จู เป่าเหลียง รองผู้อำนวยการฝ่ายคาดการณ์เศรษฐกิจของศูนย์ข้อมูลแห่งรัฐจีนเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนอาจเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 4% ในปี 2554 หรืออาจสูงกว่าระดับดังกล่าว
โดยตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของจูตั้งอยู่บนปัจจัยหลายประการ อาทิ ปัจจัยด้านราคาสินค้าที่ยังคงพุ่งสูงขึ้นในปีหน้า โดยราคาสินค้าขั้นปฐมภูมิอาจขยายตัวขึ้น 3 - 5% จากปัจจัยกระตุ้นของการปฏิรูปภาษีทรัพยากร รวมถึงราคาอสังหาริมทรัพย์และผลผลิตทางการเกษตรที่คาดว่าจะไต่ระดับขึ้นในปีหน้า
ขณะเดียวกัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจจีจะชะลอตัวลงในปี 2554 เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกาศใช้เพื่อรับมือวิกฤตการเงินโลกตั้งแต่เมื่อปี 2551 ได้สิ้นสุดลง
-- หลิว ชีจิน รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาของสภาแห่งรัฐจีน หรือ คณะรัฐมนตรีจีนคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนในช่วง 3-5 ปีหน้าอาจชะลอตัวมาอยู่ที่ระดับ 7% จากปัจจุบันนี้ที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 10% หลิว กล่าวว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่ ภาวะต้นทุนสินค้าที่แพงขึ้น รวมถึงราคาสินค้าที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะสภาพคล่องล้นระบบ โดยเฉพาะหลังจากที่สหรัฐใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง
-- จง ชาน รองรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีน (MoC) กล่าวว่า มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของจีนมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ และจีนตั้งเป้าบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศที่มีการค้าแข็งแกร่งภายใน 20 ปี
-- หลี่ หยีจง รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนคาดการณ์ว่า ผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมของจีนในปี 2553 มีแนวโน้มขยายตัวอย่างน้อย 13.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
หลี่คาดว่า ปริมาณการใช้พลังงานต่อยูนิตของผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง 4% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลในการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซธรรมชาติ โดยอัตราการใช้พลังงานต่อยูนิตของผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง 1.25% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน