สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร และราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 7.90 ดอลลาร์ หรือ 0.5% แตะที่ 1,523.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,513.20-1,529.00 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.224 ดอลลาร์ ปิดที่ 36.128 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2.15 เซนต์ ปิดที่ 4.013 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 6.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,762.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ดีดขึ้น 3.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 735.25 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนักวิเคราะห์คนหนึ่งในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า ความตื่นตระหนกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซนซึ่งสะท้อนถึงความเปราะบางของเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในยุโรปนั้น ยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบและทองคำ โดยคาดว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,565 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยต่ำในสหรัฐจะกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในรอบ 12 เดือนขึ้นสู่ระดับ 130 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 107 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลงเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนสัญญาทองคำพุ่งขึ้นด้วย