ก้าวไกล ค้านกสทช.ใช้เงินกทปส.ซื้อลิขสิทธิ์ชมบอลโลก ท้ารัฐใช้งบกลางแทน-แนะแก้กฎ Must Have

ข่าวการเมือง Wednesday November 9, 2022 12:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสาเหตุที่คัดค้านกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีมติอนุมัติงบซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022 ในวันนี้ (9 พ.ย.) ว่า ไม่ใช่ต้องการขัดลาภแฟนบอลในประเทศไทยไม่ให้ได้รับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ แต่เพราะเห็นว่า กสทช. ไม่ควรที่จะทำผิดกฏหมายด้วยการทำตามใบสั่งของใครบางคน เพราะตามวัตถุประสงค์ของเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) มีไว้เพื่อวิจัยและพัฒนาให้เกิดการบริการสาธารณะอย่างทั่วถึง เช่น การส่งสัญญาณไปในพื้นที่ห่างไกล หรือคนพิการ เด็กและเยาวชนได้เข้าถึงการกระจายเสียงของวิทยุโทรทัศน์ ไม่ได้บอกว่าจะให้นำเงินไปใช้ในการซื้อลิขสิทธิ์ของการถ่ายทอดสดแต่อย่างใด

ดังนั้น หาก กสทช.จะบิดเบือนกฎหมายเพื่อทำในสิ่งที่กฎหมายไม่อนุญาตให้ทำ ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะก่อนหน้านี้เคยเห็นมาแล้วว่า กสทช.มีอำนาจเต็ม แต่กลับไม่ทำตามกฏหมาย ซึ่งกรณีนี้ย้อนแย้งกับกรณีควบรวม บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ที่เป็นหน้าที่ของกสทช. มีอำนาจหน้าที่จะยับยั้งได้ แต่กลับปล่อยให้เกิดขึ้น แต่กรณีนี้กฎหมายไม่มีวัตถุประสงค์ให้ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลกได้ แต่ กสทช. กลับพยายามทำให้ตัวมีอำนาจ

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เงินจำนวน 1,600 ล้านบาท หากเราคำนึงว่าการถ่ายทอดฟุตบอลโลกจะเป็นประโยชน์กับเด็กและเยาวชนที่จะสนใจในเรื่องของกีฬาและหันมาเล่นกีฬามากขึ้น ก็ควรเป็นหน้าที่ของกองทุนพัฒนากีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่จะต้องจ่ายเงินในส่วนนี้

"แน่นอนว่า 1,600 ล้านบาท เป็นเงินจำนวนมาก และหลายหลายแหล่งข่าวก็บอกว่านี่เป็นมูลค่าที่แทบจะสูงที่สุดที่แต่ละประเทศจะต้องจ่าย ขณะที่หลายประเทศ เช่น เวียดนาม มาเลเซีย จ่ายกันไม่ถึง 1,000 ล้านบาทด้วยซ้ำไป และที่สำคัญที่สุดก็คือจนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีเอกชนรายใดที่ติดต่อที่จะซื้อลิขสิทธิ์ในครั้งนี้" น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวมาจากกฎ Must Have และ Must Carry ของ กสทช.เอง ที่กำหนดให้การถ่ายทอดสดกีฬาสำคัญ จำเป็นจะต้องถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีเท่านั้น ทำให้เอกชนที่เป็นระบบกระจายเสียงผ่านการสมัครสมาชิก หรือเพลย์ทีวีคิดว่าไม่คุ้มทุนในการซื้อลิขสิทธิ์ที่แพงมาก โดยกฎนี้ทำให้ไม่สามารถต่อรองขอลดราคาลิขสิทธิ์ได้ และเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์สูง เนื่องจากเราจำเป็นต้องซื้อลิขสิทธิ์สำหรับการถ่ายทอดทุกช่องทาง

น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า หากมั่นใจว่าการถ่ายทอดสดครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง ก็ให้อนุมัติงบกลางของรัฐบาลไปเลย ไม่ควรจะไปใช้เงินของกองทุน กสทช. ที่ตัวเองไม่ได้มีอำนาจตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของใบสั่งแน่นอน เพราะพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดเองว่า ไม่อยากรบกวนเงินของเอกชน

สำหรับทางออกที่ดีที่สุด น.ส.ศิริกัญญา มองว่า แทนที่จะมีมติอนุมัติเงินหรือไม่ กสทช. ควรมีมติทบทวนกติกา Must Have Must Carry เพื่อเปิดโอกาสให้กับเอกชนเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์ และทำกำไรได้ มองว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้กับทุกฝ่าย และไม่จำเป็นต้องใช้เงินภาษีของประชาชน และหากพลาดในช่วงแรกไป ก็คงไม่เป็นไร เพราะส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนน่าจะอยากดูฟุตบอลโลกรอบลึกๆ

ส่วนในเรื่องการควบรวมของ TRUE และ DTAC นั้น น.ส.ศิริกัญชา กล่าวว่า ตนยังติดตามเรื่องนี้อยู่ โดยวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.) เวลา 09.09 น. ตนจะเดินทางไปยื่นต่อศาลปกครองให้เพิกถอนมติ กสทช. และวันที่ 11 พ.ย. จะไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ