สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) โดยสัญญายังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,400 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อทั่วโลกได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความต้องการทองคำที่สูงขึ้นในภูมิภาคเอเชีย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,403.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,396.50 - 1,417.60 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 54.00 เซนต์ ปิดที่ 27.405 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.35 เซนต์ ปิดที่ 4.0225 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 7.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,745.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 7.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 704.15 ดอลลาร์/ออนซ์
เทรดเดอร์กล่าวว่า ตลาดทองคำได้แรงหนุนหลังจากที่ความแข็งแกร่งของสกุลเงินดอลลาร์เริ่มลดน้อยลง ซึ่งช่วยพยุงสัญญาทองคำให้สามารถเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 1,400 ดอลลาร์ได้ ขณะเดียวกันนักลงทุนพากันจับตาการส่งสัญญาณเรื่องแนวโน้มค่าเงินจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ที่กรุงโซลของเกาหลีใต้
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อทั่วโลกยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นเมื่อสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนเดือนต.ค.ขยายตัวขึ้น 4.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งทำสถิติสูงสุดของปีนี้
นักวิเคราะห์คาดว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ของสหรัฐจะส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดโลกสูงเกินไป และจะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดทองคำเพิ่มขึ้นอีกด้วย