ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ถือบัตรเครดิตในจีนปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนพ.ย. 2553 หลังจากที่รัฐบาลได้นำมาตรการต่างๆมาใช้เพื่อควบคุมราคาสินค้า
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ถือบัตรเครดิต (BCCI) ซึ่งรวบรวมโดยสำนักข่าวซินหัว และ ไชน่า ยูเนี่ยนเพย์ ซึ่งเป็นสมาคมอุตสาหกรรมบัตรเครดิตในจีน อยู่ที่ระดับ 85.86 จุดในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 00.17 จุดเมื่อเทียบกับเดือนต.ค. แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติเดือนพ.ย. 2552 นั้น ดัชนี BCCI เดือนพ.ย.อ่อนตัว 0.81 จุด
ข้อมูลชี้ให้เห็นว่า การใช้จ่ายของผู้ถือบัตรเครดิตกับสินค้าที่มีความจำเป็นนั้น ลดลง 3.7% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนพ.ย. ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดิอนมิ.ย. ขณะที่การใช้จ่ายกับสินค้าที่ฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องประดับและความบันเทิงนั้น เพิ่มขึ้น 4.1% จากระดับเดือนต.ค.
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเดือนพ.ย.ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ขณะที่นักเศรษศาสตร์จำนวนมากคาดว่า ดัชนี CPI จะสูงขึ้น หลังจากที่ดัชนีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือนที่ 4.4%
ราคาสินค้าที่สูงขึ้นทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการต่างๆเพื่อควบคุมราคา ซึ่งมีทั้งการเพิ่มอุปทานสินค้าที่จำเป็น และการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ยากจน
เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้สั่งการให้แบงค์ต่างๆขึ้นเพดานสำรอง หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปีเมื่อเดือนต.ค.
ทางด้านสถาบันสังคมศาสตร์ของจีนก็ระบุในรายงานว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อนั้นสูงขึ้น และสภาพคล่องที่สูงเกินไปก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนี CPI ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต และคาดว่า ราคาผู้บริโภคตลอดทั้งปี 2553 จะขยายตัวขึ้น 3.2% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายตลอดทั้งปีของรัฐบาลที่ 3%
ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวและไชน่า ยูเนียนเพย์ได้รวบดัชนี BCCI เมื่อเดือนเม.ย. 2552 บนพื้นฐานของข้อมูลการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต และการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างของการบริโภคในเมือง