สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและวิกฤตหนี้ยุโรปยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 7.60 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,549.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,542.10-1,557.60 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 84.50 เซนต์ ปิดที่ 35.698 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 4.4 เซนต์ ปิดที่ 4.368 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปรับตัวลง 5.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,728.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 11.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 767.45 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป และการเจรจรที่ยังไม่คืบหน้าเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างรัฐบาลและรัฐสภาสหรัฐ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
"ความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับการปรับเพดานหนี้ในการประชุมรัฐสภา ประกอบกับตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐ ได้ผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง" ไมค์ ดาลี นักวิเคราะห์ด้านทองคำจากบริษัท PFGBEST Group ในเมืองชิคาโกกล่าว
นักลงทุนกังวลว่าปัญหาหนี้ยุโรปอาจจะลุกลามไปยังอิตาลีและสเปน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้น 0.30% แตะที่ 5.5%
อย่างไรก็ตาม สัญญาโลหะที่ใช้ในแวดวงอุตสาหกรรม รวมถึงพลาตินัมและพัลลาเดียม ร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้ยุโรปและการชะลอตัวลงเศรษฐกิจสหรัฐอาจส่งผลให้ความต้องการโลหะลดน้อยลงด้วย