
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนก.ย.68 มียอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 8,156 ราย เพิ่มขึ้น 515 ราย (6.74%) เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.68 (7,641 ราย) และเพิ่มขึ้น 289 ราย (3.67%) เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.67 (7,867 ราย) ขณะที่ทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 19,867 ล้านบาท ลดลง 3,322 ล้านบาท (-14.32%) เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.68 (23,189 ล้านบาท) และลดลง 2,181 ล้านบาท (-9.89%) เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.67 (22,049 ล้านบาท)
โดยภาพรวมการจัดตั้งธุรกิจใหม่ ช่วงไตรมาส 3/2568 (ก.ค.-ก.ย.68) มีจำนวนรวม 23,507 ราย เพิ่มขึ้น 3,492 ราย (17.45%) เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2568 (20,015 ราย) และเพิ่มขึ้น 204 ราย (0.88%) เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2567 (23,303 ราย) มีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกว่า 65,074 ล้านบาท ลดลง 4,146 ล้านบาท (-5.99%) เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2568 (69,220 ล้านบาท) และเพิ่มขึ้น 1,671 ล้านบาท (2.64%) เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2567 (63,403 ล้านบาท)
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์พบว่า ไตรมาส 3 ปี 2568 มีจำนวนการจัดตั้งธุรกิจใหม่สูงขึ้นใกล้เคียงไตรมาส 1 ซึ่งโดยปกติแล้ว แนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจใหม่จะสูงที่สุดในไตรมาส 1 และลดลงในไตรมาสถัดไปจนถึงไตรมาส 4 ถือว่ามีการขยับตัวของภาคธุรกิจในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับการจัดตั้งธุรกิจใหม่ช่วง 9 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-ก.ย.) มีจำนวน 67,345 ราย ลดลง 2,341 ราย (-3.36%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 (69,686 ราย) ขณะที่ทุนจดทะเบียน 214,214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,733 ล้านบาท (2.75%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 (208,481 ล้านบาท)
ส่วนการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการในเดือนก.ย.68 มีจำนวน 2,150 ราย เพิ่มขึ้น 490 ราย (29.52%) เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.68 (1,660 ราย) และลดลง 104 ราย (-4.61%) เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.67 (2,254 ราย) และมีทุนจดทะเบียนเลิก 5,556 ล้านบาท ลดลง 6,777 ล้านบาท (-54.95%) เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.68 (12,334 ล้านบาท) และลดลง 11,056 ล้านบาท (-66.55%) เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.67 (16,612 ล้านบาท)
โดยการจดทะเบียนเลิกกิจการช่วงไตรมาส 3/2568 (ก.ค.-ก.ย.68) มีจำนวน 5,635 ราย เพิ่มขึ้น 2,498 ราย (79.63%) เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2568 (3,137 ราย) แต่ลดลง 572 ราย (-9.22%) เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2567 (6,207 ราย) มูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกรวมกว่า 38,046 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,361 ล้านบาท (104%) เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2568 (18,685 ล้านบาท) ขณะที่มีจำนวนทุนจดทะเบียนเลิกลดลง 1,211 ล้านบาท (-3.08%) เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2567 (39,257 ล้านบาท)
"จากสถิติการจดทะเบียนเลิกย้อนหลัง 5 ปี พบว่า ปี 2568 มีจำนวนการจดเลิกลดลงจากปี 2566 และ 2567 และยังอยู่ในสถานการณ์ปกติ" นายพูนพงษ์ ระบุสำหรับการจดทะเบียนเลิกกิจการในช่วง 9 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-ก.ย.) มีจำนวน 11,879 ราย ลดลง 367 ราย (-3%) เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนของปี 2567 (12,246 ราย) ทุนจดทะเบียนเลิกสะสมอยู่ที่ 68,590 ล้านบาท ลดลง 47,415 ล้านบาท (-40.87%) เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนของปี 2567 (116,005 ล้านบาท) โดยคิดเป็นอัตราการจัดตั้งใหม่ต่อการจดเลิกธุรกิจเฉลี่ยอยู่ที่ 6 ต่อ 1 ถือเป็นค่าเฉลี่ยตลอด 5 ปี ย้อนหลัง
โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย.68) มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 2,032,174 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 31.28 ล้านล้านบาท โดยมีนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ 976,857 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 22.94 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 774,201 ราย หรือ 79.26% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 17.17 ล้านล้านบาท ห้างหุ้นส่วนจำกัด และห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 201,156 ราย หรือ 20.59% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 0.44 ล้านล้านบาท และบริษัทมหาชนจำกัด 1,500 ราย หรือ 0.15% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 5.33 ล้านล้านบาท
สำหรับนิติบุคคลในกลุ่มธุรกิจบริการ เป็นประเภทธุรกิจที่มีสัดส่วนการจดทะเบียนมากที่สุด จำนวน 530,171 ราย ทุนจดทะเบียน 13.28 ล้านล้านบาท รองลงมาคือ กลุ่มธุรกิจค้าส่ง/ค้าปลีก 319,843 ราย ทุน 2.61 ล้านล้านบาท และธุรกิจผลิต 126,843 ราย ทุน 7.05 ล้านล้านบาท คิดเป็น 54.27%, 32.74% และ 12.99% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ตา