะขอเพิ่มเท่าไร
ตอบ: วันนั้น ที่เราขอไปถึง 3000ล้าน เราต้องเห็นใจและเข้าใจทางจีนเค้าเหมือนกัน เพราะเค้าก็มีพันธะกรณี กับประเทศอื่น สำหรับประเทศไทยเราถือว่าจีนให้เราพิเศษกว่าประเทศอื่น แต่ว่าจีนยินดีที่จะเพิ่มเงินจำนวนนี้ จริงๆแล้ว ความจำจะต้องใช้แทบจะไม่มี มันเป็นทางจิตวิทยา เพราะจริงๆแล้ว เงินสำรองที่มีขณะนี้มีมากเพียงพอ เราได้คำนวณการใช้เงิน แม้กระทั้งว่าการชำระหนี้ IMF หมด ปริมาณเงินสำรองของเราลดลงไปก็น้อยมาก ยังอยู่ในสภาพที่แข็งแรงมาก เราต้องการทำวงเงินทิ้งไว้ เพื่อผลทางจิตวิทยา ถึงความมั่นคงทางด้านฐานะ ทางการเงินและทางเศรษฐกิจของเรา เพราะฉะนั้นทำไปก็ไม่ได้ใช้ แต่เป็นสิ่งที่จำเป็น ที่จะต้องมีการทำทิ้งไว้ อย่างญี่ปุ่นก็ให้มา 3000 ล้าน ซึ่งเราคิดว่าจีนกับญี่ปุ่นควรจะให้ในระดับเดียวกัน ซึ่งจีนยินดีที่จะรับพิจารณา ด้วยความเต็มใจ แต่ว่าเพื่อความรวดเร็ว จีนอยากให้เราลงนามไปก่อน ซึ่งผู้ว่าธนาคารแห่งชาติของทั้ง 2 ฝ่ายก็คุยกันในรายละเอียดนะครับ
ถาม: จะลงนามได้ซักเมื่อไร
ตอบ: คงไม่ช้า คงเร็วๆนี้ครับ
ถาม: ท่านครับ เรื่องการตั้งโรงงานผลิตเยื่อกระดาษและปลูกป่ายูคาลิปตัส ตกลงได้ขอสรุปอย่างไร
ตอบ: คือเราไปเล่าให้จีนฟัง จีนฟังและก็รู้ถึงปัญหา จีนต้องการการลงทุนนี้เพื่อเสริมมิตรภาพ เพื่อเป็นการช่วยเหลือนำการลงทุนสู่ประเทศไทยมากกว่ามาสร้างปัญหามาให้ไทย ถ้าหากเรายังไม่สบายใจ จีนก็ไม่เร่งรัด แล้วก็จีนขอยืนยันว่าที่ลงทุนสูงถึง 1000ล้านสหรัฐ นั้นก็เพราะต้องใช้เครื่องจักรซึ่งส่วนใหญ่ ไม่ได้ผลิตโดยจีน เป็นเครื่องจักรทันสมัย และที่มีระบบป้องกันมลภาวะอย่างดี เพราะฉะนั้นจีนเลยบอกว่า จีนมั่นใจว่าสิ่งที่นำเสนอไปไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมไทยแน่นอน จีนบอกว่า วันนี้กำลังอยู่ในขั้นการศึกษา ตัวเลขทั้งหลายที่ท่านสื่อมวลชนทราบเป็นตัวเลขขั้นของเพียงการศึกษา ทางเรายังไม่ได้กำหนดแนวทาง ว่าเอาแบบไหน เพราะต้องยึดเหมือนกันว่าความคุ้มทุนในการลงทุนการขนส่งเยื่อกระดาษจากไทยสู่จีน ซึ่งเป็นตลาดถาวร ต้องมีระยะทางที่ไม่ไกลเกินไป ที่คุ้มค่ากับการลงทุน เราต้องยึดตัวท่าเรือเป็นหลัก ถ้าโรงงานอยู่ไกลท่าเรือก็ไม่ไหว หรือว่า ป่าอยู่ไกลโรงงานก็ไม่ไหว ก็ต้องดูว่าเป็นไปได้แค่ไหน ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็ต้องบอกจีนว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะว่ามีหลายประเทศอื่นรองรับที่อยากจะได้อยู่มาก แต่ก็ให้ไทยเราเลือกก่อน
ถาม: หมายความว่าเราควรศึกษาให้เด่นชัดก่อนใช่ไหมครับ
ตอบ: ใช่ครับ ไม่รีบร้อน ทำให้ชัดเจน ให้ระเอียด ได้ไม่มีปัญหา
ถาม: ในสภาพความเป็นจริง ประเทศไทยมี่พื้นที่เป็นแสนไร่ที่จะปลูกป่าหรือไม่ครับ
ตอบ: ถามว่าพื้นที่ว่างเปล่าในไทยยังมีอีกเยอะหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป่าที่หมดสภาพมีเยอะมาก หลายล้านไร่ ซึ่งเราก็ต้องดูว่า 1. ลักษณะของภูมิประเทศ ณ จุดนั้นเหมาะหรือไม่ และระยะทางเป็นอย่างไร ต้องดูกันหลายอย่าง จะดูเฉพาะพื้นที่ว่ามี ไม่มี ไม่ได้
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 6299292,6299491 โทรสาร 2814450
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ