คณะกรรมการประสานงานด้านสถิติของฟิลิปปินส์ (NSCB) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฟิลิปปินส์ขยายตัว 7.3% ในปี 2553 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี เนื่องจากภาคการผลิตและการบริการที่เติบโตแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมทะยานขึ้นถึง 12.1% ขณะที่ภาคบริการโต 7.1% อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์เอลนินโญที่ทำให้เกิดสภาวะอากาศแห้งแล้ง ได้ส่งผลกระทบให้ภาคการเกษตรหดตัว 0.5%
โรมูโล วิโรลา เลขาธิการ NSCB กล่าวว่า แม้จะเกิดปรากฏการณ์เอลนินโญ รวมถึงการใช้จ่ายที่ลดลงของรัฐบาลในช่วงครึ่งปีหลัง แต่เศรษฐกิจในประเทศก็ยังสามารถขยายตัวที่ระดับสูงสุด โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้ช่วยส่งเสริมการขยายตัวของการผลิตและการส่งออก ขณะที่การเลือกตั้งทั่วประเทศเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วได้กระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค
การจัดการเลือกตั้งได้อย่างสงบเรียบร้อย และการฟื้นคืนความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล มีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจในปี 2553 ขยายตัวเกินเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 5.0 - 6.0%
ในไตรมาส 4 เพียงไตรมาสเดียว GDP ฟิลิปปินส์ขยายตัว 7.1% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและการบริการที่ขยายตัวแข็งแกร่งในไตรมาสสุดท้ายของปี 2553