สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้เมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากการก่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อยังกระตุ้นให้นักลงทุนถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1340.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,326.00 - 1,344.10 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 34.50 เซนต์ ปิดที่ 28.514 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 8.85 เซนต์ ปิดที่ 4.5470 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 32.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,833.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 3.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 823.55 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้สัญญาทองคำมีมูลค่าน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์ (dollar index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินของประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐ ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อ อันเนื่องมาจากราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้น 7.7% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากเหตุการณ์จลาจลในอียิปต์ส่งผลให้เกิดความกังวลเรื่องการลำเลียงน้ำมันจากคลองสุเอซไปยังภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงยุโรป
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถือครองทองคำเพิ่มขึ้นเป็น 1,227.153 ตัน ณ วันที่ 31 ม.ค. เพิ่มขึ้น 3.035 ตันจากระดับ 1,224.118 ตันของวันที่ 28 ม.ค. โดยทางกองทุนได้เพิ่มการถือครองทองคำเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.