เครือข่ายนักวิชาการเพื่อเฝ้าระวังปัญหาแอลกอฮอล์ ได้ยื่นหนังสือข้อเสนอแนะตามมาตรา 30 พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้แก่นายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอความเห็นทางวิชาการให้นายกรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาการปรับแก้กฎหมายดังกล่าวด้วยข้อมูลที่รอบด้าน และครบถ้วน
วันนี้ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี เวลา 08.40 น. ณ บริเวณหน้าตึกสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายนักวิชาการเพื่อเฝ้าระวังปัญหาแอลกอฮอล์ (คฝอ.) นำโดยศร.ดร.ปาริชาติ สถาปิตานนท์ ผู้ประสานงานเครือข่ายนักวิชาการเพื่อเฝ้าระวังปัญหาแอลกอฮอล์ ได้ยื่นหนังสือข้อเสนอแนะตามมาตรา 30 ของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้แก่ นายสมัคร สุทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเสนอความเห็นทางวิชาการให้นายกรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาการปรับแก้กฎหมายดังกล่าวด้วยข้อมูลที่รอบด้าน และครบถ้วน
ทั้งนี้ คฝอ. ขอให้รัฐบาลคงมาตรา 30 ของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551ไว้ และขอให้บังคับใช้อย่างจริงจัง เช่นเดียวกับมาตรา 5,6,7 ของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 ที่บังคับใช้มาเป็นเวลากว่า 15 ปี ซึ่งส่งผลให้จำนวนคนสูบบุหรี่ลดลงอย่างชัดเจนโดยเฉพาะเยาวชน ดังนั้น มาตรา 30 ของ พรบ.ดังกล่าว จึงเป็นมาตรการหนึ่งที่ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างมีประสิทธิผล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับหนังสือดังกล่าวด้วยตนเอง พร้อมกล่าวว่าจะรับไปพิจารณาต่อไป
ตามที่สมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สชอ.) ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2551 เพื่อให้ข้อมูลในการแก้ไข มาตรา 30 ของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ซึ่ง คฝอ. เห็นว่าเป็นการให้ข้อมูลเพียงด้านเดียวจากกลุ่มธุรกิจที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับการเสนอแก้ไข พรบ.ดังกล่าว ซึ่งต้องการแก้ไขเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม โดยเฉพาะกับเยาวชนที่กำลังมีปัญหามากมายอันมีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี เวลา 08.40 น. ณ บริเวณหน้าตึกสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายนักวิชาการเพื่อเฝ้าระวังปัญหาแอลกอฮอล์ (คฝอ.) นำโดยศร.ดร.ปาริชาติ สถาปิตานนท์ ผู้ประสานงานเครือข่ายนักวิชาการเพื่อเฝ้าระวังปัญหาแอลกอฮอล์ ได้ยื่นหนังสือข้อเสนอแนะตามมาตรา 30 ของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้แก่ นายสมัคร สุทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเสนอความเห็นทางวิชาการให้นายกรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาการปรับแก้กฎหมายดังกล่าวด้วยข้อมูลที่รอบด้าน และครบถ้วน
ทั้งนี้ คฝอ. ขอให้รัฐบาลคงมาตรา 30 ของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551ไว้ และขอให้บังคับใช้อย่างจริงจัง เช่นเดียวกับมาตรา 5,6,7 ของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 ที่บังคับใช้มาเป็นเวลากว่า 15 ปี ซึ่งส่งผลให้จำนวนคนสูบบุหรี่ลดลงอย่างชัดเจนโดยเฉพาะเยาวชน ดังนั้น มาตรา 30 ของ พรบ.ดังกล่าว จึงเป็นมาตรการหนึ่งที่ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างมีประสิทธิผล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับหนังสือดังกล่าวด้วยตนเอง พร้อมกล่าวว่าจะรับไปพิจารณาต่อไป
ตามที่สมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สชอ.) ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2551 เพื่อให้ข้อมูลในการแก้ไข มาตรา 30 ของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ซึ่ง คฝอ. เห็นว่าเป็นการให้ข้อมูลเพียงด้านเดียวจากกลุ่มธุรกิจที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับการเสนอแก้ไข พรบ.ดังกล่าว ซึ่งต้องการแก้ไขเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม โดยเฉพาะกับเยาวชนที่กำลังมีปัญหามากมายอันมีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--