นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดมาเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.36/37 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ 32.29/30 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุดเงินบาทขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32.38/39 บาท/ดอลลาร์
"มีแรงซื้อค่อนข้างรุนแรงจาก Off Shore ซื้อมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังเที่ยงคืนเงินบาทก็กระโดดขึ้นมาจาก 32.30 มาที่ 32.35 ล่าสุดมา High ของวันที่ 32.38 และตอนนี้ก็ยังซื้อกันไม่หยุด คาดว่าน่าจะเป็น Agent" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้ตลาดน่าจะเคลื่อนไหวแคบๆ รอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนประเด็นเรื่องศาลรัฐธรรมนูญจะลงมติเรื่องร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มองว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อค่าเงินโดยตรง
"หลักๆวันนี้น่าจะเป็นเรื่อง กนง.และจับตาแรงซื้อที่สงสัยกันว่าใช่จาก Agent จริงๆหรือเปล่า"นักบริหารเงิน กล่าวดังนั้น ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ระหว่าง 32.25-32.45 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.3817 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (11 มี.ค.) อยู่ที่ 2.07982% และ THAI BAHT FIX 6M (11 มี.ค.) อยู่ที่ 2.06130%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.92 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 103.31 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3860 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.3850 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.3280 บาท/ดอลลาร์
- นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดในแดนลบก่อน รับ Sentiment ลบจากต่างประเทศ โดยตลาดภูมิภาคเช้านี้ร่วงไป 1-2% เหตุเศรษฐกิจจีนชะลอและเริ่มส่งผลกระทบต่อสินค้าโภคภัณฑ์แล้ว นอกจากนี้ยังมีประเด็นทางยุโรปก็จะคว่ำบาตรรัสเซียด้วย ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงมีแรงขายออกมา แต่ผลกระทบคงจำกัดในตลาดหุ้นไทย เหตุได้รับแรงหนุนจากต่างชาติที่กลับมาซื้อ-ปลายไตรมาสมักจะมีการทำ Window Dressing อีกทั้งยังมีลุ้นผลประชุมกนง.วันนี้-จับตาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,353-1,355 แนวต้าน 1,370-1,380 จุด
- ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเรื่องการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศในวันนี้
- ตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจวอลุ่มซื้อขายปีนี้ ยังสูงสุดในอาเซียน แม้ 2 เดือนแรกแผ่ว เหลือ 3 หมื่นล้านบาทต่อวัน คาดครึ่งปีหลังภาวะเศรษฐกิจกิจนอกฟื้น-การเมืองคลี่คลายดันเงินไหลกลับ มองไทยเป็นผู้นำในอาเซียนไทย เพราะปัจจุบันเป็นรองสิงคโปร์แค่ด้านมาร์เก็ตแคป เผยในอนาคตมีแผนเทียบชั้นตลาดหุ้นไต้หวัน
- เอกชนประเมินภาพการเมืองไทยกว่าจะชัดเจนอาจใช้เวลายาว 2-3 ปี งบประมาณกระตุ้น ศก.ชะลอตาม ไปด้วย เตือนลงทุนการบริโภคในประเทศดิ่งหากการเมืองไม่ชัดลงทุนจ่อย้ายฐานหนี ขณะที่ SMEs ทยอยเจ๊ง มองจีดีพีปีนี้โต 2-3% แนะเร่งส่งออกช่วยขับเคลื่อน "บีโอไอ" มั่นใจไม่ย้ายฐาน
- สบน.เผย "ฟิทช์" ประกาศ อันดับความน่าเชื่อถือของไทย ที่ระดับ A- อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ สะท้อนสถานะภาคต่างประเทศของไทยที่แข็งแกร่ง และกรอบนโยบายทางการเงินที่มั่นคง ขณะเดียวกัน ตัวชี้วัดหลักด้านการคลังภาครัฐ อยู่ในระดับที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในกลุ่มอันดับความน่าเชื่อถือเดียวกัน
- นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การปรับนโยบายเงินหยวนของจีนให้มีแนวโน้มอ่อนค่าลง น่าจะเป็นการส่งสัญญาณการพยายามเป็นอิสระหรือเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นจากเงินเหรียญสหรัฐ ผลที่ตามมา คือ ทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทจากนี้ไปจะผันผวนมากขึ้น นักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินต้องซื้อป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น
- ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบเยนเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินไว้ไม่เปลี่ยนแปลง โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.90 เยน จากระดับ 103.20 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8773 ฟรังค์ จากระดับ 0.8783 ฟรังค์
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่เงินเยนแข็งค่าขึ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอนของยูเครน นอกจากนี้ ความผันผวนของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย ยังส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซาด้วย
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอนของยูเครน รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและจีน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนในยูเครน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 90 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,490 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,351.07 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.73 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง