สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทรุดฮวบลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดต่างๆทั่วโลกทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและเทขายทองคำเพื่อถือเงินสดเอาไว้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 101.9 ดอลลาร์ หรือ 5.9% ปิดที่ 1,639.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 6.477 ดอลลาร์ ปิดที่ 30.101 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 20.85 เซนต์ หรือ 6% ปิดที่ 3.28 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 97.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,613.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 21.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 642.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและเทขายสัญญาทองคำเพื่อถือเงินสดเอาไว้ หลังจากตลาดหุ้นและตลาดต่างๆทั่วโลกร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาดคือแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเผชิญกับช่วงขาลง
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า นักลงทุนผิดหวังที่เฟดตัดสินใจใช้มาตรการ 'Operation Twist' หรือการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 6-30 ปีวงเงิน 4 แสนล้านดอลลาร์และขายพันธบัตรอายุ 3 ปีหรือต่ำกว่าออกมาในเวลาเดียวกันและในวงเงินที่เท่ากัน โดยนักลงทุนไม่มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพมากพอ จึงได้กระหน่ำขายหุ้น, สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ และทรัพย์สินประเภทอื่นๆที่มีความเสี่ยง เพื่อระดมเงินสดที่ได้ไปซื้อพันธบัตรซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า
ไมค์ ดาลี นักวิเคราะห์ด้านทองคำจากบริษัทพีเอฟจีเบส์ ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า การที่นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างหนัก นอกจากนี้ การที่ผู้นำยูโรโซนยังไม่สามารถหาทางแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะได้นั้น ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำออกมาอย่างหนักด้วย