ธนาคารกลางจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) ว่า นโยบายปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนเป็นสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวช้าลงตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้
โดยเศรษฐกิจจีนขยายตัว 11.9% ในไตรมาสแรกของปีนี้เมื่อเทียบรายปี ก่อนที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 10.3% ในไตรมาส 2 และ 9.6% ในไตรมาส 3
ธนาคารกลางจีนระบุในรายงานไตรมาส 3 ซึ่งได้รับการเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจที่ขยายตัวช้าลงยังสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการควบคุมราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้น การควบคุมตัวเลขหนี้สินของรัฐบาล รวมถึงการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซพิษ
นอกจากนั้นรายงานยังระบุว่าไม่ควรเพิกเฉยต่อแรงกดดันด้านราคา หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ขยายตัว 3.6% ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบ 23 เดือน
ดัชนีซีพีไอขยายตัว 2.2%, 2.9% และ 3.5% ในไตรมาสแรก ไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ตามลำดับ ส่วนในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ดัชนีขยายตัวรวมกัน 2.9% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากราคาอาหารซึ่งมีสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของดัชนี มีการขยายตัวถึง 6.1% ในช่วงเวลาดังกล่าว
รายงานของธนาคารกลางจีนยังระบุว่า ราคาธัญพืชอาจปรับตัวสูงขึ้นอีกในปีหน้า เนื่องจากต้นทุนทำการเกษตรเพิ่มขึ้น ขณะที่ดีมานด์จากภาคอุตสาหกรรมก็เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนั้นราคาอาหารโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นยังอาจทำให้เกษตรกรไม่มีความต้องการที่จะขายผลผลิตในประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจะควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงเกิน 3% ในปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน