โดยสัปดาห์หน้า ส.อ.ท.เตรียมจะเสนอมาตรการสร้างความมั่นคงด้านไฟฟ้าต่อนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน รวมทั้งหมด 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.ขอให้ทบทวนแผนพลังงานไฟฟ้าของประเทศโดยมีกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองที่เพียงพอต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาคใต้ และมีการกระจายโรงไฟฟ้าในทุกภูมิภาครวมถึงกระจายประเภทเชื้อเพลิงในการผลิตเพื่อลดการพึ่งพาการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ปัจจุบันมากถึงเกือบ 70% 2.สร้างความมั่นคงและสถียรภาพในระบบไฟฟ้าทั่วประเทศ โดยมีการบริหารความเสี่ยงการจัดการและการแก้ปัญหา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ 3.สนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเช่น เชื้อเพลิงชีวมวลและชีวภาพ และ 4.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนด้านพลังงานไฟฟ้า
ด้านนายพีระ เพชรพาณิชย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ กล่าวว่า เบื้องต้นพบว่าความเสียหายจากกรณีไฟฟ้าดับใน 14 จังหวัดภาคใต้ เฉลี่ย 3 ชั่วโมงอยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท แต่การที่ไฟฟ้าดับในช่วงสถานประกอบการหยุดผลิตทำงานไปแล้วบางส่วน ยกเว้นโรงงานผลิตยางพารา โรงงานปาล์มน้ำมัน และโรงงานอาหารทะเลแช่แข็งที่ต้องทำงาน 24 ชั่วโมง ความเสียหายจึงลดลงคาดว่า ไม่เกิน 300 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จะรวบรวมความเสียหายที่ชัดเจนอีกครั้ง ขณะนี้สมาชิกอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายที่ชัดเจน
สำหรับมาตรการที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือมี 4 ข้อ คือ 1.ขอให้ภาครัฐจัดหาพลังงานสำรองให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในอนาคตทั้งภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน ซึ่งมีแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคการผลิตมีการใช้ไฟฟ้าขยายต้ว 8%ต่อปี
2.ขอให้ภาครัฐส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีศักยภาพสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองในสถานประกอบการ เช่น การผลิตไฟฟ้าจากชีวภาพ ชีวมวล โดยใช้เชื้อเพลิงจากกากวัสดุที่เหลือจากกระบวนการผลิต และสนับสนุนราคารับซื้อไฟฟ้า หรือแอดเดอร์ จากเอกชนในอัตราที่เหมาะสม
3.ขอให้ภาครัฐแสดงความจริงใจในการแก้ไขกฎระเบียบว่าด้วยการอนุญาตให้ก่อสร้างงานผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองหรือจำหน่ายในพื้นที่ใกล้เคียง
4.ขอให้ภาครัฐทบทวนมาตรการภาษีสำหรับการนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิตกระแสไฟฟ้า