นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นจะมีการคัดเลือกบริษัทที่จะยื่นข้อเสนอหลังรับร่างทีโออาร์เพื่อวางแผนบริหารจัดการน้ำให้เหลือ 3 บริษัทหรือมากกว่านั้น ซึ่งบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกอาจจะออกมาในลักษณะ joint venture ที่สามารถยื่นข้อเสนอได้ทั้งงานการออกแบบและงานก่อสร้าง
นายปลอดประสพ ยืนยันว่า การคัดเลือกครั้งนี้จะไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพราะจะทำการคัดเลือกอย่างโปร่งใส การที่ระบุไว้ในเอกสารทีโออาร์ว่าต้องการบริษัทที่ดำเนินโครงการทั้งหมด ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นบริษัทเดียว แต่อาจจะมีจำนวนมากกว่า 1 บริษัทก็ได้ ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการแต่ละลุ่มน้ำ โดยการพิจารณาจะคำนึงถึงความรวดเร็ว ความเหมาะสมของราคา ตรงตามเป้าหมายอย่างชาญฉลาด และสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับคนไทยได้
"ยืนยันว่า จะไม่ให้บริษัทที่เป็นนายทุนของฝ่ายการเมืองที่อาจมีความได้เปรียบในการแข่งขันโครงการ เช่น บมจ. ช.การช่าง (CK) "นายปลอดประสพ กล่าวนายปลอดประสพ ยอมรับว่า ขณะนี้มีบริษัทต่างชาติให้ความสนใจน้อย เพราะต้องรอใบรับรองจากสถานฑูตก่อน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก แต่ก็ยังเหลือเวลาในการลงทะเบียนรับเอกสารอีกหลายวัน
ส่วนขั้นตอนนั้นจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ซึ่งชุดแรกจะเป็นคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นของบริษัทต่างๆที่สนใจให้แล้วเสร็จในวันที่ 24 ก.ค.ส่วนคณะกรรมการชุดที่ 2 จะเป็นคณะกรรมการให้คะแนนเพื่อคัดเลือกบริษัทมาดำเนินโครงการและมีการเรียกมาสัมภาษณ์ด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงหลักเกณฑ์การจ่ายค่าชดเชยพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย โดยที่ประชุมเห็นว่าพื้นที่ทั้งในและนอกเขตชลประทาน และเกิดน้ำท่วมโดยธรรมชาติ รัฐบาลจะมีการจ่ายค่าชดเชยเยียวยาโดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกันเหมือนน่ำท่วมปีที่ผ่านมา
ส่วนพื้นที่ใดที่เกิดน้ำท่วมด้วยการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลจะมีการจ่ายค่าชดเชยเยียวยาในเกณฑ์เดิม พร้อมโบนัสพิเศษที่จะคำนวณจากระยะเวลาน้ำที่ท่วมขังโดยจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.เร็วๆ นี้
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ปีนี้ประชาชนมีความสบายใจได้ว่าน้ำจะไม่ท่วมเหมือนปีก่อน เนื่องจากการเปรียบเทียบสถิติผลกระทบจากสถานการณ์พายุในช่วงนี้เทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่ามีพายุน้อยลง ขณะที่ปริมาณน้ำฝนตั้งแต่ตั้นปี 55 วัดได้น้อยลงคิดเป็นร้อยละ 11เปอร์เซ็นต์
รวมถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำไหลลงอ่างสะสม เมื่อวันที่ 10 ก.ค.55 เท่ากับ 1,125 ล้าน ลบ.ม.ต่ำกว่าปี 54 อยู่ที่ 1,527 ล้าน ลบ.ม.เช่นเดียวกับเขื่อนสิริกิตติ์ที่มีปริมาณน้ำในเขื่อนน้อยกว่าปีที่แล้ว สถานการณ์น้ำในแม่ย้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก ระบายน้ำอย่างต่อเนื่องและต่ำกว่าปีที่แล้วค่อนข้างมาก ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้น้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพมหานคร และพื้นที่อื่นๆ
ส่วนกรณีที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องการให้ตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก่อนดำเนินโครงการนั้นเป็นข้อเสนอที่หวังดี แต่อาจไม่ทันรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ จึงเห็นว่าการดำเนินโครงการในปีนี้จะมีขออนุญาตเป็นรายๆไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกับนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด