ซามูเอล รุมบาจาน นายกสมาคมกระจกตัดและกระจกนิรภัยของอินโดนีเซีย คาดว่า อุตสาหกรรมกระจกของประเทศจะเติบโต 6% ในปี 2554 ต่อเนื่องจากปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 5.5%
นายรุมบาจาน ระบุว่า อุตสาหกรรมกระจกของอินโดนีเซียเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยทางหน่วยงานของเขาสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดภายในประเทศและความต้องการกระจกคุณภาพสูงจากต่างประเทศ
"อุตสาหกรรมกระจกในอินโดนีเซียมีขนาดใหญ่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีจำนวนผู้ผลิตกระจกมากที่สุดในภูมิภาค ส่งผลให้อินโดนีเซียมีบทบาทสำคัญต่อตลาดกระจกของภูมิภาค" นายรุมบาจานกล่าว
นายรุมบาจานกล่าวต่อไปว่า อินโดนีเซียส่งออกกระจก 50% จากกำลังการผลิตติดตั้งที่ 45,000 ตัน/วัน ซึ่งผลิตโดย 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ของอินโดนีเซีย ได้แก่ พีที อาซาฮี กลาส, มูเลีย กลาส และ โทซ่า
นอกจากนี้ รุมบาจานกล่าวว่า อินโดนีเซียยังยินดีต้อนรับนักลงทุนต่างประเทศในการพัฒนาอุตสาหกรรมกระจกภายในประเทศ ด้วยการจัดงาน GlassTech Asia ครั้งที่ 9 ในกรุงจาการ์ตา ระหว่างวันที่ 23-25 พ.ย. 2554 โดยมีบริษัทตอบรับเข้าร่วมงานแลัวประมาณ 250 บริษัทจาก 30 ประเทศทั่วโลก
"ผมหวังว่าเราจะได้มีโอกาสต้อนรับนักลงทุนที่มีความสนใจในอุตสาหกรรมกระจกของอินโดนีเซีย" นายรุมบาจานกล่าว
ด้านเอ็ดเวิร์ด หลิว กรรมการผู้จัดการบริษัท คอนเฟอเรนซ์ แอนด์ เอ็กซิบิชั่น เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดงาน GlassTech Asia 2011 กล่าวว่า ปัจจุบันมีอุปสงค์อยู่มากเกินกว่าที่อุตสาหกรรมกระจกในภูมิภาคจะสามารถตอบสนองได้
"เนื่องจากอุตสาหกรรมที่ต้องการกระจกเป็นวัตถุดิบเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการกระจกจึงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ" นายเอ็ดเวิร์ดกล่าว
ในขณะเดียวกัน กาน ชี เสียง นายกสมาคมกระจกของสิงคโปร์ กล่าวว่า นักลงทุนสิงคโปร์ไม่น่าจะสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมกระจกของอินโดนีเซีย เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตกระจกของอินโดนีเซียมีขนาดที่ใหญ่อยู่แล้ว
"เราไม่มีความสามารถมากพอที่จะเข้าไปแข่งขัน อย่างไรก็ตาม หากเรามีโอกาสที่จะลงทุนในอินโดนีเซีย เราคงไม่พลาดที่จะคว้าโอกาสนั้นไว้อย่างแน่นอน" นายกานกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน