ผลการสำรวจซึ่งจัดทำโดยรัฐบาลญี่ปุ่นในวันนี้ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้น 0.6% จากเดือนก.พ. แตะที่ 44.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2550 หลังจากนโยบายเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ช่วยฉุดเงินเยนให้อ่อนค่าลงและหนุนตลาดหุ้นให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีความหวังมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นลบต่อเศรษฐกิจ มีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเป็นบวก
ผลการสำรวจระบุว่า 71.8% ของครัวเรือนที่ตอบแบบสำรวจคาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 69.5% ที่สำรวจในเดือนก.พ. โดยสะท้อนให้เห็นว่าคำมั่นสัญญาของฝ่ายบริหารของนายอาเบะและธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่จะผลักดันเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยอันเนื่องมาจากเงินฝืดนั้น ได้หนุนการคาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังระบุว่า ความเต็มใจในระยะใกล้ของผู้บริโภคในการซื้อสินค้าคงทนใหม่ๆนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7 จุด สู่ระดับ 46.1 และการประเมินเกี่ยวกับการขยายตัวของรายได้ ทรงตัวอยู่ที่ 41.6 สำนักข่าวเกียวโดรายงาน