คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ สังข์เงิน ประจำปี 2550 จัดโดยสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย
วันนี้ เวลา 14.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ "สังข์เงิน" ประจำปี 2550 จัดโดยสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย
ดร.พจน์ ใจชาญสุขกิจ นายกสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ได้กล่าวรายงานว่า สมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทยประกาศผล องค์กร โครงการและบุคคลทั้งในหน่วยงานราชการและหน่วยงานภาคเอกชนที่มีผลงานดีเด่นด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อรับรางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ "สังข์เงิน" ครั้งที่ 22 ประจำปี 2550 ที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องและเป็นที่ยอมรับของสังคมโดยรวม รางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ "สังข์เงิน" แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทบุคคล ประกอบด้วย บุคคลด้านวิชาการ บุคคลด้านอาชีพ และผู้ประสบความสำเร็จด้านการประชาสัมพันธ์จากภาครัฐและเอกชน จำนวน 6 รางวัล ได้แก่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี , รศ.ดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ , รศ.สดศรี เผ่าอินจันทร์ , นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง , คุณชาลอต โทณวณิก , พญ.นลินี ไพบูลย์ 2) ประเภทองค์กร (หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานเอกชน) จำนวน 5 องค์กร ได้แก่ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง , กรุงเทพมหานคร, กรมราชทัณฑ์ , สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ สสส. และบริษัท เวิร์คพอยท์ เอนเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) 3) ประเภทโครงการ (หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานภาคเอกชน) จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ การถ่ายทอดการจัดงานพระราชพิธีฉลองสิริ ราชสมบัติครบ 60 ปี และพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย , การประชาสัมพันธ์ยื่นแบบแสดงรายการภาษีทาง Internet ของกรมสรรพากร , โครงการสร้างสรรค์คนพันธุ์อา ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา , โครงการสานรักของเอไอเอส
โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความชื่นชมยินดีที่ได้เห็นองค์กร โครงการ และบุคคล ทั้งที่เป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนได้ให้ความสนใจ และเห็นความสำคัญของประชาสัมพันธ์ สามารถนำมาใช้ส่งเสริมกิจการ และธุรกิจให้เจริญก้าวหน้า และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับรางวัลในวันนี้ นับว่าเป็นผู้ที่มีผลงานดีเด่น ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นที่ยมอรับจากประชาชนทั่วไป และขอเชิญชวนให้บรรดาหน่วยงานและบุคคล ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ได้ตระหนักถึงแนวคิดในการประชาสัมพันธ์ ที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่มุ่งหาแต่กำไร และผลประโยชน์ให้กับหน่วยงานเพียงอย่างเดียว ไปจัดทำโครงการหรือบำเพ็ญตน ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและส่วนรวม เพื่อให้ประชาชนเกิดความรู้สึกเชื่อถือและเลื่อมใสศรัทธาหน่วยงานหรือบุคคลในที่สุดเป็นแนวร่วมโดยใช้กิจกรรมการประชาสัมพันธ์เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในช่วงของการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการจัดระเบียบสังคม เพื่อให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดี มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งประเทศ จึงจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ ร่วมใจและสนับสนุนทั้งด้านความคิด การกระทำ จากทั้งภาครัฐบาลและเอกชน โดยต้องประสานแนวคิดและความเข้าใจให้ไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารประเทศมั่นคง และเศรษฐกิจกลับฟื้นฟูคืนสู่ปกติและเจริญก้าวหน้าต่อไป ข้อมูลข่าวสารและกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก และจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างพลังให้เกิดขึ้นกับมวลชนทุกหมู่เหล่า
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ "สังข์เงิน" ประจำปี 2550 จัดโดยสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย
ดร.พจน์ ใจชาญสุขกิจ นายกสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ได้กล่าวรายงานว่า สมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทยประกาศผล องค์กร โครงการและบุคคลทั้งในหน่วยงานราชการและหน่วยงานภาคเอกชนที่มีผลงานดีเด่นด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อรับรางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ "สังข์เงิน" ครั้งที่ 22 ประจำปี 2550 ที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องและเป็นที่ยอมรับของสังคมโดยรวม รางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ "สังข์เงิน" แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทบุคคล ประกอบด้วย บุคคลด้านวิชาการ บุคคลด้านอาชีพ และผู้ประสบความสำเร็จด้านการประชาสัมพันธ์จากภาครัฐและเอกชน จำนวน 6 รางวัล ได้แก่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี , รศ.ดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ , รศ.สดศรี เผ่าอินจันทร์ , นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง , คุณชาลอต โทณวณิก , พญ.นลินี ไพบูลย์ 2) ประเภทองค์กร (หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานเอกชน) จำนวน 5 องค์กร ได้แก่ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง , กรุงเทพมหานคร, กรมราชทัณฑ์ , สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ สสส. และบริษัท เวิร์คพอยท์ เอนเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) 3) ประเภทโครงการ (หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานภาคเอกชน) จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ การถ่ายทอดการจัดงานพระราชพิธีฉลองสิริ ราชสมบัติครบ 60 ปี และพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย , การประชาสัมพันธ์ยื่นแบบแสดงรายการภาษีทาง Internet ของกรมสรรพากร , โครงการสร้างสรรค์คนพันธุ์อา ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา , โครงการสานรักของเอไอเอส
โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความชื่นชมยินดีที่ได้เห็นองค์กร โครงการ และบุคคล ทั้งที่เป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนได้ให้ความสนใจ และเห็นความสำคัญของประชาสัมพันธ์ สามารถนำมาใช้ส่งเสริมกิจการ และธุรกิจให้เจริญก้าวหน้า และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับรางวัลในวันนี้ นับว่าเป็นผู้ที่มีผลงานดีเด่น ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นที่ยมอรับจากประชาชนทั่วไป และขอเชิญชวนให้บรรดาหน่วยงานและบุคคล ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ได้ตระหนักถึงแนวคิดในการประชาสัมพันธ์ ที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่มุ่งหาแต่กำไร และผลประโยชน์ให้กับหน่วยงานเพียงอย่างเดียว ไปจัดทำโครงการหรือบำเพ็ญตน ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและส่วนรวม เพื่อให้ประชาชนเกิดความรู้สึกเชื่อถือและเลื่อมใสศรัทธาหน่วยงานหรือบุคคลในที่สุดเป็นแนวร่วมโดยใช้กิจกรรมการประชาสัมพันธ์เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในช่วงของการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการจัดระเบียบสังคม เพื่อให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดี มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งประเทศ จึงจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ ร่วมใจและสนับสนุนทั้งด้านความคิด การกระทำ จากทั้งภาครัฐบาลและเอกชน โดยต้องประสานแนวคิดและความเข้าใจให้ไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารประเทศมั่นคง และเศรษฐกิจกลับฟื้นฟูคืนสู่ปกติและเจริญก้าวหน้าต่อไป ข้อมูลข่าวสารและกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก และจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างพลังให้เกิดขึ้นกับมวลชนทุกหมู่เหล่า
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--