โฆษก กมธ.ป.ป.ช. เดินหน้าสอบ สุชัชวีร์ ย้ำดำเนินการอย่างโปร่งใส-ไม่มีธง

ข่าวการเมือง Friday February 4, 2022 17:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปราบการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) แถลงผลการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ของพรรคประชาธิปัตย์ มีเหตุอันควรสงสัยว่าทุจริตต่อหน้าที่และร่ำรวยผิดปกติว่า จากการพิจารณาของ กมธ.ป.ป.ช. พบว่ามีประเด็นที่ต้องตรวจสอบอยู่หลายประเด็น อาทิ ทรัพย์สินที่เพิ่มมากขึ้นในระยะ 1 ปีหลังมานี้ เป็นในส่วนของภรรยา นายสุชัชวีร์ หรือไม่ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่า นายสุชัชวีร์ ได้สมรสกับภรรยาเมื่อใด

นายธีรัจชัย ยืนยันว่า กมธ.ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาและไม่มีธงตั้งว่าจะให้มีความผิด ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่าในช่วงนี้เป็นช่วงใกล้การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ทำไมจึงนำเรื่องนี้เข้ามาพิจารณานั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช.รับเรื่องนี้มาและผู้ที่ร้องเรียนได้มาพูดคุยโดยตรง จากนั้นตนได้รับเรื่องนี้มาตรวจสอบต่ออย่างตรงไปตรงมา

จากการสอบสวนเบื้องต้นจากการตรวจสอบเอกสารของผู้ร้องเรียน ปรากฎว่ามีข้อมูลการเข้ารับตำแหน่งอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ของนายสุชัชวีร์ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2558 จากนั้นยื่นบัญชีทรัพย์สินเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2559 ปรากฏมีทรัพย์สินประมาณ 44 ล้านบาท กระทั่งวันที่ 19 ก.ย. 2563 ดำรงตำแหน่งอธิการบดีครบ 3 ปี นายสุชัชวีร์และภรรยา มีทรัพย์สินประมาณ 74 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 มีทรัพย์สินรวมกับภรรยาประมาณ 342 ล้านบาท ซึ่งในหนึ่งปีหลังนี้ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นประมาณ 267 ล้านบาท

และเมื่อวานนี้ กมธ.ป.ป.ช. ได้เชิญบุคคลมาให้ข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว 2 คน คือ รักษาการอธิการบดี สจล. คนปัจจุบัน ในประเด็นหารือมีเรื่องหน้าที่ของอธิการบดีสจล.มีอะไรบ้าง ทำงานเต็มเวลาหรือไม่ รับงานอย่างอื่นได้หรือไม่ มีรายได้เพิ่มขึ้นได้หรือไม่ และอธิบการบดีมีรายได้เท่าไร มีค่าตอบแทนอะไรบ้าง ซึ่งได้รับคำตอบว่าไม่สามารถไปทำงานอื่นได้ นอกจากอธิการบดีในเวลาราชการ และไม่ได้เบี้ยประชุมในการประชุมอธิการบดี แต่หากไปประชุมที่อื่นจะได้รับเบี้ยประชุม จากข้อมูลที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมาระบุว่าเบี้ยประชุมและโบนัสนั้น ได้รับในปี 2563 จำนวน 5.5 ล้านบาท อีกทั้งเงินเดือนประมาณ 1.4 ล้านบาท มาจากไหนอย่างไร และในส่วนของค่าที่ปรึกษาวิชาชีพวิศวกรรม 3.5 ล้านบาท เมื่อเป็นอธิการบดีแล้วยังได้อยู่หรือไม่ แต่รักษาการอธิการบดีที่เชิญมาตอบว่าไม่ได้ และขอกลับไปนำเอกสารมาชี้แจงภายใน 15 วัน

ส่วนรองอธิบดีกรมสรรพากร ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องการจัดเก็บภาษีนั้น ทางกรมสรรพากรแจ้งว่าช่วง 3 ปีหลัง นายสุชัชวีร์ได้เสียภาษีประมาณ 1 ล้านกว่าบาท และ 9 แสนบาท ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าการเสียภาษีชอบหรือไม่ และรายได้ที่ได้รับนั้น ใช่หรือไม่

ส่วนกรณีมีข้อสังเกตว่าพรรคก้าวไกลก็ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ด้วยเช่นกัน อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนด้วยหรือไม่นั้น ฉะนั้น ในสัปดาห์หน้าที่มีการประชุมกมธ.ป.ป.ช. ตนจะเสนอขอให้เปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบโปร่งใสที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ